ข่าว

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เดินหน้าสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้า พร้อมส่งมอบบริการพิเศษเหนือระดับ

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เดินหน้าสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้า

พร้อมส่งมอบบริการพิเศษเหนือระดับ ด้วยโปรแกรมบำรุงรักษา BSI และ MSI ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ  

 

กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มอบความอุ่นใจให้กับลูกค้า ยกระดับบริการโปรแกรมบำรุงรักษา BMW Service Inclusive (BSI) และ MINI Service Inclusive (MSI) ที่ยังคงในราคาเดิม จนถึงวันที่  31 ธันวาคม 2564 นี้ เพื่อให้ลูกค้าทั้งรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ได้รับคุณภาพด้านการให้บริการที่เหนือระดับเช่นเดิม จากมืออาชีพที่มีความชำนาญและให้บริการด้วยอะไหล่แท้จากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิเท่านั้น วางใจได้ในทุกเส้นทางการขับขี่โดยไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลหรือบำรุงรักษา พร้อมมอบประสบการณ์ที่เน้นความปลอดภัยและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วย BMW Contactless Experience ตอบรับยุคดิจิทัลกับบริการแบบไร้สัมผัส เพียงแค่เลือกการใช้งานผ่านมือถือได้ตลอด 24 ชั่วโมง

มร. สเตฟาน สโลโบดา ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็ม ดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งมั่นพัฒนาความเป็นเลิศด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ สอดคล้องกับภารกิจหลักขององค์กรในการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้า นอกเหนือจากบริการโปรแกรมบำรุงรักษา BSI และ MSI ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการแล้ว ในยุคปัจจุบันที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตนี้ เราจึงนำนวัตกรรมด้านโซลูชันมาใช้ในการยกระดับการให้บริการเพื่อมอบความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วย BMW Contactless Experience ให้ลูกค้าสามารถเลือกบริการได้อย่างตรงใจและง่ายดาย ทั้งยังสามารถตรวจสอบขั้นตอนรวมถึงราคาในการให้บริการก่อนพิจารณาอนุมัติค่าใช้จ่ายผ่านสมาร์ทวิดีโอ โดยในขณะนี้ ได้ให้บริการในผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยูทั้ง อมร เพรสทีจ และ เพอร์ฟอร์มานซ์ มอเตอร์ส และจะให้บริการครอบคลุมตัวแทนจำหน่ายทุกรายภายในปี 2565”

นอกจากนี้ ลูกค้ายังจะได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบและมั่นใจในทุกเส้นทางทั่วไทย ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพและรวดเร็วกับ BMW Roadside Assistance ผ่านผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมจัดหารถทดแทนให้กับลูกค้า หากกรณีที่ไม่สามารถซ่อมรถเสร็จภายใน 48 ชั่วโมง สูงสุดไม่เกิน 5 วัน (3 วันทำการ และ 2 วันหยุดสุดสัปดาห์ เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ) หรือกรณีที่รถของลูกค้าขัดข้องในรัศมีห่างจากที่พักเกิน 100 กม. และนำรถเข้าศูนย์บริการของบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งไม่สามารถซ่อมให้แล้วเสร็จได้ภายใน 48 ชม. สามารถเลือกรับหนึ่งสิทธิประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นบริการจัดหารถทดแทน สูงสุดไม่เกิน 3 วัน ทำการ หรือบริการตั๋วรถไฟ ตั๋วโดยสารรถปรับอากาศ หรือบริการตั๋วเครื่องบินสำหรับเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางภายในประเทศ

ทั้งนี้ สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิในรุ่นที่กำหนดและมีการส่งมอบตั้งแต่มกราคม 2565 เป็นต้นไปจะมีการปรับราคาแพคเกจ BSI และ MSI เพิ่มขึ้น โดยยังคงทางเลือกกับความคุ้มครองสูงสุด 5 ปี หรือ 100,000 กม. และเลือกการรับประกันได้นานสูงสุด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สำหรับโปรแกรมบำรุงรักษา BSI และ MSI สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรุ่นเครืองยนต์เบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด และเพิ่มความคุ้มครองสูงสุด 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สำหรับโปรแกรมบำรุงรักษาและการรับประกันสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู iX, iX3 และ มินิ Electric โดยราคารวมในแต่ละแพคเกจมีรายละเอียด ดังนี้

บีเอ็มดับเบิลยู

 

มินิ

*ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป
**แพ็กเกจตามตารางอัพเกรดนี้ ต้องซื้อภายในระยะเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันที่รับส่งมอบรถยนต์
***เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการ หรือ Contact Centre 1397

 

รูปภาพเพิ่มเติม

มร. สเตฟาน สโลโบดา ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

 

# # #

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป   

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด  โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

ในปี พ.ศ. 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.3 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์มากกว่า 169,000 คัน ทั่วโลก มีกำไรก่อนหักภาษีในรอบปีบัญชี 2562 เท่ากับ 7.118 พันล้านยูโรจากยอดรายได้รวมทั้งสิ้น 104.210 พันล้านยูโร  โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 126,016 คนทั่วโลก

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) รับผิดชอบการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง

ในปี 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,426 คัน โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 11,242 ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มินิมียอดการส่งมอบ 1,184 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 1.7% ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดส่งมอบ 1,224 คัน แม้จะต้องประสบกับสถานการณ์โรคระบาดในปี 2563

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู
แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมา นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ ทั้งหมด 17 รุ่น ได้แก่ บีเอ็ม
ดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็ม
ดับเบิลยู X5 และบีเอ็มดับเบิลยู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR
บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็ม
ดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
1397

www.bmw.co.th

www.mini.co.th

www.bmw-motorrad.co.th

 

สื่อมวลชนติดต่อ  บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 125)

sboonsaeng@carlbyoir.com, pthanwajeran@carlbyoir.com

 

 

Most Popular

To Top