![](https://auto-variety.com/wp-content/uploads/2019/07/เคลือบแก้ว-2-1024x576.jpg)
1.ล้างด้วยน้ำสะอาดธรรมดา รถที่ผานการเคลือบปกป้องมาแล้วจะมีความลื่นและมีปฏิกิริยาป้องการไฟฟ้าสถิต ซึ่งจะทำให้พวกฝุ่นผงสิ่งสกปรกต่างๆไม่สามารถเกาะติดได้ ฉนั้นเพียงเราใช้น้ำธรรมดาและใช้ผ้าลูบเบาๆ ผงฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆก็จะหลุดออกไปหมดอย่างง่ายดาย แถมใช้เวลาก็น้อย และยังไม่ต้องคอยมากังวลว่าจะต้องรีบเช็ดรถก่อนที่จะแห้งเอง เพื่อป้องกันการเกิดรอยคราบน้ำด้วย เพราะคราบน้ำเหล่านั้นจะไม่สามารถมาเกาะติดผิวรถได้อีกด้วย
![](https://auto-variety.com/wp-content/uploads/2019/07/uy-06fd.jpg)
2.ในกรณีรถเรามีฝุ่นเกาะเพียงเล็กน้อยเราก็สามารถใช้ผ้าสะอาดหรือไม้ปัดขนไก่ปัดได้เลย และไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องขนแมว เนื่องจากมีชั้นฟิล์มที่แข็งปกป้องรถเราอยู่ ฝุ่นผงถึงจะมีความแข็ง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ชั้นฟิล์มใสนี้เป็นรอยได้
![](https://auto-variety.com/wp-content/uploads/2019/07/iStock-496037648-1-600x400.jpg)
3.ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทขัดสีรถ เพราะจะทำให้ชั้นฟิล์มบางลง อีกทั้งไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องทำแบบนั้น เพราะรถหลังเคลือบแก้ว ไม่มีรอยคราบอะไรมาเกาะติดฝังแน่นได้อีก แค่เช็ดเบาๆ ก็หลุดออกแล้ว
![](https://auto-variety.com/wp-content/uploads/2019/07/blackcar.jpg)
4.กรณีอยากเคลือบ WAX เรื่องนี้รถที่ผ่านการ เคลือบแก้ว สามารถลงเพิ่มได้ เป็นการเสริมความเงางาม และช่วยเพิ่มการปกป้องได้ในรถที่ต้องจอดกลางแจ้ง เจอแดดแรงๆ เป็นประจำ แต่หากต้องการให้ดีที่สุด แนะนำเป็น สเปรย์ Detailer แบบพ่นแล้วเช็ดจะดีกว่า ทั้งใช้งานได้ง่าย และไม่ทิ้งชั้นของสารเคลือบ เหมือน WAX ทั่วไป
![](https://auto-variety.com/wp-content/uploads/2019/07/ff-1024x680.jpg)
5.อย่าใช้อุปกรณ์เครื่องขัดกับสีรถ เนื่องจากมันจะทำให้ชั้นฟิล์มที่เราเคลือบไว้เสียหาย
![](https://auto-variety.com/wp-content/uploads/2019/07/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL2F1LzAvdWQvMTIvNjIzODEvMTAxLmpwZw.jpg)
![](https://auto-variety.com/wp-content/uploads/2022/06/logo-auto-variety-1-19.png)