“กรมการขนส่งทางบก” ผนึกกำลัง “การกีฬาแห่งประเทศไทย” ลงนามความร่วมมือผลักดัน โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 เป็นวาระสำคัญของประเทศไทย ปล่อยแคมเปญใหญ่รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาตัวใหม่ รวมถึงบูธกิจกรรมอัดแน่นความรู้แก่ผู้มาร่วมงาน เดินหน้าอำนวยความสะดวกแฟนความเร็วหลายแสนคนจากทั่วโลก ด้วยการปรับปรุงเส้นทางให้สมบูรณ์ ขยายถนนส่วนที่เป็นคอขวดลดการจราจรติดขัด เพิ่มรถโดยสารประจำทางจาก กทม.-บุรีรัมย์ กว่า 60 เที่ยวต่อวัน จาก นครราขสีมา-บุรีรัมย์ 120 เที่ยวต่อวัน และรถโดยสารประจำทางไม่ต่ำกว่า 10 เส้นทาง ขณะเดียวกันยังเตรียม ชัตเติ้ลบัส 4เส้นทางวิ่งรับส่งตลอด 3 วันของการแข่งขัน
ประเทศไทย เตรียมรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2019 สนามที่ 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ ไทยรับบทบาทฝ่ายจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับเวิลด์คลาสรายการนี้
จากความร่วมมือของทั้งภาครัฐ และเอกชน ส่งผลให้ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เป็นศึก โมโตจีพี ครั้งแรกในประเทศไทย ถูกยกให้เป็น “เบสต์ กรังด์ปรีซ์ ออฟ เดอะ เยียร์” พร้อมจำนวนผู้ชมมากที่สุดจากทั้งสิ้น 19 สนาม ขณะเดียวกันยังสร้างเม็ดเงินมหาศาล ตลอด 3 วันของการแข่งขันล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าวพิธีลงนาม ความร่วมมือและการสนับสนุน การแข่งขัน โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ 2019 ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการใช้ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก สะท้อนสู่นโยบายการขับขี่ปลอดภัยเพื่อรณรงค์ให้เป็นวาระสำคัญของประเทศไทย
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่มีการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐด้วยกัน เพราะการจัดโมโตจีพีนั้น ไม่ใช่ทางด้านกีฬาที่ได้รับผลประโยชน์อย่างเดียว แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นผลดีแก่ประเทศไทยในด้านต่างๆด้วย ทั้งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ตรงตามยุทธศาสตร์ “สปอร์ตทัวริซึ่ม” ของรัฐบาล เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่องค์กรภาครัฐทุกภาคส่วน ให้ความสำคัญกับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โมโตจีพี ของ ประเทศไทย
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า “เราได้บูรณาการ เส้นทางการเดินทางทางบกให้มีความพร้อมมากที่สุดทั้งเส้นทางหลักของกรมทางหลวงที่จะขยายเส้นทาง เช่น สายบุรีรัมย์-นางรอง บูรณะผิวทางเดิม ซึ่งเดิมทีเป็นเส้นทางรองให้พร้อมรองรับการเดินทางของแฟนมอเตอร์สปอร์ตจำนวนมาก ปรับปรุงบริเวณคอขวดไหล่ทาง มีการติดตั้งป้ายบอกทางเพิ่มเติม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรติดขัด ภายในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบก ยังได้เตรียมแผนการรองรับการแข่งขัน สำหรับแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตที่เดินทางระหว่างจังหวัด ด้วยการเพิ่มเที่ยวรถในช่วงการจัดงาน ในส่วนของ บขส. เส้นทาง กทม. สู่บุรีรัมย์ วันละไม่ต่ำกว่า 60 เที่ยว ต่อวัน เส้นทางนครราชสีมา – บุรีรัมย์ ไม่ต่ำกว่า120 เที่ยวต่อวัน รถโดยสารประจำทางไม่ต่ำกว่า 10 เส้นทาง
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า คาดว่าปีนี้จะมีผู้ชมเพิ่มมากกว่าเดิมมาก เนื่องจากปีที่แล้วเราได้รางวัล Best Grand Prix of the year ส่วนในปีนี้ทางสนามยังคงมีแผนในการทำรถรับ-ส่ง เส้นทางภายในสนาม 3สาย โดยชัตเติ้ลแต๋น ซึ่งปีนี้จะเพิ่มรถบรรทุก 6 ล้อไปด้วยรวมเป็นหลายร้อยคัน เพื่อให้จำนวนเพียงพอกับความต้องการ มีจุดขึ้น-ลงรถให้บริการทั้ง 2 ประตูทางเข้าหลัก สู่ลานกิจกรรม และแสตนด์จุดต่างๆอย่างทั่วถึง