Special Tips

เกจ์ซิ่ง !!! ติดเต็มลำ “ดู” เป็นหรือยัง ???

สวัสดีวัยรุ่น กลับมาพบกับคอลัมน์ซิ่งๆ กันเรื่อยๆ นะครับ เรียกว่ามีข้อมูลอะไรดีๆ ก็จะนำมาฝากกัน เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย สำหรับชาวรถซิ่ง รถแต่ง รถโมดิฟายทั้งหลาย จะแต่งแรง แต่งสวย จะรถยุคใหม่ รถยุค 90 รถยุค Retro เรามีนำเสนอกันอย่างหลากหลาย อะไรก็ได้มี 4 ล้อ แล้วแต่งได้ “เราจัดให้” ครับท่าน

สำหรับคราวนี้เป็นเรื่องอุปกรณ์ที่ “อินเทรนด์” กับรถซิ่งมาอย่างยาวนาน เป็นของแต่งที่ต้องมีอันดับต้นๆ ในการแต่งรถซิ่ง ก็คือ “เกจ์ซิ่ง” วิ๊บวั๊บทั้งหลาย ที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม กับไฟสีสันหลากหลาย ดีไซน์มากมี ตอนนี้ติดกันทีต้อง “ครบสูตร” 6 ตัว ก็ต้องมีจอ ZD หรืออะไรต่างๆ เสริมอีก เรียกว่าติดกันทีเต็มพรืดเต็มคอนโซล ซึ่งก็ “ล่อตาล่อโจร” กันอย่างมาก ใครติดชุดใหญ่ก็ต้องระวังนะ โจรเดี๋ยวนี้มันไม่เลือกของแท้ของเทียม จอดเผลอเมื่อไรเป็นหายยกแก๊งค์ พวกทุบกันดื้อๆ เลยไม่สนอะไรทั้งสิ้น ก็ต้องระวังๆ กันหน่อย แต่เรื่องที่เราจะมาฝอยกันคราวนี้ จะเป็นการ “ดูเกจ์อย่างไรให้เป็น” เรียกว่าไหนๆ เสียตังค์มากมายมาติดแล้วก็ควรจะดูค่าของมันให้เป็นด้วย ถึงจะเรียกว่า “ซิ่งตัวจริง” นะครับ

หน้าที่ของเกจ์ หรือ Gauge

คำว่า “เกจ์” ไม่ใช่ “เกย์” จริงๆ แล้วอ่านว่า “เกจ” แต่ที่ผมขึ้นว่า เกจ์ ไม่ขึ้นว่า เกจ เดี๋ยวคนทั่วไปจะงงๆ ว่ามึงพูดถึงอะไร หน้าที่ของ เกจ์ ก็คือ “มาตรวัดค่าต่างๆ” นั่นเอง เรียกอีกอย่างว่า Meter หรือ มิเตอร์ ก็ได้ แต่คนไทยจะไม่ค่อยคุ้นกัน แล้วทำไมต้องติดเกจ์เพิ่ม เนื่องจากว่า รถเดิมๆ นั้น จะใช้เกจ์มาเท่าที่จำเป็น หลักๆ ก็คือ วัดรอบ วัดความเร็ว วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วน วัดความร้อนหม้อน้ำ ปัจจุบันนี้ในรถรุ่นเล็กก็จะไม่มีมาให้แล้ว เป็นไฟเตือนแทน ไอ้ของติดรถมันก็ดูกระจุ๋มกระจิ๋ม มีให้แค่ “พอดูเท่าที่จำเป็น” แต่เกจ์ซิ่งก็จะมีทั้งความสวยงาม ใส่แล้วดูดีมีฐานะ เพราะถ้ายกชุดใหญ่ก็ว่ากันหลายหมื่น ซึ่งมันจะมีเกจ์วัดรูปแบบต่างๆ วัดค่าแบบละเอียดขึ้นไปอีก เพราะรถที่โมดิฟายเครื่องยนต์มา พวกค่าต่างๆ มันจะเพี้ยนไปจากสแตนดาร์ด จึงต้องระวังและสังเกตกันมากขึ้น จริงๆ แล้วการมีเกจ์วัดเราจะสามารถสังเกตได้ง่ายกว่า ว่าถ้ามันบอกค่า “ผิดปกติ” ก็จะต้องเริ่มระวังตัวแล้วว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบเครื่องยนต์ แต่ว่า จะมีสักกี่คนที่ติดแล้วจะ “ดูค่าเป็น” ส่วนใหญ่แล้วก็ดูเข็มกระดิกกวาดไปกวาดมา กับสีสันแสงสวยๆ กันจนนึกว่างานแฟร์หรือผับที่ไหน ยิ่งตอนนี้พัฒนาไปมีแสงสีหลากหลายหยั่งกะผับเคลื่อนที่ เอ้า เราลองมาดูกัน ว่าเกจ์แต่ละตัวมันทำหน้าที่อะไร และ “ควรดูค่าอย่างฉลาด” จะได้คุ้มกับเงินที่เสียไป และ รู้เท่าทันก่อนจะเกิดปัญหาใหญ่ครับ

เกจ์วัดรอบ

สำหรับ “วัดรอบ” หรือ Tacho Meter (แท็คโคมิเตอร์) เป็นมาตรวัดรอบการทำงานของเครื่องยนต์ ที่พวกรถซิ่งชอบกันนักกันหนา เวลาเข็มกวาดฟาดรอบสูงๆ นี่มันส์สะใจดีแท้ โดยเฉพาะตระกูลรอบจัด VTEC ทั้งหลาย บางทีเราโมเครื่องมา รอบสูงกว่าเดิม วัดรอบเดิมไม่พอแล้ว ก็ต้องใส่วัดรอบซิ่งแยกต่างหาก แถมยังมี Shift Light ยิงว๊าปๆ เวลา “รอบถึงเปลี่ยนเกียร์” ได้อีกต่างหาก ตั้ง Memory ได้หลากหลาย ในยุค 90 จึงนิยมติดวัดรอบ Auto Meter กันมาก ไอ้ตัวบิ๊กๆ หยั่งกะนาฬิกาบ้าน ติดแล้วก็โดน “สอย” กันเป็นแถว สำหรับความสำคัญของวัดรอบ ก็จะใช้ “ดูรอบเครื่องยนต์” ตั้งแต่รอบเดินเบา มันจะมีค่าปกติ เฉลี่ยทั่วไปเดินเบาอยู่เฉลี่ย 700-800 รอบ แต่ถ้ารอบเดินเบามันต่ำเกินปกติ เครื่องก็จะสั่นๆ หรือมันเดินเบารอบสูงเกินไป ก็ต้องเช็คดูว่ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับระบบควบคุมรอบเดินเบาหรือเปล่า แต่สาระสำคัญอยู่ที่ “รอบสูง” ปกติแล้วเครื่องโมดิฟายสเต็ปสูงๆ ก็จะเพิ่มรอบสูงสุดกว่าเดิมไปมากโข ซึ่งวัดรอบติดรถมีตัวเลขสเกลไม่พอแน่ๆ เพราะพวกรอบจัดก็เหนี่ยวกันเกิน 8,000 รอบ ทั้งนั้น พวกวัดรอบซิ่งก็จะวัดค่าได้ 10,000 รอบ ขึ้นไป แต่ใช่ว่าคุณจะลากรอบกันได้หมดนะ อยู่ที่เครื่องของคุณว่ามันจะปั่นขนาดนั้นได้หรือจะแยก Factor ออกมาเป็นเศษๆ ซะก่อน ซึ่งการลากรอบเปลี่ยนเกียร์นั้น คุณจะต้องรู้ว่ารอบสูงสุดมันมีแค่ไหน พวกวัดรอบซิ่งมันก็จะมี “ชิฟต์ไลท์” ที่สามารถตั้งได้ว่าจะให้ “ว๊าป” ที่รอบเท่าไร เพราะบางทีคนขับไม่มีเวลาดูหรอก ไฟชิฟต์ไลต์ว๊าปขึ้นมามึงก็เปลี่ยนเกียร์ให้ทันละกัน ซึ่งเทคนิคการตั้งไอ้ไฟว๊าปนี้ จะตั้ง “ก่อนถึงรอบสูงสุด” สักหน่อย เช่น รอบสูงสุด 9,000 รอบ แต่ถ้าตั้งตรงนั้นมันจะ “สับไม่ทัน” เว้ย เพราะกว่าร่างกายจะตอบสนอง หรือ “รีแอ็คชั่น” รอบมันก็ฟาดจนตัดปั้บๆๆๆๆ เสียจังหวะไปแล้ว ก็ต้องตั้ง “ล่วงหน้าก่อน” อาจจะ 8,800 รอบ ก็ลองดูว่าสับทันมั้ย ส่วนใหญ่จะเป็นเกียร์ 1 ที่รอบจะฟาดไวมาก ส่วนเกียร์อื่นๆ รอบจะเริ่มฟาดช้าไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร

เกจ์วัดบูสต์

อันนี้ขอ “สายหอย” ละกัน เป็นเกจ์ที่ต้องมีไว้อย่างแน่นอน สมัยก่อนใคร “วางเครื่องเบนซินเทอร์โบ” มา หรือ “เครื่องเดิมเซ็ตโบ” ก็จะต้องติดเกจ์วัดบูสต์ไว้%

Most Popular

To Top