นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมีนาคม 2564 ปรับตัวดีขึ้นทุกตลาดโดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 79,969 คัน เพิ่มขึ้น 25.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 30,183 คัน เพิ่มขึ้น 24.7% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 49,786 คัน เพิ่มขึ้น 26.1% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 38,106 คัน เพิ่มขึ้น 25.8%
– ประเด็นสำคัญ
ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม 2564 มีปริมาณการขาย 79,969 คัน เพิ่มขึ้น 25.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 24.7% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 26.1% แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID 19 ในประเทศยังเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม แต่ด้วยมารตรการต่างๆ จากภาครัฐในการช่วยเหลือประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เพิ่มเติม มีส่วนช่วยบรรเทาความตึงเครียดในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน และที่สำคัญตลาดรถยนต์ในเดือนนี้ได้รับปัจจัยบวกจากข้อเสนอพิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ที่เพิ่งจบสิ้นลง มีส่วนกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมในเดือนมีนาคมปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และกลับมาเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบปี
ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนเป็นที่น่าจับตามอง สืบเนื่องจากการระบาดของไวรัส COVID 19 ระลอกใหม่มีความรุนแรงกว่าระลอกที่ผ่านมา ส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้งอารมณ์ในการซื้อของลูกค้าลดลง แต่ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ยังคงดำเนินอยู่ เช่น โครงการ “เราชนะ” และ “ม33 เรารักกัน” สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนสามารถจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันได้บ้าง โดยยังคงมีแรงส่งจากการนำเสนอแคมเปญ “เงื่อนไขเดียวกับมอเตอร์โชว์” ของค่ายรถยนต์ และการทยอยส่งมอบรถยนต์ที่จองในงานมอเตอร์โชว์ที่ยังพยุงยอดขายรถยนต์ให้เดินหน้าต่อไปได้
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมีนาคม 2564
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 79,969 คัน เพิ่มขึ้น 25.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 22,276 คัน | เพิ่มขึ้น 28.5% | ส่วนแบ่งตลาด 27.9% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 17,523 คัน | เพิ่มขึ้น 28.6% | ส่วนแบ่งตลาด 21.9% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 10,295 คัน | เพิ่มขึ้น 37.2% | ส่วนแบ่งตลาด 12.9% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 30,183 คัน เพิ่มขึ้น 24.7%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า | 8,953 คัน | เพิ่มขึ้น 47.5% | ส่วนแบ่งตลาด 29.7% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 5,380 คัน | ลดลง 0.5% | ส่วนแบ่งตลาด 17.8% |
อันดับที่ 3 มาสด้า | 2,785 คัน | เพิ่มขึ้น 28.9% | ส่วนแบ่งตลาด 9.2% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 49,786 คัน เพิ่มขึ้น 26.1%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 17,523 คัน | เพิ่มขึ้น 28.6% | ส่วนแบ่งตลาด 35.2% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 16,896 คัน | เพิ่มขึ้น 41.7% | ส่วนแบ่งตลาด 33.9% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 3,199 คัน | เพิ่มขึ้น 45.0% | ส่วนแบ่งตลาด 6.4% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 38,160 คัน เพิ่มขึ้น 25.8%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 15,801 คัน | เพิ่มขึ้น 25.1% | ส่วนแบ่งตลาด 41.5% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 14,443 คัน | เพิ่มขึ้น 39.6% | ส่วนแบ่งตลาด 37.9% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 3,199 คัน | เพิ่มขึ้น 45.0% | ส่วนแบ่งตลาด 8.4% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,850 คัน
โตโยต้า 2,588 คัน – อีซูซุ 1,892 คัน – มิตซูบิชิ 914 คัน – ฟอร์ด 433 คัน – นิสสัน 23 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 32,256 คัน เพิ่มขึ้น 18.5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 13,909 คัน | เพิ่มขึ้น 16.0% | ส่วนแบ่งตลาด 43.1% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 11,855 คัน | เพิ่มขึ้น 26.3% | ส่วนแบ่งตลาด 36.8% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 2,766 คัน | เพิ่มขึ้น 54.8% | ส่วนแบ่งตลาด 8.6% |
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – มีนาคม 2564
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 194,137 คัน ลดลง 3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 55,931 คัน | ลดลง 0.4% | ส่วนแบ่งตลาด 28.8% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 49,248 คัน | เพิ่มขึ้น 16.2% | ส่วนแบ่งตลาด 25.4% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 24,959 คัน | ลดลง 13.7% | ส่วนแบ่งตลาด 12.9% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 65,256 คัน ลดลง 16.7%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า | 21,347 คัน | ลดลง 10.9% | ส่วนแบ่งตลาด 32.7% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 14,509 คัน | ลดลง 22.2% | ส่วนแบ่งตลาด 22.2% |
อันดับที่ 3 มาสด้า | 6,390 คัน | ลดลง 16.8% | ส่วนแบ่งตลาด 9.8% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 128,881 คัน เพิ่มขึ้น 5.5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 49,248 คัน | เพิ่มขึ้น 16.2% | ส่วนแบ่งตลาด 38.2% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 41,422 คัน | เพิ่มขึ้น 10.5% | ส่วนแบ่งตลาด 32.1% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 8,096 คัน | เพิ่มขึ้น 12.4% | ส่วนแบ่งตลาด 6.3% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 99,382 คัน เพิ่มขึ้น 2.5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 45,399 คัน | เพิ่มขึ้น 14.6% | ส่วนแบ่งตลาด 45.7% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 34,718 คัน | เพิ่มขึ้น 6.1% | ส่วนแบ่งตลาด 34.9% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 8,096 คัน | เพิ่มขึ้น 12.4% | ส่วนแบ่งตลาด 8.1% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 14,944 คัน
โตโยต้า 6,502 คัน – อีซูซุ 5,177 คัน – มิตซูบิชิ 1,967 คัน – ฟอร์ด 1,249 คัน – นิสสัน 49 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 84,438 คัน ลดลง 3.1%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 40,222 คัน | เพิ่มขึ้น 6.2% | ส่วนแบ่งตลาด 47.6% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 28,216 คัน | ลดลง 4.1% | ส่วนแบ่งตลาด 33.4% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 6,847 คัน | เพิ่มขึ้น 16.0% | ส่วนแบ่งตลาด 8.1% |