รีวิวรถ

BMW พาลุยยุโรปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ The Ultimate BMW M Track Experience 2018

The Ultimate Joy Experience โปรแกรมสิทธิประโยชน์สำหรับเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู โดย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดทริปพิเศษ International Experience พาลูกค้าบินตรงสู่ยุโรปเพื่อสัมผัสประสบการณ์แห่งความสุขในทุกด้านของชีวิตกันที่ประเทศเยอรมนีและโปรตุเกส ซึ่งไฮไลท์ของทริป ประกอบด้วยการเข้าฝึกอบรมการขับขี่ BMW Driving Experience ที่เมือง Maisach ประเทศเยอรมนี รวมทั้งสัมผัสความแรงของ M5 รุ่นใหม่ล่าสุด บนสนามแข่งระดับโลก Circuito Estoril ประเทศโปรตุเกส

วันแรก ต้อนรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูกับการไปเยือนอาณาจักร BMW Welt พร้อมพานำชมโรงงานประกอบในทุกขั้นตอนการผลิต

สำหรับทริป The Ultimate BMW M Track Experience 2018 เริ่มต้นด้วยการพาสมาชิกบินตรงสู่เมืองมิวนิค เพื่อเข้าชม BMW Welt อาณาจักรที่คนรัก BMW อยากไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต บนพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร ซึ่งที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่โชว์รูมขนาดใหญ่เท่านั้น ยังเป็นศูนย์กลางในการสื่อสารระหว่างลูกค้าและบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป อีกด้วย ส่วนอาคารถูกแบ่งออกเป็น 2 ชั้น โดยชั้น 1 จัดแสดงรถยนต์ BMW, MINI และ Rolls Royce ครบทุกไลน์ผลิต และร้านจำหน่ายของที่ระลึกที่ห้ามใจไม่ได้จริงๆ ส่วนชั้น 2 จัดแสดงรถจักรยานยนต์ BMW Motorrad และจุดรับรถสำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถ รวมถึงเป็นโซนที่สามารถรับรถและทดลองขับออกด้านนอกอาคารได้ทันที

จากนั้นจึงขยับเดินข้ามสะพานเชื่อมอาคารมายังฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นอาคาร BMW Museum และโรงงานประกอบรถยนต์ BMW หรือที่เรียกว่า BMW Plant แม้ว่าวันที่ไปจะเป็นวันที่พิพิธภัณฑ์ปิด แต่ทีมงานได้จัดให้ได้เข้าไปเยี่ยมชมภายในโรงงานประกอบรถยนต์กันแบบจุใจ ได้เห็นในทุกขั้นตอนการประกอบและผลิตเครื่องยนต์ จนถึงขั้นตอนที่ผลิตรถออกมาสำเร็จพร้อมส่งมอบ ซึ่งโรงงานแห่งนี้ติดตั้งหุ่นยนต์สำหรับประกอบรถยนต์มากกว่า 600 ตัว และยังผลิตเครื่องยนต์ รวมถึงชิ้นส่วนสำคัญๆ เพื่อส่งมายังโรงงานประกอบของบีเอ็มดับเบิลยู จ.ระยอง

เมื่อเดินสำรวจทั่วบริเวณแล้วได้เวลาชมบรรยากาศของเมืองพร้อมกับทานเมนูชั้นเลิศที่ Restaurant181 ที่มีความสูงถึง 181 เมตร แถมยังเป็นห้องอาหารที่หมุนได้ทำให้สามารถชมบรรยากาศของเมืองมิวนิคได้แบบ 360 องศา อิ่มอร่อยกันแบบพรีเมียมจริงๆ

ปิดท้ายของวันด้วยการเดินชมความสวยงามของจตุรัสมาเรียนพลัทซ์ (Marieanplatz) และช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ โดยที่จตุรัสแห่งนี้ในอดีตเป็นตลาดค้าขายขนาดใหญ่ที่สำคัญของเมืองมิวนิค ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เป็นจุดนัดพบ และเป็นสถานที่จัดแสดงงานทางวัฒนธรรม ทั้งยังเป็นที่ตั้งของศาลาหลักเมืองหลังใหม่ (Nuese Rathaus) ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือ การรอเวลาที่นาฬิกาตุ๊กตากลจะออกมาเต้นระบำพร้อมกับเสียงระฆังที่ตีก้องกังวาลในเวลา 11.00 น. และ 17.00 น.ของทุกวัน

อำลาวันแรกด้วยการลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับของขาหมูเยอรมันและเมนูแบบท้องถิ่นดั้งเดิมที่ Zum Franziskaner ใกล้กับโรงละครแห่งชาติ Bavarian State Theater ซึ่งร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในตัวอาคารที่ได้รับการปรับปรุงใหม่แต่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นยุโรปเอาไว้อย่างชัดเจน ส่วนภายในเป็นโถงกว้าง แบ่งโต๊ะนั่งสไตล์โรงเบียร์เยอรมันที่ตกแต่งด้วยภาพวาดและให้บรรยากาศของการสังสรรค์ได้อย่างน่าดูชม และเข้าพักผ่อนที่ Sofitel Munich Bayerpost

วันที่สอง สู่การเรียนรู้เทคนิคการขับรถอย่างถูกวิธีและปลอดภัย ก่อนเหิรฟ้าสู่ดินแดนฝอยทอง

ในวันถัดมาถึงเวลาฝึกการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัยกับโปรแกรม BMW Driving Experience ที่ BMW Driving Academy Maisach ซึ่งถือเป็นสถาบันที่สร้างผู้ฝึกสอนมืออาชีพ รวมทั้งสอนการขับให้กับลูกค้าและบุคคลภายนอกตั้งแต่ขั้นพื้นฐานถึงขึ้นสูงสุด โดยศูนย์ฝึกอบรมแห่งนี้ เปิดอบรมและทดสอบการขับขี่ตามหลักสูตรมาตรฐานของ BMW ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งมีจุดกำเนิดมาจากหลักสูตรสำหรับฝึกนักแข่งรถ แต่ไม่ใช่แค่เพียงมีรถ BMW ทุกรุ่นให้ได้เรียนรู้เท่านั้น ยังมี mini และ Rolls Royce เอาไว้ให้ลองกันอีกด้วย

โดยจุดเด่นของ BMW Driving Academy Maisach นอกเหนือจากหลักสูตรที่เข้มข้นและเน้นให้ผู้ฝึกสอนฝึกฝนผู้เข้าเรียนกันแบบตัวต่อตัวแล้ว ยังเป็น Driving Center แห่งแรกในเยอรมนี ส่วนแห่งที่สองอยู่ในเมือง Spartanburg รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และแห่งที่สามที่เกาะอึนชอน ประเทศเกาหลีใต้ โดยสถานที่ฝึกอบรมแห่งนี้ถูกดัดแปลงจากสนามบินเก่าในเขตทหาร มีระยะทางตรงมากถึง 1.8 กิโลเมตร บนพื้นที่รวมกว่า 700 ไร่ เป็นสถานที่ฝึกอบรมการขับขี่ของ BMW ที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และมีพื้นที่สำหรับจอดรถสำหรับฝึกสอนมากถึง 400 คัน ถือเป็นสถานที่ที่มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก ทันสมัยและกว้างขวาง เหมาะกับการจัดกิจกรรมฝึกอบรมการขับขี่เป็นที่สุด

งานนี้สมาชิกก่อนที่จะลงไปขับบนสนามต้องการการเรียนทักษะการขับในห้องเรียนกันก่อน ซึ่งสมาชิกได้รับเกียรติจาก Mr.Marcus Willhardt ระดับหัวหน้าผู้ฝึกสอน มาให้ความรู้กันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่จะรับกุญแจรถ BMW 4Series เพื่อเข้าอบรมการขับทั้งแบบสลาลอม, การเปลี่ยนเลนกะทันหัน, เบรกฉุกเฉิน, เบรกและเปลี่ยนเลนกะทันหัน การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงบนทางเปียกชุ่ม โดยที่สมาชิกทุกคนสามารถผ่านการฝึกและรับประกาศณียบัตรมาได้ด้วยความภาคภูมิใจ จากนั้นจึงบินลัดฟ้าสู่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เข้าพักผ่อนที่ Sofitel Lisbon Liberdade

วันที่สาม พักผ่อนหย่อนใจผ่อนคลายด้วยการเที่ยวชมสถานที่ประวัติศาสตร์

เช้าวันรุ่งขึ้นได้เวลาของการออกเดินทางไปชมความสวยงามของวิหารเจโรนิโม (Jeronimos Monastry) ซึ่งเป็นวิหารเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองของโปรตุเกส โดยภายในวิหารตกแต่งอย่างหรูหราด้วยศิลปะมานูเอลไลน์ (Manuelline) มีลวดลายของซุ้มประตูแกะสลักที่สวยงาม ซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 70 ปี ทั้งยังถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก และภายในวิหารที่เป็นโบสถ์ Santa Maria de Belem ยังเป็นที่ฝังศพของ วาสโก ดากามา (Vasco da Gama) นักเดินเรือสำรวจผู้ยิ่งใหญ่ชาวโปรตุเกส ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการค้นพบเส้นทางเดินเรือจากเมืองลิสบอน สู่มหาสมุทรอินเดีย เริ่มเดินทางสู่มหาสมุทรเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1497 ผ่านแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) แอฟริกาใต้ แล้วล่องเรือขึ้นเหนือสู่มหาสมุทรอินเดีย และเสียชีวิตที่เมืองโคชิ (Kochi) ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 1524 ถือว่ามีช่วงชีวิตอยู่ในสมัยอยุธยาตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและสมเด็จพระรามาธิบดีที่2 นั่นเอง

จากนั้นได้ลิ้มลองความหวานหอมของขนมทาร์ตไข่ต้นตำรับร้าน Pasteis de belem ที่เป็นร้านเก่าแก่ของลิสบอน เปิดขายมาตั้งแต่ ค.ศ. 1837 ถือว่าเป็นร้านขนมทาร์ตไข่เจ้าแรกในโลกก็ว่าได้ แป้งพายกรุบกรอบ ไส้ที่ทำจากไข่แดง เนย นมและน้ำตาล นุ่มละมุนลิ้น ทั้งยังมีกลิ่นหอมจากผิวหน้าทาร์ตที่ไหม้เกรียมเล็กน้อย ดูสวยงามและอร่อยสมชื่อจริงๆ และเจ้าขนมทาร์ตไข่จากลิสบอนนี่เองที่อร่อยข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่แผ่นดินจีนและกลายเป็นขนมประจำถิ่นของมาเก๊าในปัจจุบันอีกด้วย

เดินขยับข้ามฝั่งมาอีกหน่อยที่ริมแม่น้ำเทกัส (Tagus) จะพบกับหอคอยบีเล็ม (Torre de Belem) ป้อมปราการปกป้องเขตบีเล็ม เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของเมืองลิสบอน สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1515 โดย Francisco de Arruda สถาปนิกคนสำคัญในยุคนั้น ตัวหอคอยสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนมีความสูงกว่า 30 เมตร ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อ ค.ศ. 1983 เดิมเป็นหอคอยเล็กๆ กลางแม่น้ำ แต่ปัจจุบันกลายสภาพเป็นเกาะติดริมชายฝั่ง และที่ใกล้ๆ กัน จะพบกับอนุสาวรีย์แห่งการค้นพบ (Padro dos Descobrimentos) ที่ตั้งตระหง่านสู่ท้องทะเล เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ทางเข้าท่าเรือลิสบอน มีความสูงถึง 65 เมตร สร้างเมื่อ ค.ศ.1960 เพื่อเป็นเกียรติแก่นักสำรวจชาวโปรตุเกส ที่ออกแบบให้เหมือนกับเป็นเรือกำปั่นที่บรรทุกวีรบุรุษนักสำรวจมุ่งหน้าสู่ท้องทะเล

เพลินตากันพักใหญ่ได้เวลาเดินทางสู่เมืองซินทรา (Sintra) ที่แสนโรแมนติก เข้าชมปราสาท Quinta da Regaleira อีกหนึ่งมรดกโลก ที่ออกแบบโดย Antonio Augusto Carvalho Monteiro และ Luigi Manni สถาปนิกผู้ออกแบบ La Scala ที่โด่งดังในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมความงามของตัวปราสาทและพื้นที่สวนโดยรอบ มีทั้งโบสถ์ ทะเลสาบ ป้อมปราการ บันไดวนที่เป็นเส้นทางลับสู่อุโมงค์ใต้ดิน เป็นปราสาทที่มีทั้งความสวยงามและลึกลับมากทีเดียว

จากนั้นนั่งรถบัสขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อชมความมหัศจรรย์ของปราสาทพีน่า (Pena Castle) หรือ พระราชวังแห่งชาติพีน่า อีกหนึ่งมรดกโลก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโปรตุเกส เป็นปราสาทที่ตั้งสง่าโดดเด่นอยู่บนหน้าผาสูงชัน มองเห็นเมืองด้านล่างได้โดยรอบ ตัวปราสาทตกแต่งด้วยศิลปะแบบ Romanticism หรือศิลปะแบบจินตนาการนิยม เน้นการใช้ เส้น แสง สี ที่เร้าใจ สะท้อนอารมณ์ ยิ่งมองดูในวันที่ฝนตกโปรยปรายและมีหมอกลงหนาแบบครั้งนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนปราสาทในเทพนิยายจริงๆ

เมื่อถึงเวลาเย็นย่ำก็ได้เวลามื้อเย็นสุดพิเศษที่ร้าน O Mercado do Peixe ร้านอาหารแนวซีฟู๊ดชื่อดัง เน้นความสด คัดสรรวัตถุดิบจากท้องทะเลอย่างพิถีพิถัน และปิ้งย่างกันกลางร้าน สร้างบรรยากาศการทานอาหารค่ำได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าราคาจะสูงหน่อย แต่ระดับความพรีเมียมนั้นพิเศษสุด

วันที่สี่ ปิดทริปยิ่งใหญ่กับการสัมผัสความเร็วแรงของรถในตระกูล M ในเซอกิตระดับโลก

รุ่งเช้าวันต่อมาได้เวลาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับ BMW M5 รุ่นใหม่ล่าสุด บนสนามแข่งระดับตำนานอย่าง Circuito Estoril ที่จารึกประวัติศาสตร์การแข่งขันระดับโลกมาแล้วหลายรายการ แต่ก่อนจะได้ลองขับกันแบบเต็มรอบสนาม ต้องมีการวอร์มอัพกันพอสมควร ด้วยการฝึกทักษะกับรถยนต์รหัส M ตัวแรงในหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น M1, M3, M6 และ M X5 เพื่อสร้างความคุ้นชินกับแรงบิดระดับสูง ซึ่งสมาชิกต้องฝึกเทคนิคการเบรก การเข้าโค้ง การขับแบบสลาลอม และสัมผัสกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับรถที่มีแรงบิดระดับสูง จากนั้นจึงได้เวลาระเบิดความแรงสู่ล้อทั้งสี่ สัมผัสความแรงระดับ 600 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่เทียบชั้นรถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์แต่อยู่ในร่างของรถสปอร์ตซีดานตัวถังใหญ่ แบบเต็มรอบสนาม Estoril ซึ่งรับรู้ได้ถึงการควบคุมที่มั่นคงและปลอดภัย ผ่านการเร่งความเร็วสูงบนทางตรง เข้าโค้งแบบมั่นใจ และเบรกให้หยุดนิ่งได้อย่างไร้ที่ติ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนอาวุโสที่ได้รับการรับรองจาก BMW International Racing Experience และทีมงานที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ปิดท้ายด้วยเซอร์ไพรส์ที่ทีมงานผู้ฝึกสอนจัดให้กับกิจกรรม Pace Car Laps ที่ผู้ฝึกสอนชั้นครูจะขับให้ลูกศิษย์ได้นั่งไปด้วย แต่ไม่ได้ขับแบบธรรมดา เพราะกดคันเร่งแบบเต็มแรง ออกตัวล้อฟรี แล้วดริฟท์เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงในทุกโค้งของสนาม เป็นการสัมผัสความแรงแบบมืออาชีพจัดให้ สร้างความสนุกและเร้าใจให้กับสมาชิก BMW ชาวไทยอย่างจุใจและไม่เคยสัมผัสแบบนี้มาก่อนในชีวิต เป็นการเติมเต็มประสบการณ์ความแรงได้อย่างถึงใจ พร้อมกับปิดกิจกรรมด้วยการมอบประกาศนียบัตรรับรองการผ่านกิจกรรม The Ultimate BMW M Track Experience 2018 ได้อย่างประทับใจ

โดยทั้งหมดนี้คือสุดยอดประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มอบให้กับสมาชิกผู้ใช้รถยนต์ BMW เท่านั้น

ทริป The Ultimate  BMW M Track Experience 2018 เปิดประสบการณ์พิเศษในชีวิตกับสนามแข่งในตำนานระดับโลก Circuito Estoril กับความเร็วแรงของรถในตระกูล M

น้อยคนนักที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของสนามแข่งที่ผ่านการแข่งขันรายการใหญ่ๆ ระดับโลกมาแล้วมากมายอย่างสนามแข่งรถเอสโตริล (Circuito Estoril) ในประเทศโปรตุเกส ซึ่งสนามแข่งรถแห่งนี้ได้มีบันทึกสถิติความแรงเอาไว้อย่างมากมายโดยเฉพาะการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือ F1 (Formula 1:ฟอร์มูล่าวัน) ถือเป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นที่สุดของชีวิตนักแข่งรถอีกด้วย

สนามเอสโตริล (Estoril) สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1972 โดยแรกเริ่มมีระยะทางรวม 4.350 กิโลเมตร ในช่วง 12 ปีแรกของการเปิดใช้สนาม มีการปรับปรุงสนามเพื่อให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยอยู่หลายครั้งและมีไลน์สนามที่คล้ายกับสนามคาตาลุนญ่าในสเปนอีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักแข่งหลายทีมมักจะเข้ามาใช้สนามเอสโตริลแห่งนี้ในการขับทดสอบในช่วงฤดูหนาว หรือ Winter Testing

ปีที่ถือเป็นปีทองของสนามเอสโตริล คือเมื่อปี ค.ศ. 2001 สนามแห่งนี้สร้างความเชื่อมั่นกลับมาด้วยการรองรับการแข่งขัน Portuguese Motocycle Grandprix, การแข่งขัน The Eurosport Super Racing Weekend, The International Renault, European Le Mans Series, Spanish GT, Formula 3 และ Nissan Open Telefonica โดยในปี 2003 รัฐบาลได้เข้ามาดูแลกิจการของสนามทั้งหมดและกลายเป็นสนามแข่งของรัฐอย่างเต็มรูปแบบ

สนามแข่งแบบเซอร์กิตแห่งนี้มีความหลากหลายและท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นเนินเขา ทางตรง ทางโค้งที่ท้าทาย มีโค้งทั้งหมด 13 โค้ง ซึ่งมีสถิติทำความเร็วต่อรอบเอาไว้ที่ 1 นาที 31.106 วินาที รองรับรายการแข่งระดับโลกอย่าง Moto GP, WTCC, A1 GrandPrix, Le Mans Series, GT Championship, F1, DTM และเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสนามแห่งนี้ไม่ได้ใช้แข่ง F1 อีกแล้ว โดยถูกถอนออกจากปฏิทินการแข่งขันเมื่อปี ค.ศ.1997 แต่ยังคงเป็นสนามที่เปิดให้เช่าใช้งานสำหรับการแข่งขันรายการอื่นๆ รวมทั้งเปิดให้เป็นสนามเพื่อทดสอบและทดลองขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์หลากหลายแบรนด์ รวมทั้งกิจกรรมที่ BMW จัดขึ้นเช่นกัน

โดยครั้งนี้ BMW ได้พาสมาชิกมาสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิตกับการขับรถรหัสแรงตระกูล M ที่ถือเป็นสุดยอดสายพันธุ์แรงของ BMW กับทริป The Ultimate BMW M Track Experience 2018 นอกจากจะได้ลองขับ M หลายรุ่นกับการฝึกควบคุมความแรงทั้งการขับแบบ Slarom, Lane Change, Emergency Brake และยังได้ขับ M5 รุ่นใหม่ ที่มีสมรรถนะดุดันระดับ 600 แรงม้า ส่งถ่ายพละกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ด้วยแรงบิดมหาศาล 750 นิวตันเมตร บนสนามแข่งระดับโลกแห่งนี้กันแบบไม่มีลิมิต แต่ยังอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนอาวุโสที่ได้รับการรับรองจาก BMW International Racing Experience และทีมงานที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเพื่อความปลอดภัยสูงสุด เป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ สำหรับสมาชิก BMW เท่านั้น

 

คำบอกเล่าจากเหล่าลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ร่วมทริป BMW Ultimate Joy Experience 2018

สุภาพิมพ์  ชัยชนะวงศ์ (น้ำตาล)

ธุรกิจนำเข้าส่งออก

ด้วยบุคลิกของสาวมั่นที่เป็นผู้หญิงทำงาน มีความคล่องแคล่ว แถมยังเป็นผู้บริหารในธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้า ทำให้คุณสุภาพิมพ์ ชัยชนะวงศ์ มีสไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมออกไปเผชิญโลกกว้างอยู่เสมอ และครั้งนี้เช่นกันกับการเดินทางไปสัมผัสความเร้าใจบนสนามแข่งกับรถที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะขั้นสูงอย่าง BMW M5

“นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในกิจกรรมของ BMW Ultimate Joy Experience เป็นกิจกรรมที่สนุกและคุ้มค่ามากๆ โดยเฉพาะใครที่ชอบรถยนต์ BMW อยู่แล้วยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้นไปอีก ส่วนตัวใช้ BMW X5 ในชีวิตประจำวัน เป็นรถที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ และไม่ได้เป็นคนที่ขับรถเร็ว พอได้มาฝึกการขับที่ถูกต้องกับผู้ฝึกสอนมืออาชีพ ทำให้รู้ตัวเองว่าที่ผ่านมาทำผิดหมด ตั้งแต่ท่านั่งขับซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญ แถมยังได้มาลองขับ BMW M5 ที่แรงมากๆ อีกด้วย ทีแรกกังวลว่าจะควบคุมได้หรือเปล่า เพราะรถแรงขนาดนี้น่าจะไม่เหมาะกับให้ผู้หญิงขับ แต่พอได้ลองขับแล้วกลับรู้สึกสนุกและอยากเปลี่ยนมาลองขับรถในแบบซีดานแรงๆ อย่างนี้บ้าง ที่สำคัญคือกล้าที่จะพาตัวเองให้เร็วมากขึ้น แต่ปลอดภัยขึ้นอีกด้วย สิ่งที่ประทับใจที่สุด คือ การฝึกทักษะการขับโดยผู้ฝึกสอนจาก BMW Driving Experience Maisach แล้วยังได้มีโอกาสได้เที่ยวในสถานที่สำคัญๆ ในเยอรมนีและโปรตุเกสอีกด้วย งานนี้สนุกและประทับใจจริงๆ ทีมงานดูแลดีมากๆ คิดว่าครั้งต่อไปที่ BMW จัดกิจกรรมแบบนี้ คงต้องเตรียมตัวลงทะเบียนจองอย่างแน่นอน”

 

สมเกียรติ เฉลิมอิสระชัย (เม่น)

เกษียณอายุ

คุณสมเกียรติ เฉลิมอิสระชัย หรือ พี่เม่น ของสมาชิกในทริปนี้ เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ BMW มาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ปัจจุบันมี BMW X5 เป็นเพื่อนคู่ใจ และยังมี BMW E34 ที่รู้ใจมานานใช้ขับมาทั่วประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้อีกด้วย

“การเดินทางใช้ชีวิตและทำอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเองเป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็มมากขึ้น กับกิจกรรมครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ก่อนหน้าที่จะได้มาร่วมเดินทางมาที่โปรตุเกส ก็ได้มีโอกาสไปทดลองขับ BMW X3 ใหม่ เป็นความรู้สึกที่สนุกมาก เพราะเป็นคนที่ชอบขับรถอยู่แล้ว แต่ครั้งนั้นได้ขับแบบทางฝุ่นและทางออฟโรดที่ปกติไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ลองขับรถในพื้นที่อย่างนั้น ทำให้รู้สึกว่าการเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ BMW เป็นสิ่งที่คิดถูกแล้วส่วนครั้งนี้พอได้รับ SMS แจ้งจาก BMW ว่าจะมีกิจกรรมให้ได้ขับ M5 กันที่สนามเอสโตรีล ทำให้ต้องเฝ้ารอวันให้ลงทะเบียนอย่างใจจดใจจ่อและสุดท้ายได้เข้าร่วมทริป รู้สึกดีใจมาก และยังเป็นครั้งแรกที่จะได้เดินทางมาลองขับรถในฝันในต่างประเทศบนสนามแข่งระดับตำนานอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ในโปรแกรมยังจัดให้ได้ฝึกทักษะการขับรถที่ถูกต้องและปลอดภัยที่ BMW Driving Academy ที่เมือง Maisach เยอรมนี เป็นการย้ำเตือนให้นึกถึงพื้นฐานที่จำเป็นในการขับรถ และจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ในการขับรถในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน อีกอย่างยังได้ชมความยิ่งใหญ่ของ BMW Welt และเยี่ยมชมโรงงานประกอบรถยนต์แบบละเอียดทุกขั้นตอน เป็นประสบการณ์ที่พิเศษที่หาที่ไหนไม่ได้ ถึงจะเดินทางมาเองก็คงไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมที่พิเศษอย่างนี้แน่นอน ต้องขอขอบคุณ BMW ที่จัดทริปแบบนี้ รับรองว่าครั้งหน้าต้องพยายามมาอีกให้ได้ และขอเชิญชวนให้ผู้ที่เป็นเจ้าของรถ BMW มาร่วมกิจกรรมดีๆ แบบนี้กันให้มากๆ รับรองว่าคุ้มค่าจริงๆ”

 

อติชาญ เชิงชวโน (อู๋)

พิธีกรรายการและนักเขียนด้านเทคโนโลยี

คนรุ่นใหม่ที่รักในเรื่องของเทคโนโลยี และมีความรักในแบรนด์ BMW มาโดยตลอด แต่ความชื่นชอบไม่ได้มีแค่ BMW เท่านั้น ยังรักในความมีเอกลัษณ์ของ mini อีกด้วย แถมยังเป็นคนที่รู้ลึกรู้จริงในความเป็นมาของ BMW ซีรีย์ต่างๆ ไม่ธรรมดาจริงๆ

“แน่นอนว่าสิ่งที่ประทับใจที่สุด คือการได้ขับ M5 ในสนามเอสโตรีล เป็นรถที่เร็วและแรง แต่ควบคุมได้ง่าย ให้ความปลอดภัยที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่จะได้ขับ M5 ยังมีการวอร์มตัวเราเอง ด้วยการสร้างความคุ้นเคยกับความแรงของ M รุ่นต่างๆ แบบครบรุ่น บนสถานีฝึกทั้งแบบสลาลอม, lane change, emergency brake ทำให้รู้สึกว่าการควบคุม M เป็นเรื่องที่ไม่ยากถ้าได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง อยากให้ผู้ที่ชื่นชอบ BMW เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์แบบนี้สักครั้งรับรองว่าจะติดใจ แถมยังได้ท่องเที่ยวที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทีมงาน เป็นความอบอุ่นที่ BMW มอบให้สมาชิกอย่างที่ไม่มีใครเหมือน สนุกมากครับ สะใจสุดๆ เมื่อได้กดคันเร่งแบบเต็มที่บนสนามแข่งและมีผู้ฝึกสอนดูแลอย่างใกล้ชิดแบบนี้”

 

ณรงค์  พันธ์โนราช

ธุรกิจส่วนตัว

ผู้ชายพูดน้อยที่มีความจริงใจ และพร้อมที่จะสนุกไปด้วยกันกับสมาชิกผู้ร่วมทริปเสมอ แถมยังเป็นคนที่รักในแบรนด์ BMW มาโดยตลอดอีกด้วย

“ปกติได้ติดตามกิจกรรมทางหน้าเพจของ BMW อยู่เสมอ และพอได้รับ SMS แจ้งว่าจะมีทริปนี้จัดขึ้นก็ต้องใจมากว่าจะต้องมาให้ได้ และพอได้มาแล้วก็รู้สึกสนุกมาก ประทับใจในทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นตั้งแต่มาถึงที่เยอรมนี ได้ไปเที่ยวชม BMW Welt และชมไลน์ผลิตในโรงงาน ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเรื่องของการผลิตอยู่แล้ว พอได้เข้ามาดูโรงงานที่ได้มาตรฐานที่ส่งชิ้นส่วนไปประกอบในโรงงานของ BMW ทั่วโลก ยิ่งทำให้รู้สึกมั่นใจในแบรนด์มากขึ้น แต่ที่ชอบมากคือการได้ฝึกขับรถในสถานการณ์ต่างๆ ที่ผู้ฝึกสอนได้เตรียมเอาไว้ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเรื่องของการปรับท่านั่งที่ถูกต้อง ทำให้ช่วยให้เราสามารถบังคับควบคุมรถได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่างจากเดิมที่ปรับเบาะแค่ให้นั่งสบายเท่านั้น ซึ่งความปลอดภัยต่างกันมาก และที่ประทับใจที่สุดคือการได้ขับ M5 ในสนามแข่งที่เป็นไฮไลท์ของกิจกรรมในครั้งนี้ โดยมีผู้ฝึกสอนแนะนำการขับกันแบบตัวต่อตัว ไม่เคยขับรถที่แรงขนาดนี้มาก่อน M5 เป็นรถที่แรงมากๆ แต่ก็ปลอดภัยมากๆ ด้วย ในตอนท้ายกิจกรรมยังได้นั่งในรถที่ผู้ฝึกสอนขับแบบซิ่งเต็มที่ในสนามอีกต่างหาก รู้สึกได้เลยว่ารถคันนี้มีความพิเศษที่สุด เติมเต็มความสุขได้มาก ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าต้องมาอีกให้ได้ครับ”

 

วัฒนา  สุจิตรานุรักษ์ (ป๊อก)

ธุรกิจส่วนตัว

เจ้าของกิจการที่มีธุรกิจรัดตัวอยู่ตลอดเวลา แต่เลือกใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ แถมยังเป็นคนที่ชอบขับรถเป็นชีวิตจิตใจ กับพาหนะคู่กายที่รู้ใจอย่าง BMW X5 ที่พร้อมพาลุยไปทุกที ด้วยการที่เป็นรถอเนกประสงค์ ใช้งานได้อย่างหลากหลาย X5 จึงตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และครั้งนี้เตรียมพร้อมที่จะมาขับ M5 ตัวแรงอย่างใจจดใจจ่อ

“นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาทริปต่างประเทศกับ BMW และรู้สึกถึงการดูแลเอาใจใส่ของทีมงานทุกคน เป็นการเดินทางที่แปลกไปจากเดิมไม่เหมือนมาเที่ยว แต่มาทำภารกิจมีเป้าหมายชัดเจนคือต้องมาขับ M5 ให้ได้ และได้ฝึกทักษะการขับในหลายรูปแบบ รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้ขับ BMW ยิ่งได้ขับ M ทุกรุ่นก่อนขับ M5 ยิ่งเป็นความสุขที่สุด จากที่ขับแต่รถเอสยูวี ตอนนี้เริ่มอยากเปลี่ยนใจมาเป็นเจ้าของรถแรงๆ แบบ M5 บ้างแล้วเหมือนกัน ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ที่จัดให้ทั้งเที่ยวในสถานที่สำคัญในเยอรมนีกับโปรตุเกสก็ประทับใจมาก บรรยากาศสวยมาก ถ้าสะดวกเมื่อไหร่จะขอมาร่วมกิจกรรมอีกอย่างแน่นอน”

 

ปิติกุล ติรณศักดิ์กุล (ปอนด์)

ธุรกิจส่วนตัว

วัยรุ่นที่สุดในทริปนี้และยังตั้งใจมาขับ M5 อย่างที่สุด ด้วยความชื่นชอบรถยนต์มาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงวันที่เรียนจบแล้วรับช่วงธุรกิจบริหารโชว์รูมรถยนต์มาจากครอบครัว ยิ่งทำให้มีแรงกระตุ้นให้อยากเข้าร่วมกิจกรรม The Ultimate M Track Experience 2018 มากยิ่งขึ้น

“เคยจองร่วมกิจกรรมในทริปก่อนหน้านี้ แต่ไม่ทันเพราะมีคนจองเยอะมาก แต่ครั้งนี้ดีใจมากที่จองได้ทัน เป็นกิจกรรมที่อยากสัมผัสสักครั้งในชีวิต จากที่ชอบ BMW เพราะรูปโฉมที่โดนใจและสมรรถนะของเครื่องยนต์และความปลอดภัยที่สุดยอด พอมาได้สัมผัสในหลายรุ่น รวมทั้งได้ฝึกทักษะการขับจากสถาบันที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลกอย่าง BWM Driving Academy เป็นความรู้สึกที่สุดยอดมากๆ ประทับใจตั้งแต่ครูฝึกที่สอนอย่างละเอียดตั้งแต่ในห้องเรียนมาจนถึงการทดลองขับจริง เมื่อขับผิดพลาดครูฝึกจะเข้ามาแนะนำวิธีที่ถูกต้องทันที ทำให้เราพัฒนาการขับได้เร็วขึ้น ยิ่งพอได้มาขับ M5 ยิ่งประทับใจมาก ทำให้รู้เลยว่าการปรับท่านั่งที่ถูกต้องสามารถทำให้บังคับควบคุมรถแรงๆ ได้อย่างง่ายดาย จากที่ไม่เคยคิดว่าท่านั่งสำคัญ ตอนนี้เปลี่ยนความคิดใหม่ และจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาใช้กับการขับรถในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน เป็นประสบการณ์ที่จะไม่ลืม อยากเชิญชวนให้คนที่รัก BMW มาร่วมกิจกรรมแบบนี้กันเยอะๆ ส่วนตัวคิดว่าถ้ามีโอกาสต้องมาอีกให้ได้ เพราะแต่ละกิจกรรมจะแตกต่างกันไป มีทั้งทริปในประเทศและต่างประเทศ กิจกรรมนี้ดีมากๆ และสนุกมากๆ ด้วยครับ”

 

ธนทัศน์  เตลาน (ตอง)

ธุรกิจร้านอาหารจากญี่ปุ่น (ไม่รู้ว่าเค้าพิมพ์ผิดหรือเปล่า ควรจะเป็นธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น หรือไม่)

คุณธนทัศน์ดูเป็นผู้ชายเรียบร้อย สบายๆ แต่ใครจะรู้ว่าที่จริงแล้ว ชื่นชอบความแรงเป็นชีวิตจิตใจ แถมยังมี BMW E36 ที่แต่ง Alpina รอบคัน แสดงความเป็นตัวตนของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างชัดเจน และทริปนี้ยิ่งทำให้ความฝันที่อยากลองขับรถในตระกูล M กลายเป็นความจริง

“ผมชื่นชอบ BMW มานานแล้ว เพราะเป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีทั้งความภูมิฐานและสมรรถนะที่ไม่แพ้ใคร ทริปที่ได้มาครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทำให้รู้สึกตื่นเต้นอยู่พอสมควร ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่ามีกิจกรรมแบบนี้ที่ทาง BMW จัดขึ้น พอดีเพื่อนที่ใช้รถBMW เล่าให้ฟังว่ามีกิจกรรมที่น่าสนใจมาก พอดีกับที่ได้รับ SMS แจ้งเข้ามา จึงตั้งตารอคอยวันที่เปิดจองเข้าร่วมกิจกรรม แล้วยังจองได้อีกด้วย ทั้งที่เพื่อนบอกว่าจองยากมาก เพราะมีลูกค้า BMW ให้ความสนใจเยอะมาก พอได้มาแล้วรู้สึกว่าได้มาเที่ยวกับครอบครัวเดียวกัน เป็นครอบครัวของคนที่รักรถ BMW เหมือนกัน ได้คุยภาษาเดียวกันเป็นความรู้สึกที่มีความสุขมาก สิ่งที่ประทับใจมีหลายเรื่องตั้งแต่การฝึกขับขี่ ที่ผู้ฝึกสอนให้การดูแลและแนะนำการขับรถที่ถูกต้องอย่างละเอียด การพาไปท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญซึ่งมีความโรแมนติกมาก และการได้ขับ M5 ในสนามเอสโตรีลที่เป็นสนามในตำนาน รู้สึกภูมิใจมากที่เราสามารถผ่านบททดสอบต่างๆ มาได้ ซึ่งเป็นผลมาจากความเอาใจใส่ของผู้ฝึกสอนทำให้เรามั่นใจว่าจะขับรถได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ได้เรียนรู้การปรับท่านั่งที่ถูกต้อง ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนว่าการปรับท่านั่งจะช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณ BMW ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้นมา ประทับใจในทุกเรื่องจริงๆ ครับ”

 

By :Auto Variety

Most Popular

To Top