ข่าว

บีเอ็มดับเบิลยู มุ่งหน้าสู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อน พลังแห่งทางเลือกภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย มุ่งหน้าสู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อน เสนอที่สุด
พลังแห่งทางเลือกภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021 นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู
630
i GT M Sport

และอีกหลากหลายรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสปอร์ตอเนกประสงค์ บีเอ็มดับเบิลยู iX และ iX3

กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นด้านอนาคตแห่งการขับเคลื่อนด้วยทัพรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ล่าสุดและข้อเสนอสุดพิเศษภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการนำเสนอที่สุดของพลังแห่งทางเลือกให้กับลูกค้า พร้อมจัดแสดงรุ่นรถยนต์ในหลากหลายระบบขับเคลื่อนให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสอย่างจุใจ นำทัพโดยบีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ ที่มาพร้อมสมรรถนะสปอร์ตทรงพลังตามแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยู ผสานความสะดวก สบายเหนือระดับสำหรับการขับขี่ทางไกล ในขณะที่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ โดดเด่นด้วยความสปอร์ตและทันสมัย ผสมผสานความดิจิทัลยิ่งกว่ากับบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ ในขณะที่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู iX และ iX3 ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและดีไซน์การออกแบบล้ำสมัยมาอวดโฉมภายในงาน

ไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38

บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่

ราคาจำหน่าย: 4,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard  คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)

บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ โดดเด่นกว่ารถยนต์อื่น ๆ ในคลาสเดียวกัน ผสมผสานความสะดวก สบายสำหรับการขับขี่ทางไกลและสมรรถนะสไตล์สปอร์ตไว้อย่างลงตัว พร้อมการออกแบบภายในที่หรูหราและฟังก์ชันการใช้งานอัจฉริยะ คอนเซปต์และรายละเอียดการออกแบบตัวถังและภายในตัวรถอย่างพิถีพิถันส่งให้ตัวรถโดดเด่นยิ่งขึ้น ความเพลิดเพลินและประสิทธิภาพการขับขี่ถูกยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยนวัตกรรมระบบผู้ช่วยผู้ขับขี่ ระบบปฏิบัติการ และการเชื่อมต่อต่าง ๆ

การออกแบบภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ มาพร้อมสัดส่วนปราดเปรียวที่เน้นย้ำถึงเอกลักษณ์หรูหราสไตล์สปอร์ตและการใช้งานที่หลากหลาย สะดุดตาด้วยกระจกรถไร้ขอบทั้งสี่ประตู เส้นสายหลังคาที่ทอดยาวจนถึงท้ายรถ ประตูท้ายขนาดใหญ่ และสปอยเลอร์หลังเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ดีไซน์ด้านหน้าและท้ายตัวรถแบบใหม่ส่งให้บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport มีรูปลักษณ์สง่างามสปอร์ตเตะตายิ่งขึ้น กระจังหน้าและไฟหน้าทรงใหม่โดดเด่นกว่าเคย กระจังหน้าทรงไตคู่เหยียดออกด้านข้างและเข้าใกล้กันชนยิ่งขึ้น ส่วนกันชนท้ายดูกว้างและสะดุดตาเป็นพิเศษ ท่อไอเสียมาในทรงสี่เหลี่ยมคางหมู แพ็คเกจชุดแต่ง M Sport ออกแบบใหม่เช่นกัน มาพร้อมกันชนหน้าทรงลูกศรที่ชี้ไปทางถนนและชิ้นส่วนตะแกรง และดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ท้ายรถ

ไฟหน้าใหม่ในระบบ LED มาพร้อมฟังก์ชันไฟหน้าปรับองศาการเข้าโค้งอัตโนมัติ ระบบ BMW Selective Beam ลดความพร่ามัว ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติพร้อมเทคโนโลยี Matrix มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน การออกแบบไฟหน้าสะดุดตาด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันรูปตัว L สองตัวที่เรียงข้างกัน โดยไฟขับขี่ด้านนอกยังทำหน้าที่เป็นไฟเลี้ยวอีกด้วย ส่วนระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติช่วยปรับไฟส่องสว่างบนถนนได้ตามสถานการณ์การขับขี่

คอนเซปต์การออกแบบที่เด่นชัดของบีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ เสริมความโอ่อ่าและการใช้งานที่ทันสมัยภายในตัวรถ ความหรูหราเหนือระดับนี้มาพร้อมกับห้องโดยสารที่เอื้อต่อผู้ขับขี่ เบาะนั่งที่สูงขึ้น และการใช้งานที่หลากหลาย ช่องเก็บสัมภาระเพิ่มความจุจาก 600 ลิตรได้สูงสุด 1,800 ลิตร ระบบแสดงผล BMW Live Cockpit Professional ที่มาพร้อมหน้าปัดดิจิทัลและจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ด้านระบบควบคุมที่อยู่บริเวณคอนโซลกลางดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey และพวงมาลัยหนัง M Sport ที่จัดวางปุ่มควบคุมต่าง ๆ ใหม่ เป็นสองฟีเจอร์เด่นที่ส่งให้ภายในตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ มีความพรีเมียมยิ่งขึ้น อุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ ยังรวมถึงเบาะนั่งปรับไฟฟ้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าและเบาะหนัง Dakota บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์สปอร์ต แถบตกแต่งภายในใหม่ ชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบใหม่ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน หลังคากระจก Panorama และระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon

บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ ยกระดับความสะดวกสบายในการขับขี่ พร้อมห้องโดยสารที่โอ่อ่ากว้างขวางเพื่อความผ่อนคลายในการเดินทาง มาในเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ
8 จังหวะแบบ Sport Steptronic ส่งพละกำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,550 – 4,400 รอบต่อนาที จึงเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งสู่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

บีเอ็มดับเบิลยู BMW 630i GT M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมและแสดงผลชั้นเยี่ยม นำเสนอที่สุดแห่งความครบถ้วนในการควบคุมรถยนต์ การนำทาง รวมถึงฟังก์ชั่นการสื่อสารและระบบความบันเทิงที่ครบเครื่อง มอบความสะดวกสบายด้วย BMW ConnectedDrive กับระบบการสั่งงานด้วยเสียง กล้องแสดงภาพด้านหลัง และระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ เสริมความล้ำสมัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชัน Stop&Go ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ  รวมถึงฟังก์ชันจอดรถยนต์ปราศจากผู้ขับขี่ควบคุมด้วยกุญแจ และระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ BMW Head-Up Display

ระบบแสดงผล BMW Live Cockpit Professional ในบีเอ็มดับเบิลยู BMW 630i GT M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Operating System 7 ที่นอกจากจะช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายและปรับแต่งหน้าจอแสดงผลได้ง่ายยิ่งขึ้น ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้บริการดิจิทัลเพิ่มเติมได้อีกด้วย อุปกรณ์มาตรฐานในบีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ ยังรวมถึงระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ที่ใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม

บีเอ็มดับเบิลยู BMW 630i GT M Sport ใหม่ มาใน 3 สีตัวถัง คือสีเทา Bernina Grey สีดำ Carbon Black และสีขาว Mineral White

 

บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่

ราคาจำหน่าย: 3,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)

บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่

ราคาจำหน่าย: 3,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)

บีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ ในรูปลักษณ์ทันสมัยสื่อถึงพละกำลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า กับการออกแบบที่ปรับเปลี่ยนทั้งด้านหน้าและท้ายตัวรถ รวมไปถึงการเน้นย้ำองค์ประกอบคลาสสิคที่บ่งบอกความเป็นรถยนต์ตระกูล X กระจังหน้าทรงไตคู่และไฟหน้า กันชนหน้าและท้ายถูกออกแบบมาใหม่ ในขณะที่ไฟท้ายสะดุดตายิ่งขึ้น องค์ประกอบคุณภาพสูงอย่างแผ่นปิดใต้ห้องเครื่องยนต์และสเกิร์ตข้างตามสไตล์รถยนต์ตระกูล X มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ดีเอ็นเอความสปอร์ตแบบรถยนต์ Sports Activity Vehicle (SAV) ยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยแพ็คเกจชุดแต่ง M Sport

 

   

บีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ ในรูปลักษณ์ทันสมัยสื่อถึงพละกำลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า กับการออกแบบที่ปรับเปลี่ยนทั้งด้านหน้าและท้ายตัวรถ รวมไปถึงการเน้นย้ำองค์ประกอบคลาสสิคที่บ่งบอกความเป็นรถยนต์ตระกูล X กระจังหน้าทรงไตคู่และไฟหน้า กันชนหน้าและท้ายถูกออกแบบมาใหม่ ในขณะที่ไฟท้ายสะดุดตายิ่งขึ้น องค์ประกอบคุณภาพสูงอย่างแผ่นปิดใต้ห้องเครื่องยนต์และสเกิร์ตข้างตามสไตล์รถยนต์ตระกูล X มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ดีเอ็นเอความสปอร์ตแบบรถยนต์ Sports Activity Vehicle (SAV) ยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยแพ็คเกจชุดแต่ง M Sport

บีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ รับเอาดีไซน์คอนโซลกลางมาจากบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 4 ในปัจจุบัน หน้าจอ Control Display แบบตั้งลอยพร้อมฟังก์ชันทัชสกรีน ในขนาด 12.3 นิ้วเป็นมาตรฐาน อุปกรณ์มาตรฐานต่าง ๆ ที่พัฒนาเพิ่มเติมยังรวมถึงเบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์สปอร์ตและระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน และยังมีชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่ช่วยให้บรรยากาศในรถมีความหรูหราและผ่อนคลายยิ่งขึ้น

   

บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ผสมผสานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ xDrive และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า eDrive ของบีเอ็มดับเบิลยูเข้ากันอย่างลงตัว เพื่อมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ควบคู่ความยั่งยืนอย่างสมบูรณ์ พร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร มอบกำลังสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic พร้อม Gearshift Paddles มอบกำลังขับจากระบบไฟฟ้าสูงสุดที่ 80 กิโลวัตต์ / 109 แรงม้า โดยส่งพลังลงสู่ล้อทั้งสี่อย่างเต็มพิกัดเพื่อตอบทุกโจทย์การขับขี่อย่างแท้จริง รวมถึงการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การประหยัดน้ำมัน และการลดมลภาวะ เมื่อนับรวมกันแล้ว เครื่องยนต์ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นนี้สามารถส่งกำลังรวมสูงสุดได้ถึง 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า และยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ลงมาที่ระดับ 35.7 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่อัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 64 กรัมต่อกิโลเมตร และหากนับรวมการใช้พลังงานทั้งสองรูปแบบแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะมีอัตราการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 17.92 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมาพร้อมกับเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ล่าสุด ส่งกำลังให้สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ในระยะทางสูงสุดถึง 47 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในด้านการใช้พลังงานนี้ ยังมาพร้อมสมรรถนะที่เป็นเลิศ ด้วยแรงบิดรวมสูงสุดที่ 420 นิวตันเมตร จึงเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ด้านบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง BMW TwinPower Turboเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ มอบกำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดกว่า 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อวินาที เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic พร้อม Gearshift Paddles

ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ Sportมาพร้อมกับล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วในลาย Double-Spoke ระบบไฟหน้า LED ปรับตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัย ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยการขับขี่ ระบบแสดงผล BMW Head-Up Display โดยบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ โดดเด่นด้วยช่วงล่าง Adaptive ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus คาลิเปอร์เบรก M Sport ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ มาพร้อมกับช่วงล่าง M Sport ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ และกล้องแสดงภาพด้านหลัง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารยังเพลิดเพลินไปกับการเดินทางได้ด้วยระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport และระบบเครื่องเสียง HiFi loudspeaker ในบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport อีกด้วย ด้านปริมาตรการจุสัมภาระของบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ อยู่ที่ 450 – 1,500 ลิตร และ 550 – 1,600 ลิตร ตามลำดับ ในขณะที่ระบบ BMW Live Cockpit Professional ติดตั้งมาในรถยนต์ทั้งสองรุ่น มอบการเชื่อมต่อไร้สายกับสมาร์ทโฟนได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านแอป Apple CarPlay

ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ มีมาให้เลือกใน 5 สีตัวถัง ไม่ว่าจะเป็น สีดำ Black Sapphire metallic สีเทา Brooklyn Grey metallic สีขาว Mineral White metallic สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีเทา Sophisto Grey brilliant effect

 

บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport
ราคาจำหน่าย: 5,999,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

บีเอ็มดับเบิลยู iX มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมความล้ำยุคด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและการเชื่อมต่ออีกมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้าซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่ทรงพลัง บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 385 กิโลวัตต์/523 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ห้านี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 630 กิโลเมตร สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 765 นิวตันเมตร ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) ได้รับการติดตั้งควบคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก ช่วยป้องกันการลื่นไถลของล้อและเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถยิ่งขึ้นอีกระดับ จึงโลดแล่นด้วยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.6 วินาที

 

แบตเตอรี่แรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport มีความจุพลังงานสุทธิ 105.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง และความจุพลังงานรวม 111.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ จึงสามารถชาร์จจาก 0% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 39 นาที อีกทั้งยังเพิ่มระยะขับขี่ได้สูงสุดถึง 100 กิโลเมตร หลังชาร์จแบตเตอรี่ด้วยการชาร์จแบบ DC 50 กิโลวัตต์ เพียง 21 นาที

ระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive recuperation) ช่วยเสริมประสิทธิภาพและระยะการขับขี่ของบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport ด้วยการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ โดยใช้ข้อมูลจากระบบนำทางและเซนเซอร์จากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น เมื่อรถเข้าใกล้ทางแยก ระดับการดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเติมพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่แรงดันสูง ขณะเดียวกันก็จะทำให้ความเร็วในการขับขี่ลดลง และจะทำงานสลับกับฟังก์ชั่น Coasting ขณะขับขี่บนท้องถนน ซึ่งช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ โดยเมื่อเลือกขับขี่ด้วยเกียร์ B ระบบ Recuperation จะทำงานที่ระดับสูงสุดโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ one-pedal feeling

   

โครงสร้างตัวถัง ปรัชญาการดีไซน์ และการออกแบบแชสซีของบีเอ็มดับเบิลยู iX ได้รับการพัฒนาเพื่อหลอมรวมความสะดวกสบายเหนือระดับในการขับขี่และการควบคุมที่โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต โครงสร้างของบีเอ็มดับเบิลยู iX มาในวัสดุอลูมิเนียมแบบ spaceframe ส่วนหลังคามาในโครงสร้าง Carbon Cage ซึ่งประกอบ ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณด้านข้างและด้านหลัง ผสานการใช้วัสดุสองประเภทเข้าไว้ด้วยกันเพื่อเสริมทั้งความแข็งแกร่งและลดน้ำหนักให้เบาลงได้อย่างชาญฉลาด ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Drag Coefficient) ที่ต่ำเพียง 0.25 จากองค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ต่าง ๆ ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์และระยะการขับขี่ด้วยเช่นกัน แบตเตอรี่แรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู iX ที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง เมื่อประสานเข้ากับการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุลจึงทำให้ตอบสนองต่อการควบคุมได้ฉับไวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รูปแบบการขับขี่ที่มีความสมดุลของบีเอ็มดับเบิลยู iX ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงและความสบายขณะขับขี่ ขณะที่ยังคงความคล่องตัวไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

เทคโนโลยีแชสซีที่ใช้ในการพัฒนาบีเอ็มดับเบิลยู iX ประกอบด้วย เพลาหน้าแบบปีกนกคู่ เพลาหลังแบบ five-link ช่วงล่างแบบปรับระดับได้ และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) แปรผันตามการหมุนและความเร็ว มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบถุงลมที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) และเบรกแบบสปอร์ต ล้อ aerodynamic ขนาด 22 นิ้ว แบบสลับสี ขัดเงาสามมิติ เสริมด้วยยางล้อลดเสียงรบกวนที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียงได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน

   

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใครของบีเอ็มดับเบิลยู iX คือดีไซน์ภายนอกที่มีเส้นสายในการออกแบบชัดเจนทรงพลัง แต่ยังมีความเรียบง่าย และคงความบึกบึนสไตล์ SAV รายละเอียดขององค์ประกอบต่าง ๆ สื่อถึงความประณีตและความหรูหราล้ำยุค โดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ สะท้อนถึงนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย ส่วนกล้องและเรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายที่เรียวยาวที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู มือจับประตูที่เปิดด้วยการกดปุ่ม หน้าต่างไร้ขอบ และประตูท้ายสอดประสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถโดยไม่มีช่องว่าง

    

   

การออกแบบภายในห้องโดยสารมุ่งนำเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ พื้นที่กว้างขวางและเบาะที่นั่งแบบใหม่พร้อมพนักพิงศีรษะเสริมความหรูหรายิ่งขึ้น พื้นที่วางขามากขึ้นเนื่องจากไม่ต้องมีท่อส่งน้ำมันกลางตัวรถ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ คอนโซลกลางมาในดีไซน์เฉียบ ปุ่มควบคุมระบบสัมผัสและระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ rocker switch เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมเน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยจอ BMW Curved Display พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยมและจอ Head-Up Display

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาพร้อมฟิลเตอร์นาโนไฟเบอร์ที่สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ ควบคุมผ่านจอระบบสัมผัสแบบใหม่ ซึ่งใช้ควบคุมการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องโดยสาร รวมถึงระบบทำความร้อนที่เบาะนั่งและพวงมาลัย มาพร้อมตัวเลือกอุปกรณ์เสริมคุณภาพเสียงทรงพลังยิ่งขึ้น อย่างระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System ที่ฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D ที่มีฟังก์ชั่นสั่นตามเสียงเบสในเบาะหน้า

บีเอ็มดับเบิลยู iX ยังมาพร้อมเสียงประกอบการขับขี่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เติมเต็มความเร้าใจในการขับขี่ทุกครั้งที่เร่งความเร็ว นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น BMW IconicSounds Electric ซึ่งสามารถซื้อได้ผ่าน BMW Shop ยังมาพร้อมตัวเลือกเสียงใหม่ล่าสุดจากนักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Hans Zimmer

บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผลและระบบทำงาน iDrive เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในบีเอ็มดับเบิลยู iX ต่อยอดการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งได้รับการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้า โดยจอ BMW Curved Display เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทัลประกอบด้วย จอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้วและจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ดิจิทัลมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่และแสดงกราฟฟิกดีไซน์ใหม่ขณะสื่อสารกับผู้ใช้งาน ระบบ My Modes ใหม่ ขยายการตั้งค่าต่าง ๆ ของรถยนต์ให้ครอบคลุมประสบการณ์ขับขี่ทุกรูปแบบ

บีเอ็มดับเบิลยู iX ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และนวัตกรรมหลากหลายที่สุด เหนือกว่ารถยนต์ทุกรุ่นจากบีเอ็มดับเบิลยู พร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go รวมถึงสองระบบใหม่ล่าสุด – ระบบเตือนขณะเปิดประตูรถ ในกรณีที่มีจักรยานหรือคนเดินเท้าอยู่ใกล้ประตูรถ (Exit warning function) และระบบ Remote Theft Recorder เสริมการทำงานของระบบที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ประกอบด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบสามมิติผ่านระบบ Remote 3D

กระบวนการผลิตบีเอ็มดับเบิลยู iX ยังครอบคลุมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้อลูมิเนียมที่ผ่านกระบวนการหล่อและนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ในปริมาณมาก ภายในห้องโดยสารประกอบด้วยวัสดุไม้ที่รับรองจาก FSC หนังฟอกด้วยสารสกัดจากใบมะกอก และยังมีส่วนประกอบจากธรรมชาติอื่น ๆ อีกมากมาย และยังใช้แหจับปลาที่ผ่านการรีไซเคิลเป็นหนึ่งในวัสดุสำหรับผลิตพรมปูพื้นรถอีกด้วย

ลูกค้าสามารถเลือกสีตัวถังได้ถึง 6 สไตล์ตามความต้องการ ได้แก่ สีแดง Aventurin Red, สีดำ Black Sapphire, สีขาว Mineral White, สีน้ำเงิน Phytonic Blue, สีเทา Sophisto Grey และสีเทา Storm Bay

 

บีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 3,399,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

บีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport มาพร้อมเอกลักษณ์สุดล้ำ ประสานประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับความหนาแน่นและความจุพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของแบตเตอรี่แรงดันสูง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า เทคโนโลยีการชาร์จ และแบตเตอรี่แรงดันสูงรุ่นล่าสุด ที่ได้รับการยกระดับในด้านสมรรถนะการทำงานการใช้พลังงานไฟฟ้า และระยะทางในการขับขี่ เพิ่มความหนาแน่นและศักยภาพของกำลังไฟฟ้าด้วยการรวมมอเตอร์ไฟฟ้า วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และระบบเกียร์ไว้ภายใต้โครงสร้างเดียวกัน เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู iX

 

ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ในบีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport ส่งพละกำลังสูงสุด 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ซึ่งโดดเด่นกว่ามอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นอื่น ๆ ด้วยความสามารถในการคงแรงบิดได้แม้ระหว่างรอบสูง โลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับขี่สนุกอย่างอุ่นใจด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) ปริมาตรความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่การติดตั้งและน้ำหนัก ส่วนความจุพลังงานรวมอยู่ที่ 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยสามารถนำมาใช้งานได้สูงสุด 74 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพื่อขับเคลื่อนให้บีเอ็มดับเบิลยู iX3 ขับขี่ได้ไกลถึง 460 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP และ 470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

เทคโนโลยีระบบชาร์จใหม่ล่าสุดเติมพลังงานสู่แบตเตอรี่ 400 โวลต์ และแหล่งจ่ายไฟ 12 โวลต์แก่อุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถ หากใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ สามารถชาร์จด้วยระบบไฟแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส ได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ และเมื่อชาร์จแบบรวดเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง จะรับพลังงานได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์แบตเตอรี่แรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู iX3 ยังรองรับการชาร์จจาก 0 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ภายใน 34 นาที

บีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport มาพร้อมระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive recuperation) เพิ่มสมรรถนะและความสะดวกสบายระหว่างการขับขี่ ระดับการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่จะแปรผันตามสภาวะถนน ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลในระบบนำทางและเซนเซอร์ในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ เมื่อเข้าเกียร์ D และระบบ Recuperation จะทำงานอัตโนมัติในระดับสูงเมื่อเข้าเกียร์ B เพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่ยนตรกรรมไฟฟ้าอันเฉพาะตัวของบีเอ็มดับเบิลยู

แบตเตอรี่แรงดันสูงรุ่นล่าสุดนี้ติดตั้งอยู่ใต้ตัวรถ จึงช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงลงประมาณ 7.5 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับ X3 รุ่นอื่น ๆ ระบบช่วงล่างแบบ Adaptive ปรับระดับด้วยไฟฟ้าตามสภาพถนนและสภาวะการขับขี่

 

   

รูปโฉมภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport ยังคงสัดส่วนที่โฉบเฉี่ยวสไตล์ SAV มาพร้อมความแข็งแกร่งระดับพรีเมียมและความอเนกประสงค์ของตระกูล X โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการดีไซน์เฉพาะรุ่นอย่างชิ้นส่วนแอโรไดนามิกส์ต่าง ๆ สอดแทรกด้วยดีไซน์ที่สื่อถึงความยั่งยืน กระโปรงหน้าและกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่มาในดีไซน์ปิดทึบ ท้ายรถมาพร้อมการออกแบบเพื่อลดแรงต้านอากาศ

   

ไฮไลท์ของบีเอ็มดับเบิลยู iX3 ยังอยู่ที่ความหลากหลายในการใช้งาน มาพร้อมพื้นที่กว้างขวางกว่า X3 รุ่นอื่น ๆ เบาะหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40 ช่วยเพิ่มปริมาตรการบรรจุสัมภาระจาก 510 ถึง 1,560 ลิตร เสริมความเอ็กซ์คลูซีฟด้วยระบบเสียง BMW IconicSounds Electric ซึ่งมาเป็นมาตรฐานสร้างทำนองเสียงไม่ซ้ำใครเมื่อสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์จากผลงานของ Hans Zimmer ล้อ M aerodynamic ขนาด 20 นิ้วแบบสลับสี เสริมประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิกส์ยิ่งขึ้น ไฟหน้า Adaptive LED เสริมฉนวนกันเสียงที่ประตูหน้า และยังมีอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเสริมความสะดวกสบายแบบพรีเมียมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบปลดล็อกประตู Comfort Access เบาะหนัง Vernasca ตอนหน้าดีไซน์แบบสปอร์ต จอ BMW Head-Up Display ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus พร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัยแบบเอ็กซ์คลูซีฟยิ่งขึ้นด้วยระบบ BMW gesture control ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ระบบ BMW Live Cockpit Professional และ BMW Intelligent Personal Assistant

บีเอ็มดับเบิลยู iX3 M Sport มาให้เลือกใน 5 สี ได้แก่ สีดำ Carbon Black, สีขาว Mineral White, สีน้ำเงิน Phytonic Blue, สีแดง Piemont Red และสีเทา Sophisto Grey

 

ข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021

ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่จองรถยนต์ระหว่างงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38 และรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 จะได้รับสิทธิประโยชน์* ดังนี้

 

# # #

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป   

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด  โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

ในปี พ.ศ. 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.3 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์มากกว่า 169,000 คัน ทั่วโลก มีกำไรก่อนหักภาษีในรอบปีบัญชี 2562 เท่ากับ 7.118 พันล้านยูโรจากยอดรายได้รวมทั้งสิ้น 104.210 พันล้านยูโร  โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 126,016 คนทั่วโลก

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) รับผิดชอบการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง

ในปี 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,426 คัน โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 11,242 ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มินิมียอดการส่งมอบ 1,184 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 1.7% ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดส่งมอบ 1,224 คัน แม้จะต้องประสบกับสถานการณ์โรคระบาดในปี 2563

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมา นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 17 รุ่น ได้แก่ บีเอ็ม
ดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็ม
ดับเบิลยู X5 และบีเอ็มดับเบิลยู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR
บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็มดับเบิลยู  R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง
ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
1397

www.bmw.co.th

www.mini.co.th

www.bmw-motorrad.co.th

 

สื่อมวลชนติดต่อ  บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 125)
sboonsaeng@carlbyoir.com, pthanawajeran@carlbyoir.com

 

 

 

 

 

Most Popular

To Top