รีวิวรถ

Audi Q8 55 TFSI quattro S line

ปี 1980 Audi เริ่มต้นนำระบบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เข้ามาใช้กับรถยนต์ที่เป็นโปรดักชั่น คาร์ เป็นครั้งแรก ใช้ชื่อว่า Ur quattro (อูร์-ควอตโทร) หรือ Audi quattro ความโดดเด่นของระบบนี้ส่งผลทำให้ Audi ประสบความสำเร็จจากการแข่งขัน WRC (World Rally Championship) โดยสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในปี 1982 และ 1984
แรงบันดาลใจของ Ur quattro ยังคงส่งผลอย่างต่อเนื่องในผลิตภัณฑ์ของ Audi รวมถึง Audi Q8 ที่เผยโฉมสู่โลกยานยนต์แล้วในวันนี้ ด้วยบรรทัดฐานใหม่ของยนตรกรรมที่ผสมผสานคุณลักษณะที่โดดเด่นของรถเอสยูวีขนาดใหญ่ และรถยนต์ 4 ประตู คูเป้ ที่มีดีไซน์หรูหรา เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว เป็นบทพิสูจน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อันเลื่องชื่อของ Audi ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


Audi Q8 เป็นรถที่ผ่านการออกแบบโดยสะท้อนแนวคิดใหม่ของ Audi (design language) ซึ่งเริ่มใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น A8 ได้อย่างชัดเจน โดยออกแบบให้รถมีรูปทรงที่ดูแข็งแกร่งตามแบบฉบับของ เอสยูวี, กระจังหน้าขนาดใหญ่ รูปทรง 8 เหลี่ยม ช่วยให้รถดูมีพลัง เสริมความหรูหราด้วยเส้นขอบโครเมียมแนวตั้ง 6 เส้น ตัดด้วยเส้นแนวนอนสีเทาเข้ม รับกับกันชนหน้าที่มีช่องรับอากาศ (air inlets) ขนาดใหญ่ เพิ่มความรู้สึกน่าน่าเกรงขาม ดุดัน และแสดงออกถึงความมั่นใจในตนเอง


ความโดดเด่นสวยงาม สะดุดตา ของ Audi Q 8 ที่ถือเป็นเอกลักษณ์เลย ก็คือ ไฟหน้าแบบ HD Matrix LED พร้อมไฟสำหรับขับขี่ในเวลากลางวัน (daytime running light) โฉบเฉี่ยวและมีเอกลักษณ์จากการออกแบบในลักษณะเส้นแนวตั้ง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนยามค่ำคืน และลดการรบกวนเพื่อนรวมทางจากระบบ Matrix ที่ไฟ LED แต่ละดวงทำงานเป็นอิสระเลือกจุดตกกระทบได้อย่างเหมาะสม ลดการส่งแสงรบกวนรบกวนรถคันอื่น แต่มีความสว่างในพื้นที่รอบๆ ช่วยให้มองเห็นเส้นทางได้กว้าง และไกล เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางยิ่งขึ้น


Audi Q8 ยังมาพร้อมกับไฟเลี้ยวแบบไดนามิกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง นอกจากนี้เมื่อมีการล็อก หรือปลดล็อกรถ ไฟทั้งด้านหน้าและด้านหลังจะติดสว่างในรูปแบบไฟแอนนิเมชัน หรือเรียกว่า Light staging นวัตกรรมแห่งการออกแบบอัลกอริทึม (algorithm) การควบคุมการส่องสว่างรูปแบบใหม่ ขณะที่เส้นสาย และรูปทรงต่างๆ ออกแบบได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเส้นแนวหลังคาที่ลาดลงตามแบบฉบับของรถคูเป้ ให้อารมณ์สปอร์ตและหรูหรา และเส้นสายรอบตัวรถที่เป็นไปตามหลักการอากาศพลศาสตร์ ทำให้รถดูเหมือนพร้อมที่พุ่งทะยานไปยังข้างหน้าตลอดเวลา เติมเต็มด้วยหลังคาพาโนรามิคที่เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ขณะที่ตัวถังด้านข้าง นอกจากรูปทรงที่โดดเด่นสวยงาม ยังเพิ่มเติมสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ด้วยการดึงอารมณ์ของรถคูเป้มาใช้กับกระจกหน้าต่างแบบไร้ขอบ ให้ความรู้สึกหรูหราและสปอร์ตยิ่งขึ้น


Audi Q8 โดดเด่นท้าทายทุกสายตาด้วยซุ้มล้อขนาดใหญ่ หนึ่งในอัตลักษณ์ของ quattro DNA จาก Audi มาพร้อมกับล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว ที่จะทำให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของรถยนต์ เอสยูวี ขนาดใหญ่ได้อย่างแท้จริง ด้านท้าย สวยงาม ลงตัว กับการออกแบบไฟท้ายแบบแนวนอน พร้อมไฟ LED ที่เชื่อมต่อกันต่อเนื่องระหว่างด้านซ้ายและด้านขวา ทำให้ท้ายรถดูเป็นหนึ่งเดียวกัน แตกต่าง และมีเอกลักษณ์ที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล นอกจากนี้แถบสีดำเชื่อมต่อไฟท้ายซ้าย-ขวา ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Audi Ur quattro
การออกแบบตัวถังไม่เพียงแต่เน้นให้มีความสวยงาม หรูหราเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญในด้านวิศวกรรมด้วยการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมในรูปแบบของ multi-material construction โดยอลูมิเนียมและเหล็กชนิดต่างๆ จะถูกเลือกใช้ในชิ้นส่วนและตำแหน่งที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของการใช้งาน


Audi Q8 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานทั้งนอกเมืองและในเมือง หนึ่งในเป้าหมายคือ ความนุ่มนวลภายในห้องโดยสารจะต้องได้รับการพัฒนาเพื่อให้ถูกใจผู้โดยสาร ซึ่ง Q8 ใช้ช่วงล่างระบบถุงลมแบบสปอร์ต สามารถปรับระดับความสูงของตัวถังได้สูงสุดถึง 90 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในแต่ละสถานการณ์ ทำให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมไปด้วยความนุ่มนวลที่แฝงไว้ด้วยอารมณ์สปอร์ต



สำหรับภายในห้องโดยสาร Audi Q8 ถูกออกแบบให้มีความสะดวกสบาย แต่มีความสปอร์ต ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และการเดินทางท่องเที่ยว สัมผัสแรกเมื่อเปิดประตู Audi Q8 ทุกท่านจะรับรู้ถึงกลิ่นอายความเป็นสปอร์ต เอสยูวี กับเบาะนั่งคู่หน้าแบบ S Sports หุ้มหนัง Valcona คุณภาพสูง ตัดเย็บและตกแต่งแบบไดมอนด์ คัท พร้อมสัญลักษณ์ S line หนึ่งเดียวในเซ็กเมนต์ที่เหนือกว่า


ภายในของ Audi Q8 เป็นการออกแบบตามแบบแนวคิดใหม่ (design language) จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ภายในห้องควบคุมของนักบิน การออกแบบคอนโซลกลางแบบหรูหรา ทันสมัย โดยลดปุ่มสวิทช์ควบคุมให้น้อยที่สุด แทนที่ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 2 จอ นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 4 โซน พร้อมม่านบังแดดด้านข้างประตูสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า


Audi Q8 ยังเพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทางด้วยเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ ประกอบด้วยลำโพงคุณภาพสูง 17 ตำแหน่ง ให้กำลังขับรวม 730 วัตต์ สร้างความประทับใจในทุกมิติเสมือนนั่งอยู่ในคอนเสิร์ต ฮอลล์


และถึงแม้ว่า Q8 จะมีแนวเส้นหลังคาที่ลาดลงตามแบบฉบับของรถยนต์แบบคูเป้ แต่ยังคงมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ โดยมีพื้นที่มากถึง 605 ลิตร พร้อมแผ่นปิดสัมภาระแบบไฟฟ้าหนึ่งเดียวในตลาดเดียวกัน และยังสามารถขยายพื้นที่ได้เพิ่มเติมอีกเมื่อพับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง ซึ่งจะทำให้พื้นที่ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 1,755 ลิตร รองรับสำหรับทุกกิจกรรมที่ท้าทาย


Audi Q8 ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดสมรรถนะสูง ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ผสานเทคโนโลยี ไมล์ด ไฮบริด ซึ่งเปลี่ยนมาใช้ระบบกระแสไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ เทคโนโลยีไมล์ด ไฮบริด ยังทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนในลักษณะลอยตัว (coasting phase) ได้ยาวนานมากขึ้น และยังช่วยเสริมการทำงานของระบบ start-stop ให้มีความราบรื่นยิ่งขึ้นจนผู้ขับขี่แทบไม่รู้สึกถึงการติด-ดับของเครื่องยนต์


และแน่นอนยังเพิ่มความมั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาเป็นระยะเวลากว่า 38 ปี โดยระบบขับเคลื่อนของ Audi Q8 จะกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและหลังในรูปแบบ 40:60 แต่สามารถปรับการกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้า-หลังได้อย่างอิสระสอดคล้องกับสภาพการขับขี่ในช่วงเวลานั้นๆ ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการควบคุมรถยนต์ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเส้นทางโค้ง หรือการขับขี่บนถนนที่เปียกลื่น เสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตามปรัชญาที่ตั้งไว้ว่า “พละกำลังจะไร้ค่าโดยสิ้นเชิงหากขาดการควบคุม”


ในโอกาสฉลองเปิดสำนักงานใหญ่-โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ Audi Centre Thailand และภายใต้การสนับสนุนของ Audi AG ที่เห็นศักยภาพของประเทศไทย อาวดี้ประเทศไทยได้จัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้ตลาด ด้วยการชิงเปิดตัว Audi Q8 เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรุ่นที่นำเข้ามาคือ Audi Q8 55 TFSI quattro S line โดยมีราคาจำหน่าย 6,799,000 บาท

Most Popular

To Top