รีวิวรถ

New Mazda2 Sedan  2021 Collection  “เพิ่มเติมออปชั่นจัดเต็ม  แต่ราคาคงเดิม”

New Mazda2 Sedan  2021 Collection  “เพิ่มเติมออปชั่นจัดเต็ม  แต่ราคาคงเดิม” รถยนต์ B-Segment อันดับต้นๆ ในคลาสนี้   ด้วยความสวยงามของรูปลักษณ์ภายนอก การออกแบบของภายในห้องโดยสาร เครื่องยนต์ สมรรถนะการขับขี่ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีความปลอดภัยต่างๆ รวมถึงมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G  1.3 ลิตร ส่วนออปชั่นที่เพิ่มเติมมานั้นจะมีอะไรบ้าง คุ้มค่าแค่ไหน auto-variety จะพาไปทำความรู้จักกับเจ้า New Mazda 2 คันนี้ให้มากยิ่งขึ้น….

  • สำรวจภายนอก

New Mazda2 Sedan  2021Collection  ยังคง concept ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Kodo : Soul of Motion เรียบหรู สง่างาม เส้นสายที่เรียบง่าย แต่สปอร์ต ดุดัน ด้วยไฟหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบปรับไฟสูงต่ำอัตโนมัติ ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ LED Signature ตามแบบฉบับของ  Mazda ดีไซน์วงกลมโดดเด่นทั้งตอนกลางวันและกลางคืน กระจกหน้าลดเสียงรบกวน กระจังหน้าตะแกรงสีดำเงาขนาดใหญ่ล้อมด้วยกรอบโครเมี่ยม ประกบด้วยกันชนหน้าดีไซน์เรียบหรู ขนาบข้างด้วยแถบโครเมียมที่ชายล่างเพิ่มความหรูหราพรีเมี่ยมเป็นเอกลักษณ์ ด้านข้างของตัวรถเส้นสายตัวถังเรียบง่าย ชัดเจน มือจับประตูและกระจกมองข้างเป็นสีเดียวกันกับตัวรถ ในส่วนของล้อ เป็นล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ยาง 185/65

  • ภายในดีไซน์โดดเด่นด้วย วัสดุสุดพรีเมี่ยมหรูหรา

เช่นกันกับภายนอก ภายในของ 2021 New Mazda 2 Collection ยังคงออกแบบภายใต้ปรัชญา Kodo : Soul of Motion ที่เรียบง่ายแต่งดงาม ใช้วัสดุคุณภาพ ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนในรถราคาแพง ภายในกว้างขวาง ตำแหน่งนั่งของคนขับอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทัศนวิสัยดี

คอนโซลหน้า แดชบอร์ด และแผงประตู ตกแต่งด้วยการหุ้มหนังนุ่มสีเทาผสมกับพลาสติกสีดำ ให้อารมณ์หรูหราได้ดี เบาะหุ้มหนังสีเทาสลับ สีดำ เบาะฝั่งคนขับปรับมือ 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับมือ 4 ทิศทาง พนักพิงศีรษะเบาะนั่งทั้งด้านหน้าด้านหลังสามารถปรับสูงต่ำได้ พนักพิงเบาะหลังแยกปรับพับได้ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ

พวงมาลัยเป็นแบบสปอร์ตมัลติฟังก์ชั่น หุ้มหนัง มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ครูสคอนโทรล และแป้นแพดเดิลชิฟท์ ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เรือนไมล์ประกอบด้วยหน้าปัดวัดรอบเครื่องยนต์เข็มอนาล็อกเรืองแสง ประกบข้างด้วยจอแสดงข้อมูลการขับขี่ดิจิตอลแบบขาว-ดำที่บอกข้อมูลการขับขี่สำคัญครบถ้วน

ระบบความบันเทิงมาพร้อมกับหน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อระบบสื่อสาร Mazda Connect ที่สามารถรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto  มีระบบจดจำเสียง (Voice Recognition) มีช่องเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ภายนอกโดยผ่าน USB และ AUX พร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง สะดวกสบายด้วยการควบคุมเมนูต่าง ๆ บนหน้าจอได้จากแป้นหมุน Center Commander ที่บริเวณคอนโซลกลาง  ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า 4 บาน ปรับขึ้น – ลงอัตโนมัติและป้องกันการหนีบเฉพาะฝั่งคนขับ

  • ระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม

New Mazda2 รุ่นนี้ติดตั้งระบบความปลอดภัยเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเบรก (BA) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไหล (TCS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (DSC) ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (SRS) พวงมาลัยยุบตัวตามการทำงานของถุงลมนิรภัย และแป้นเบรกแบบยุบตัวได้ มีระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน (HLA) และเซ็นเซอร์กะระยะช่วยถอยจอด ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) กล้องแสดงภาพ 360 องศา ที่สามารถมองได้รอบทิศทาง

  • ขุมพลังดีเซลเทอร์โบ

Skyactive-D เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบอิเล็กทรอนิกไดเร็คอินเจ็คชั่น (Electronic Direct Injection) ความจุถังน้ำมัน 44 ลิตร รองรับน้ำมันดีเซล มาตรฐานไอเสีย EURO 5 มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า ประหยัดพลังงานแถมรักษ์โลกด้วยระบบ i-Stop ตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรกค้างในเกียร์ D ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น

จากการทดลองขับแล้วเป็นที่น่าพอใจ อัตราเร่งดี เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ดีเซล แล้วยังมีเทอร์โบมาช่วยเพิ่มกำลังอัด  ขับสนุก ปราดเปรียว แต่ด้วยความที่เป็นเครื่องดีเซล เรื่องความนุ่มนวล ความเงียบ ของเครื่องยนต์ก็อาจจะมีบ้างบางครั้งที่ไม่ราบรื่นนุ่มนวล ส่วนของเกียร์การเปลี่ยนเกียร์ค่อนข้างนุ่มนวล ไม่มีอาการสะดุดแทบไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยน ตอบสนองดีเวลาคิกดาวน์ในจังหวะเร่งแซง ส่วนช่วงล่างนุ่มหนึบ เข้าโค้งกระชับไม่ย้วย ตอบสนองได้ดี แม้ขับในความเร็วก็ยังนิ่ง ไม่ส่ายหรือโคลง

  • สรุป

จากการที่ได้ทดสอบในครั้งนี้ สิ่งที่ประทับใจเป็นอย่างแรกเมื่อเห็นคือดีไซน์การออกแบบที่พรีเมี่ยมหรูหรา ลงตัว ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป รองลงมาคือความประหยัดน้ำมันที่ทำได้ดีจนตกใจ และระบบความปลอดภัยที่ให้มาเยอะจริงๆ ส่วนระบบช่วงล่างประสิทธิภาพดีเยี่ยม เต็มไปด้วยความมั่นใจไม่ว่าจะขับทางตรงหรือเข้าโค้ง ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าใช้มากๆเลยทีเดียว

Most Popular

To Top