Special Tips

ขั้นตอนการตรวจเช็กรถมือสองด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการตรวจเช็กรถมือสองด้วยตัวเอง

การที่เราจะหารถใช้สักคัน รถมือสองถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะด้วยราคาที่ถูกกว่ารถป้ายแดงมาก แถมยังมีตัวเลือกหลากหลาย แต่การจะเลือกซื้อรถมือสองสักคันมันไม่เหมือนรถใหม่ที่ออกจากโรงงาน ดังนั้นถ้าเราจะเสียเงินสักก้อนเพื่อซื้อรถมือสองต้องละเอียดกันสักหน่อย ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อหรือได้ได้ไม่ดี เรามีข้อแนะนำในการตรวจเช็กรถมือสองด้วยตัวเองมาฝาก

ตรวจเช็กสภาพตัวถังภายนอก

ลองใช้มือสัมผัสตัวถัง ถ้ามีความรู้สึกเป็นคลื่นเป็นลอน แสดงว่ารถคันนี้มีการชนมาก่อน และผ่านการซ่อมสีมาแล้ว หรือลองใช้นิ้วเคาะตัวถังโดยรอบบริเวณตัวรถ ถ้ามีเสียงทึบ ดูพื้นมันหนา ๆ  ไม่โปร่งเหมือนบริเวณอื่น แสดงว่าบริเวณนั้นต้องเคยทำสีมาแล้ว

เช็ครอยสนิมตามซุ้มล้อและขอบประตู

สอดส่องดูตามตะเข็บใต้บังโคลนล้อ ใต้ประตู ขอบประตู ว่ามีสนิมรอยผุมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งควรตรวจเช็กใต้พรมในรถว่ามีรอยเปียกชื้น มีกลิ่นอับหรือไม่ เพราะถ้ามี แสดงว่ารถคันนี้อาจมีปัญหามาก่อน หรืออาจจะประสบอุบัติเหตุจมน้ำมา

ตรวจเช็กระบบไฟ

ลองเปิดปิดไฟทั้งคันทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะ ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟถอย ไฟหน้าปัด ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร รวมทั้งไฟส่องอ่านหนังสือ ว่าไฟทุกดวงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เพราะจะพบปัญหาในเรื่องของระบบไฟสัญญาณมากในรถที่เคยซ่อมแซมทำสีมาแล้ว

ตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ในเบื้องต้น

ให้ดูจากสภาพน้ำมันหล่อลื่นของเครื่องยนต์ ถ้าน้ำมันเครื่องมีสีดำเข้มและข้นมากกว่าปกติ แสดงว่ารถคันนี้คงได้รับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไม่ตรงตามระยะเวลาเป็นแน่ ซึ่งหมายถึงการดูแลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ภายในเครื่องยนต์เสียหายได้

ดูน้ำมันและของเหลวต่างๆ

ให้ดูว่ามีคราบน้ำมันเบรกไหลออกมาหรือไม่ เพราะถ้ามีหมายความว่าเกิดการรั่วซึมของซีนยาง นอกจากนั้นก็ควรจะก้มดูที่เกียร์ว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ เพราะการรั่วซึมที่ตัวเกียร์นั้น หมายถึงปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง และอย่าลืมตรวจเช็กระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (สำหรับรถที่มีเพาเวอร์) ว่ามีการรั่วของปั๊ม หรือสายน้ำมันบ้างไหม เพราะจะพบมากในรถที่ขาดการดูแลหรือผ่านการใช้งานมานาน สำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลังให้ดูชุดเฟืองท้ายด้วยว่ามีการเยิ้มของน้ำมันหรือไม่

ตรวจเช็กระบบระบายความร้อน

ดูน้ำในหม้อน้ำ ซึ่งปกติจะมีสีใส ๆ และสีเขียวตามสีน้ำยารักษาหม้อน้ำ แต่ถ้ามีสีขุ่นคล้ำหรือมีสีเป็นสนิมนั้น หมายถึงเจ้าของไม่ได้ให้การดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำหม้อน้ำเลย  และควรดูท่อน้ำและรอยต่อว่าแตกร้าวหรือไม่ เพราะระบบระบายความร้อนอาจมีปัญหา

ตรวจภายในห้องโดยสาร

ให้สำรวจความเรียบร้อยภายในห้องโดยสารว่ามีการชำรุดหรือโทรมขนาดไหน เพราะสามารถบอกถึงการใช้งานและการดูแลจากเจ้าของเก่าได้ และต้องเช็คหน้าปัดมาตรวัดต่าง ๆ ยังทำงานเป็นปกติหรือไม่ สัญญาณไฟเตือนยังติดครบทุกดวงไหม และเมื่อสตาร์ทเครื่องแล้ว ไฟสัญญาณต้องดับลงหมด ถ้าดวงไหนไม่ดับก็แสดงว่าระบบนั้นต้องมีปัญหาแน่ ๆ แต่ก็ต้องระวังอีกเรื่อง

ทดลองขับ

ในการทดลองขับให้ลองจับอาการของช่วงล่างว่ามีเสียงดังหรือไม่ ถ้ามีเสียงในขณะลงหลุมหรือทางขรุขระนั่นหมายความว่าพวกบูทลูกยางต่างๆ เสื่อมสภาพ และถ้าในขณะหักพวงมาลัยหรือเลี้ยวรถแล้วมีเสียงเกิดขึ้นให้นึกไว้เลยว่า พวกคันชักคันส่ง เพราขับ หรือ แร็คพวงมาลัย กำลังเสื่อมสภาพ

 

นอกจากนี้ยังต้องตรวจเช็กเอกสารสำคัญของรถ เช่น สมุดทะเบียนรถ ใบโอนรถ และบัตรประชาชนที่มีชื่อและลายเซ็นตรงกันกับคู่มือหรือไม่ รวมทั้งตรวจเช็กการเสียภาษีรถประจำปีถูกต้องและต่ออายุมาตลอดหรือไม่ เพราะถ้าไม่ต่ออายุ จะมีค่าปรับ  รถมี พ.ร.บ.และประกันภัยหรือเปล่า เหลืออายุเท่าไร สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น

 

Most Popular

To Top