มันไม่ใช่คำกล่าวที่เกินเลยแม้แต่น้อย สำหรับการมองหารถยนต์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดีในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยว รูปลักษณ์ภายในที่มีเส้นสายดีไซน์และความกว้างขวางรวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่พร้อมตอบสนองต่อการขับขี่ได้เป็นอย่างดี สมรรถนะของขุมพลังเครื่องยนต์ 2.0 ซีซี. ที่สามารถเรียกความเร้าใจในการขับขี่ตั้งแต่เท้าเหยียบคันเร่งกันตั้งแต่เริ่มต้น ช่วงล่างที่หนึบแน่นชวนให้นึกถึงรถยนต์ชั้นดีในตระกูลยุโรป ระบบความปลอดภัยที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่สร้างความมั่นใจต่อการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้คุณสามารถหาได้ใน Mazda 3
จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว หรือ โคโดะ ดีไซน์ ที่สะท้อนถึงพลังของจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเคลื่อนไหวที่สวยงาม ที่ดึงดูดสายตาจากผู้คนรอบข้างด้วยรูปทรงที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ ความรู้สึก ความทรงพลัง และความมีชิวิตชีวา ซึ่งสามารถดูได้จากการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวมีเส้นสายลายเส้นที่โค้งเว้า กระจังหน้าใหม่และ Signature wing โฉมใหม่ที่มีองศากว้างขึ้นบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวออกไปทางซ้ายและขวา มาพร้อมไฟ LED ที่ออกแบบมาให้ดวงไฟดูมีมิติมากขึ้น ไฟตัดหมอกล้อมกรอบด้วยสีโครเมียมที่สอดรับกับกันชนหน้า ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์พร้อม Day Time Running Light ในส่วนด้านท้ายของรุ่นแฮทช์แบค ได้รับการออกแบบมาให้อารมณ์ความรู้สึกเดียวกับด้านหน้า จากการที่มีเส้นสายวิ่งจากด้านหน้าสู่ด้านท้ายของรถ จุดศูนย์ถ่วงต่ำและฐานล้อที่กว้าง กันชนหลังแบบใหม่ให้ความรู้สึกมั่นคงและเปี่ยมคุณภาพ ส่วนกันชนท้ายในรุ่นซีดานนั้นผ่านการออกแบบให้มีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาสมดุลที่ดีกับดีไซน์ด้านหน้า ล้ออัลลอยมี 2 สีให้เลือก คือ ขนาด 18 นิ้วสีเข้มเคลือบประกายสะท้อนความรู้สึกถึงรสนิยมที่หรูหราและนุ่มลึก และขนาด 16 นิ้วสีเงินดีไซน์เดิม
ทฤษฎี JINBA ITTAI (จินบะ อิไต) อันเป็นปรัชญาการพัฒนาของมาสด้า ที่ผสานรวมผู้ขับและรถให้เป็นหนึ่งเดียว ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้ผู้ขับเป็นศูนย์กลาง เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของผู้ขับและรถ เพื่อที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย โดยรับข้อมูลและตอบสนองกับสื่อรอบตัวได้อย่างแม่นยำ ด้วยหลักการ HMI (Human-Machine Interface) ด้วยการออกแบบอุปกรณ์การใช้งานและฟังก์ชั่นใช้งานภายในรถ โดยเน้นการทำงานตามธรรมชาติการเคลื่อนไหวของมนุษย์ ด้วยการจัดวางอุปกรณ์ให้อยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน
ภายในห้องโดยสารออกแบบมาอย่างประณีตพิถีพิถัน ที่บ่งบอกถึงคุณภาพที่สูงกว่าและการใช้งานที่ง่ายกว่าเดิม แผงควบคุมที่แผ่ไปถึงที่นั่งผู้โดยสารมีรูปทรงที่ดูเก๋ไก๋มากขึ้น ดูมีมิติ และกรอบแผงข้างประตูด้านในที่มีการออกแบบได้เฉียบคมกว่าเดิม แผงประตูและที่จับประตูด้านในเป็นสีเทามีประกายทำให้เกิดการตัดกันระหว่างแผงเครื่องปรับอากาศตกแต่งกรอบสีชาตินโครม ด้ามจับประตูด้านในเป็นสีเมทัลลิก
มาสด้า 3 ใหม่ มาพร้อมเบรกมือไฟฟ้าและกล่องเก็บสัมภาระดีไซน์ใหม่ที่ไม่ต้องเสียพื้นที่ให้กับด้ามเบรกมืออีกต่อไป ปุ่ม Center Commander และสวิตช์ควบคุมการใช้งานถูกจัดวางไว้กึ่งกลาง พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ตามแบบมาสด้าซีเอ็กซ์ -9 หุ้มด้วยหนังแท้ เบาะนั่งภายในมีทั้งแบบหนังสีดำตัดด้วยเฉดสีแดง และเบาะผ้าที่สีดำ
หน้าจอสกรีนใส Active Driving Display ถูกอัพเกรดเป็นหน้าจอที่มีความสว่างและคมชัดมากกว่าเดิม ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ ระดับความเร็ว และข้อมูลของระบบนำทาง สัญญาณเตือนต่างๆ จะเป็นสีแดงและเหลืองอำพัน รูปทรงมาตรวัดและหน้าจอแสดงผลต่างๆ ยังคงเดิม แต่หน้าจอ LCD ทั้งด้านซ้ายและขวาใช้หน้าจอ VA แบบใหม่ที่คมชัดและมีมุมมองที่กว้าง
MZD CONNECT ที่ให้คุณสามารถสื่อสารเพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลบนรถได้ตลอดเวลา ทุกเส้นทางไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย หรือรับ-ส่งข้อความ SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณบลูทูธ พร้อม Infotainment ที่มีให้เลือกมากมายในแอพลิเคชั่น Aha by HARMAN ผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ผ่านการควบคุมเมนูสั่งงานของ CENTER DISPLAY
มาสด้า 3 ใหม่ ยังคงเป็นเครื่องยนต์ SKYACTIV – G 2.0 DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT และระบบไอเสีย 4-2-1 ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1998 ซีซี. กำลังสูงสุด 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบอิเล็กทรอนิกส์ไดเร็คอินเจคชั่น รองรับน้ำมัน E85 ส่งกำลังด้วยระบบ SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อมสวิตช์ Drive Selection ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกขับในโหมด Sport ที่เติมแต่งอารมณ์สนุกไม่ต่างไปจากเกียร์ธรรมดา รวมถึงมีระบบ I-Stop ที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทำงานชั่วคราว เมื่อรถจอดนิ่ง ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ ยังคงทำงานตามปกติ โดยที่เครื่องยนต์จะทำงานอัตโนมัติทันทีเมื่อรถพร้อมออกตัว
ความสมบูรณ์แบบของความเป็นมาสด้า 3 ที่ช่วยให้การขับขี่เต็มไปด้วยความมั่นใจคือ การนำเอาเทคโนโลยี G-VECTORING CONTROL (GVC) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดภายใต้ชุดเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS โดยระบบ GVC จะทำหน้าที่ช่วยควบคุมสมรรถนะในการชับขี่ให้แม่นยำและสมดุล เพื่อให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับรถ โดยที่ระบบนี้จะทำงานโดยการประมวลผลจากการบังคับพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ความเร็วของรถ รวมถึงน้ำหนักของเท้าที่กดลงบนแป้นคันเร่ง จากนั้นระบบจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์และเกิดการถ่ายน้ำหนักที่เหมาะสมไปสู่ล้อแต่ละล้อ ผลที่ได้คือ เกิดการเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้น ควบคุมได้แม่นยำในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นขณะที่รถเริ่มเข้าโค้งเครื่องยนต์จะลดแรงบิดลงเล็กน้อยให้เหมาะสมกับลักษณะของโค้ง ทำให้น้ำหนักของตัวรถถ่ายมายังล้อหน้า ซึ่งเป็นล้อที่ใช้ในการควบคุมรถ ส่งผลให้ล้อหน้ายึดเกาะถนนมากขึ้น เข้าโค้งได้แม่นยำ สมดุล ขณะเดียวกันเมื่อรถอยู่ในโค้ง ระบบจะควบคุมการถ่ายน้ำหนักของตัวรถ ให้อยู่ในสภาวะสมดุลทั้งหน้าและหลัง ส่งผลให้การแก้พวงมาลัยในโค้งเกิดขึ้นน้อยที่สุด และเมื่อรถพ้นโค้ง ระบบจะปรับให้แรงบิดของเครื่องยนต์กลับมาอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ส่งผลให้น้ำหนักของตัวรถถูกถ่ายใปที่ล้อหลัง เพื่อให้รถวิ่งออกจากโค้งได้อย่างมีเสถียรภาพ
ก้าวสู่จุดแห่งความคุ้มค่าและความสมบูรณ์แบบแห่งยนตรกรรมล้ำยุค เมื่อมาสด้านำเอาสัญชาตญาณความปลอดภัยสุดล้ำ ไอ-แอคทีฟเซ้นส์ I-ACTIVSENSE ที่เปี่ยมด้วยวิทยาการล้ำหน้าทั้งด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันและการลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมาใส่ในมาสด้า 3 ไม่ว่าจะเป็น
ระบบ Adaptive LED Headlamps (ALH) โดยที่ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะจะปรับการทำงานของไฟสูงและต่ำ แบบแยกอิสระซ้าย/ขวา โดยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับสภาพถนน รวมถึงระยะห่างจากตำแหน่งของรถคันหน้า หรือ รถที่วิ่งสวนมา ช่วยไม่ให้การทำงานของไฟสูงไปรบกวนรถคันอื่น
ระบบ Smart Brake Support (SBS) จะทำหน้าที่เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ โดยระบบนี้จะตรวจจับระยะห่างระหว่างรถที่ขับอยู่กับรถคันหน้า โดยหากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนรถคันหน้า ระบบจะส่งสัญญาณการเตือนและเสียงเตือนอย่างต่อเนื่อง ถ้าผู้ขับไม่ได้ทำการเบรก ระบบจะช่วยเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสในการชนรถคันหน้า
ระบบ Mazda Radar Cruise Control (MRCC) เป็นระบบที่น่าสนใจแต่ต้องเรียนรู้การใช้งานให้เข้าใจ เพราะมันไม่ใช่เพียงแค่ระบบตั้งความเร็วอัตโนมัติอย่างที่คุ้นเคยกันเท่านั้นไม่ ระบบนี้ทางมาสด้าได้พัฒนาด้วยการสามารถปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า ซึ่งถ้าระบบตรวจจับพบว่ารถคันหน้าใช้ความเร็วที่น้อยกว่า ระบบนี้จะปรับความเร็วลดลงตามความเร็วของรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ และระบบจะกลับไปใช้ความเร็วอัตโนมัติตามที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ เมื่อรถคันหน้าเริ่มทิ้งห่างออกไป หรือเมื่อไม่มีรถด้านหน้าแล้ว
ระบบ Smart City Brake Support (SCBS) เป็นระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ หากระบบตรวจพบว่าไม่สามารถเลี่ยงการชนได้ ระบบจะช่วยทำการเบรกให้อัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนปะทะด้านหน้า ทั้งนี้ในระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วต่ำ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการถอยหลังอีกด้วย SCBS-R ระบบจะช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลังในช่วงความเร็วต่ำเช่นกัน
ระบบ Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM) เป็นระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือน เป็นไฟกระพริบสีส้มที่กระจกมองข้าง
ระบบ Lane Departure Warning System (LDWS) เป็นระบบที่ช่วยเตือนเมื่อรถวิ่งออกนอกเลน โดยจะส่งสัญญาณเตือนไฟกระพริบบนหน้าปัด พร้อมส่งเสียงเตือน
ระบบ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) เป็นระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
ระบบ Driver Attention Alert (DAA) เป็นระบบที่น่าสนใจ โดยที่ระบบนี้จะช่วยเตือนผู้ขับเมื่อเกิดอาการเมื่อยล้าขณะขับรถทางไกล โดยที่ระบบจะติดตามพฤติกรรมและสมาธิในการขับขี่ หากตรวจพบความผิดปกติของพฤติกรรมการขับขี่ หรือขับขี่ติดต่อกันนาน ระบบจะขึ้นข้อความแนะนำให้หยุดพัก
ระบบ Lane – keep Assist System (LAS) เป็นระบบที่ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในกรณีที่ตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนหรือเตือนโดยการสั่นที่พวงมาลัย และช่วยปรับทิศทางของพวงมาลัยให้รถกลับเข้าสู่เลน
นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานมาให้ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ กระจกมองหลังแบบตัดแสง ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน ABS 4 ล้อพร้อม EBD ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและม่านถุงลมนิรภัยรวม 4 ตำแหน่ง ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC และระบบช่วยป้องกันรถลื่นไถล TCS ระบบ ESS ซึ่งเป็นสัญญาณไฟกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกรถในภาวะฉุกเฉิน เพื่อเตือนรถคันหลัง กล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะขณะถอยหลัง
สิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่มีอยู่ใน MAZDA 3 ที่อาจกล่าวได้ว่า เป็นรถที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงสมรรถนะที่ไม่แพ้รถจากยุโรปชั้นดีแม้แต่น้อย มี 7 สีให้เลือก แดง น้ำเงิน เงิน ดำ ขาว น้ำตาล และเทา