หากจะให้กล่าวคำว่า “ที่สุด” ของกีฬามอเตอร์สปอร์ตนั้น คอความเร็วทั่วโลกจะนึกถึง “ฟอร์มูล่าวัน” และ “โมโตจีพี” เป็นอันดับต้นๆ เพราะทั้งสองรายการ คือ “เบอร์หนึ่ง” ของโลกในฝั่ง “รถแข่งล้อเปิด” และ “รถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก” แต่ในโลกของมอเตอร์สปอร์ต ไม่ได้มีเพียง 2 รายการนี้เท่านั้น
“กีฬาความเร็ว” คือจุดเริ่มต้นของ “นวัตกรรม” และ “เทคโนโลยียานยนต์” ด้านต่างๆ ดังนั้น จึงมีการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตประเภทต่างๆ ขึ้นมา และแน่นอนว่ารายการเหล่านั้นก็มีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป
“เอ็นดูรานซ์”
คือการแข่งขันที่วัด “ความอึด” ของรถแข่ง ที่ต้องดวลความเร็วกันเป็นระยะเวลา 4 ชั่วโมง, 6 ชั่วโมง, 12 ชั่วโมง หรือมากที่สุดถึง 24 ชั่วโมง โดยห้ามดับเครื่องยนต์ แถมครอบด้วยกฎการแข่งขันอันเคร่งครัด มีนักขับตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปจนถึง 5 คน (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายการ) เพื่อสลับสับเปลี่ยนกันแต่ละช่วง จนครบตามเวลาที่กำหนด… และทีมช่างที่ต้องคอยเซอร์วิสรถแข่งตลอดทั้งการแข่งขัน…
การตัดสินแพ้–ชนะ
ผู้ชนะคือทีมที่นำรถแข่งเข้าเส้นชัยได้เป็นอันดับ 1 ในเวลาที่กำหนด ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ของเรซ ทั้งปัญหาของรถแข่งที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา, สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอในระยะเวลาการแข่งขันอันยาวนาน, อุบัติเหตุจากรถแข่งจำนวนมาก บางรายการมากถึง 100 คัน โดยทุกคันมีเป้าหมายคือไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด นี่คือ “เสน่ห์” ของ “เอ็นดูรานซ์” อันเต็มไปด้วยความหฤโหด
“เอเชียน เลอ มังส์ซีรีส์”
ซีรีส์แบบเอ็นดูรานซ์อันดับต้นๆ ของโลก ด้วยรถแข่งทุกคลาสเทียบเท่ากับ “เลอ มังส์24 ชั่วโมง รวมเอารถแข่งประเภทซูเปอร์คาร์ระดับโลกถึง 3 คลาส มาไว้ในแทร็ก เริ่มจากรถแข่งในคลาส แอลเอ็มพีทู (LMP2) ซึ่งเป็นรถสูตรล้อปิดในแบบเดียวกับรายการ เวิลด์ เอ็นดูรานซ์ แชมเปี้ยนชิพ รวมถึงรถสูตรล้อปิดในคลาส แอลเอ็มพีทรี (LMP3) รวมถึงรถแข่งซูเปอร์คาร์ในคลาส จีที (GT) อาทิ เฟอร์รารี่ 488 จีที3, แอสตัน มาร์ติน แวนเทจ จีที3, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม6 จีที3 และ ลัมบอร์กินี ฮูราคาน จีที3 อีโว
เสน่ห์ของการแข่งขัน
แข่งขันทั้งสิ้น 4 สนาม ได้แก่ เซี่ยงไฮ้, ออสเตรเลีย, มาเลเซีย สนามสุดท้าย “ไทย” เป็นเจ้าภาพ เป็นเรซตัดสินแชมป์ประจำปีของฤดูกาลนี้ ซึ่งแฟนๆ จะได้สัมผัสความเร็วใจจากการขับเคี่ยวสุดโหดแบบ 4 ชั่วโมงเต็ม ภายใต้รถแข่งที่มีเทคโนโลยีสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก การทำงานของทีมช่างที่แข่งกับเวลาทุกวินาที
ไม่เพียงความเข้มข้นของเรซเท่านั้น… แต่ความแปลกใหม่ของการแข่งขัน “เอ็นดูรานซ์” จะสร้างประสบการณ์การรับชมมอเตอร์สปอร์ต จาก “นวัตกรรมยานยนต์” ด้านต่างๆ เทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตของการทำงานในพิตที่ถอดแบบมาจาก “เวิลด์ เอ็นดูรานซ์ แชมเปี้ยนชิพ” และการโชว์ทักษะการขับสุดเร้าใจของนักแข่งรถชั้นนำของโลก ดวลกันทั้งสิ้น 4 ชั่วโมงเต็มๆ รถแข่งแต่ละคันห้ามดับเครื่องยนต์ตลอดการแข่งขัน นักขับทั้ง 3 คน สลับสับเปลี่ยนตามกลยุทธ์ที่แยบยลและรัดกุมของทีม เพื่อการคว้าชัยชนะ เหนือสิ่งอื่นใด ต้องใช้ทั้ง ทักษะการขับ, ทีมเวิร์ค และความสุดยอดของรถแข่ง การฝ่าวิกฤติของนักขับในสนามแข่งขันที่เต็มไปด้วยอุปสรรค์ต่างๆ ตลอดการแข่งขันที่ยาวนาน
หนึ่งในรายการมอเตอร์สปอร์ตที่แฟนความเร็วพลาดไม่ได้ การลุ้นแชมป์เอเชีย ซึ่งจะชิงดำกันที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ นี้ หาซื้อบัตรได้แล้วที่ allticket.com หรือ 7-11 ทุกสาขา บัตร VIP LOUNGE 1 วัน ราคา 2,000 บาท /2 วัน 3,000 บาท , บัตร Grand Stand 1 วัน ราคา 300 บาท / 2 วัน 500 บาท