ข่าว

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัว นวัตกรรมดิจิทัลล้ำยุค ยกระดับวิสัยทัศน์การขับขี่แบบรอบด้าน

กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เตรียมยกระดับการขับขี่ในชีวิตประจำวันสู่อีกก้าวแห่งอนาคต ด้วยนวัตกรรมดิจิทัลที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น ผ่านการเปิดตัวระบบ BMW Drive Recorder บริการดิจิทัลที่ต่อยอดระบบกล้องแสดงภาพรอบทิศทางของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูให้สามารถบันทึกคลิปวีดีโอรอบรถได้แบบ 360 องศาขณะขับขี่ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกเปิดใช้งานระบบ BMW Drive Recorder ด้วยตนเอง เพื่อถ่ายวิดีโอรอบรถขณะขับขี่ผ่านวิวทิวทัศน์ที่งดงาม หรือตั้งค่าให้ระบบทำงานเองอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สร้างความอุ่นใจด้วยการบันทึกภาพวิดีโอจากหลายมุมกล้องรอบตัวรถเพื่อย้อนดูเหตุการณ์ในภายหลัง ระบบ BMW Drive Recorder จะเปิดให้ลูกค้าสมัครรับบริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านทาง BMW ConnectedDrive Store ในรูปแบบของแพ็คเกจที่ครอบคลุมระยะเวลาหลากหลาย โดยระบบ BMW Drive Recorder สามารถใช้งานได้กับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่มีระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 ระบบกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View) และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus (Parking Assistant Plus)*

มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “การพลิกโฉมประสบการณ์ด้านยนตรกรรมสู่เทคโนโลยีดิจิทัล และศักยภาพในการตอบความต้องการที่เฉพาะตัวของลูกค้าได้อย่างตรงจุดนั้น เป็นองค์ประกอบสำคัญในกลยุทธ์ของบีเอ็มดับเบิลยูที่ยึดมั่นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา และปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรานำเสนอสิ่งเหล่านี้ได้ คือการผสานความยืดหยุ่นและความหลากหลายเข้าไว้ในทุกผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู การเปิดตัวบริการดิจิทัลอย่าง BMW Drive Recorder สู่ลูกค้าชาวไทยในครั้งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งบริการที่นอกจากจะมาเสริมนวัตกรรมด้านยานยนต์ของเราแล้ว ยังทำให้เรามอบประสบการณ์ที่
พรีเมียมยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลได้มากกว่าที่เคย ด้วยระบบ BMW Drive Recorder ลูกค้าจะสามารถบันทึกและแชร์การเดินทางที่น่าจดจำต่าง ๆ ร่วมกับเพื่อนและครอบครัว และในขณะเดียวกัน บริการใหม่นี้ยังช่วยสร้างความอุ่นใจได้ในทุกการเดินทาง แม้ในสถานการณ์คับขันบนท้องถนน”

ระบบ BMW Drive Recorder เป็นบริการดิจิทัลที่ต่อยอดศักยภาพของกล้องทั้ง 4 ตัวในระบบกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ให้ทำงานได้มากกว่าการตรวจสอบสภาพแวดล้อมขณะจอดรถหรือขับขี่ในสถานที่คับแคบ โดยผู้ขับขี่จะสามารถใช้กล้องรอบรถเพื่อบันทึกวิดีโอขณะขับขี่บนเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม เพียงเปิดใช้งาน BMW Drive Recorder ผ่านทางเมนู App ของระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 หรือกดปุ่มเปิดหลังคา Panoramic บริเวณคอนโซลกลางค้างไว้เพื่อเริ่มบันทึกภาพ และในกรณีเซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ตรวจจับการชนได้ขณะเกิดอุบัติเหตุ ระบบ BMW Drive Recorder จะทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ให้ผู้ขับขี่ใช้เป็นหลักฐานได้ในภายหลัง ซึ่งไม่เพียงครอบคลุมภาพจากหลายมุมกล้องรอบตัวรถเท่านั้น แต่ยังสามารถบันทึกข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญต่าง ๆ ได้ เช่น วันที่ เวลา ความเร็ว และพิกัด GPS

นอกจากการเลือกบันทึกภาพด้วยตนเองหรืออัตโนมัติแล้ว ระบบ BMW Drive Recorder ยังรองรับการตั้งค่าที่หลากหลายตามความต้องการเฉพาะตัวของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งระยะเวลาในการบันทึกภาพ หรือการเลือกมุมกล้อง โดย BMW Drive Recorder สามารถบันทึกวิดีโอได้นานสูงสุด 40 วินาที มาพร้อมตัวเลือกในการตั้งระยะเวลาที่ระบบจะเริ่มบันทึกภาพในช่วงก่อนและหลังเกิดอุบัติเหตุ เริ่มตั้งแต่ 5 วินาทีไปจนถึง 20 วินาที ซึ่งระบบจะบันทึกเฉพาะภาพวีดีโอ แต่ไม่มีการบันทึกเสียง และผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกกล้องที่จะใช้ในการบันทึกภาพได้ตามต้องการ ได้แก่ กล้องทั้ง 4 ตัว กล้องหน้าและกล้องหลัง และ กล้องหน้าหรือกล้องหลัง ซึ่งระบบจะจัดเก็บคลิปวิดีโอได้สูงสุดถึง 10 คลิปในระบบ iDrive และสามารถเรียกดูหรือลบวีดีโอในภายหลังได้ทางจอ Control Display หรือบันทึกลงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล USB นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังจะได้รับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่ระบบเริ่มบันทึกภาพ และสามารถเลือกปิดการใช้งานระบบ Drive Recorder ได้เช่นกัน โดยก่อนเริ่มใช้งานระบบ Drive Recorder ผู้ขับขี่จะต้องยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการปฏิเสธความรับผิดชอบตามกฎหมาย และจะเปิดใช้งานระบบได้ขณะสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่เท่านั้น

บริการดิจิทัล BMW Drive Recorder จะเปิดให้สมัครรับบริการผ่านทาง BMW ConnectedDrive Store โดยหลังจากที่ลูกค้าดำเนินการสมัครและชำระเงินแล้ว ระบบ BMW Drive Recorder จะติดตั้งในรถยนต์คันดังกล่าวอัตโนมัติ และเปิดใช้งานได้ทางเมนู iDrive โดยลูกค้าสามารถเลือกจากแพ็คเกจที่หลากหลายในการรับบริการ* ดังนี้

ระยะเวลาในการรับบริการ

ราคา

ตลอดชีพ

9,990 บาท

3 ปี

3,990 บาท

1 ปี

1,790 บาท

1 เดือน

490 บาท

*การทำสัญญากับ BMW ConnectedDrive จะเป็นการผูกสัญญากับรถยนต์แต่ละคัน โดยไม่สามารถโอนสิทธิหรือบริการไปยังรถยนต์คันอื่นได้

ระบบ BMW Drive Recorder จะเปิดให้สมัครรับบริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.connecteddrive.bmw.co.th/ ลูกค้าสามารถตรวจสอบการใช้งานได้โดยการล็อกอินเข้าระบบ BMW ConnectedDrive Store ผ่านลิ้งค์ข้างต้นนี้

*รถยนต์รุ่นที่รองรับระบบ BMW Drive Recorder ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Coupe, บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู X6 xDrive30d M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d, และ
บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive30d โดยต้องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 ซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุด และระบบกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View)


บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้
แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

ในปี พ.ศ. 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.3 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 169,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2562 อยู่ที่ 7.118 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 104.210 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 126,016 คนทั่วโลก

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล

ในปี 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,426 คัน โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 11,242 ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มินิมียอดการส่งมอบ 1,184 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 1.7% ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดส่งมอบ 1,224 คัน แม้จะต้องประสบกับสถานการณ์โรคระบาดในปี 2563

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู
แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมา นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 17 รุ่น ได้แก่ บีเอ็ม
ดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็ม
ดับเบิลยู X5 และบีเอ็มดับเบิลยู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR
บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็ม
ดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive

Most Popular

To Top