นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยนายวิทยา ยาม่วง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางน้ำ กระทรวงคมนาคม นายวัลลภ งามสอน ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด ผู้บริหารเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน นายคาร์ล ออพเพนบอร์น ประธานชมรมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า และผู้บริหารผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ร่วมงานครบรอบ 30 ปี โตโยต้า ถนนสีขาว พร้อมก้าวเข้าสู่สังคมคนขับรถดี และพิธีเปิดศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า ในวันที่ 8 สิงหาคม 2561 ณ ศูนย์ขับทดสอบรถยนต์โตโยต้า Toyota Driving Experience Park ถนนบางนา – ตราด กิโลเมตรที่ 3 กรุงเทพมหานคร
ตลอดระยะเวลากว่า 29 ปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้ดำเนินโครงการถนนสีขาว มีวัตถุประสงค์ เพื่อรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ปลูกฝังวินัยจราจรและน้ำใจของการขับขี่รถที่ดีให้กับสังคมไทย โดยเริ่มตั้งแต่เด็ก เยาวชน จนถึงประชาชน เพื่อก่อให้เกิด “วัฒนธรรมความปลอดภัย” แก่สังคมไทย โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ยุค ดังนี้
• ยุคสร้างการเรียนรู้ (พ.ศ.2531-2540) ยุคแห่งการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน เริ่มการก่อตั้งโครงการ โตโยต้า ถนนสีขาว ด้วยการผลิตคู่มือการเรียนรู้เกี่ยวกับการขับขี่ปลอดภัย “ถนนสีขาว” เล่มที่ 1 รวมถึงการมอบเฮลิคอปเตอร์ โตโยต้า 99 และรถตู้พยาบาลให้โครงการหมออาสาของ จส.100 เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยบนท้องถนนยามฉุกเฉิน พร้อมทั้งได้จัดอบรมขับขี่ปลอดภัยให้แก่ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ นอกจากนั้นยังได้เปิดตัวมาสคอส หนูน้อยมิลค์กี้ เวย์ (Milky Way) เพื่อเป็นสื่อกลางการรณรงค์เสริมสร้างการเรียนรู้ด้านน้ำใจและวินัยจราจรบนท้องถนนแก่เด็กและเยาวชน พร้อมจัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลต่าง ๆ
• ยุคแห่งการสร้างจิตสำนึก (พ.ศ.2541-2550) ยุคแห่งการปลูกฝังวินัยและน้ำใจในการขับขี่ จัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรณรงค์ให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย และจัดทำคู่มือขับขี่ปลอดภัย “ถนนสีขาว” เล่มที่ 2ในปี 2547 ได้เปิดเมืองจราจรจำลองแห่งแรก ณ สวนวชิรเบญทัศ (สวนรถไฟ) เพื่อถ่ายทอดความรู้ สร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชน และได้ทำการขยายไปยังโรงเรียนในพื้นที่ต่างจังหวัดผ่านกิจกรรม “หนูน้อยมิลค์กี้เวย์สัญจร” นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งป้ายเตือนโค้งอันตราย 162 จุดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
• ยุคของทศวรรษแห่งการลงมือทำ (พ.ศ.2551-2560) ยุคแห่งการมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อนำไปสู่การลดจำนวนอุบัติเหตุอย่างเป็นรูปธรรม โตโยต้าจึงได้สนับสนุนการปรับปรุงอาคารสนามฝึกหัดขับรถยนต์ หลักสูตรการขับขี่ปลอดภัย และมอบอุปกรณ์การเรียนการสอนแก่ศูนย์สอนขับรถและพัฒนาศักยภาพผู้ขับรถยนต์ (อาคาร 8) กรมการขนส่ง เพื่อพัฒนาทักษะการขับรถอย่างปลอดภัยและถูกต้อง และในปี 2554 ภาครัฐได้ประกาศนโยบายให้ปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยบูรณาการการดำเนินงานจากทุกภาคส่วนในการลดความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุจราจร และเพื่อเป็นการสอดรับทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โตโยต้าจึงได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายความปลอดภัยบนท้องถนน จัดคาราวานเมืองจราจรปลอดภัย โตโยต้า ถนนสีขาว เพื่อสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน ลดการเกิดอุบัติเหตุ ก่อให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยให้แก่เด็ก เยาวชน ลูกค้า รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในชุมชน และในปี 2555 ได้ริเริ่มโครงการ ถนนแห่งรอยยิ้ม (Smiling Road) ใน 4 ภูมิภาค เพื่อเป็นถนนต้นแบบที่มีความปลอดภัยผสานด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับชุมชน พร้อมขยายเมืองจราจรจำลองอีก 3 แห่ง ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.พิษณุโลก และจ.นครศรีธรรมราช ให้ครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาคเช่นกัน การจัดกิจกรรม Hero on the road เพื่อเฟ้นหาและเชิดชูผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนร่วมทาง เคารพกฎและรักษาวินัยจราจร ไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนน ลดจำนวนอุบัติเหตุอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนั้นยังได้จัดกิจกรรม Campus Challenge โดยโตโยต้าถนนสีขาว เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้จัดทำแผนและลงมือรณรงค์ความปลอดภัยในรั้วมหาวิทยา ลัยด้วยตัวเอง และยังได้จัดทำคู่มือหลักสูตรขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม (Toyota Safe Eco Driving) และได้ขยายองค์ความรู้ไปยังพนักงานขับรถโรงเรียน และรถตู้โดยสารสาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะการขับรถที่ดีและปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร เป็นต้น
จากการดำเนินโครงการโตโยต้า ถนนสีขาว มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โตโยต้าได้รับรางวัล Prime Minister Road Safety Award ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน จนทำให้ในปี 2560 โตโยต้า ถนนสีขาวได้รับรางวัลดีเด่นด้านความปลอดภัยทางถนน ประเภทองค์กรเกียรติยศ ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดของ Prime Minister Road Safety Award
ในโอกาส ครบรอบ 30 ปี โตโยต้า ถนนสีขาว บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อนำไปสู่การสร้าง “สังคมคนขับรถดี” ผ่านความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน ไม่ว่าจะเป็นคณะทำงานความปลอดภัยทางถนนภายใต้ประชารัฐ กรมการขนส่งทางบก สนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจร (สอจร) ศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ) ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย (TARC) มูลนิธิไทยโรดส์ เป็นต้น เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอย่างยั่งยืนต่อไป
และเพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นกับการก้าวสู่การสร้างสังคมคนขับรถดี โดยให้ความ สำคัญกับผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างแท้จริง โตโยต้าได้กำหนดนโยบายร่วมกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ สอดรับกับแผนงานของ สอจร. ในการดำเนินงานมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจากภายในสู่ชุมชน ผ่าน
1) นโยบายการขับขี่ยานพาหนะอย่างปลอดภัยสำหรับพนักงานภายในองค์กร
2) กิจกรรมการจัดการอบรม “ขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม” ให้แก่ลูกค้า โตโยต้าและประชาชนทั่วไป
3) กิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสำคัญ โดยผู้แทนจำหน่ายฯในแต่ละจังหวัด ร่วมกับกรมทางหลวง กรมขนส่งทางบกในพื้นที่ สถานีตำรวจในพื้นที่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คสภาพรถยนต์เบื้องต้น
4) การจัดทำป้ายเตือนการใช้รถใช้ถนนในจุดเสี่ยง เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่
นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก เปิดศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า เพื่อพัฒนาและเพิ่มทักษะการขับขี่รถยนต์อย่างปลอดภัย ผ่านหลักสูตรการอบรมความรู้ด้านการขับขี่ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วย 3 หลักสูตร คือ
1.หลักสูตรการสอนขับรถยนต์ สำหรับมือใหม่หัดขับ เป็นการจัดอบรมขับขี่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการขับรถยนต์และมีความต้องการเรียนรู้ทักษะการขับรถที่ถูกต้อง โดยจะนำความรู้และทักษะการขับรถเพื่อขอสอบใบขับขี่รถยนต์ ซึ่งหลักสูตรประกอบด้วยภาค ทฤษฎีและปฏิบัติ รวมจำนวนการอบรมทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง
2.หลักสูตรการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ เป็นการเปิดสอนสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีความต้องการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ ที่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี โดยเนื้อหาในการอบรมประกอบด้วยภาคทฤษฏี และเพิ่มเนื้อหาในภาคปฏิบัติด้วยการทบทวนการขับรถอย่างปลอดภัยและถูกต้อง รวมถึงเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ในรถยนต์โตโยต้า รวมเวลาการอบรมทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง
3.หลักสูตรขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม (Safe Eco Driving) เปิดสอนสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีใบขับขี่รถยนต์และมีความประสงค์ต้องการเพิ่มทักษะการขับรถอย่างปลอดภัย และประหยัดพลังงานช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยใช้เวลาในการอบรมทั้งสิ้น 8 ชั่วโมง
โดยผู้ที่เข้าร่วมอบรมในหลักสูตร 1 และ 2 และได้ผ่านการทดสอบตามหลักการของกรมการขนส่งทางบก จะได้รับหนังสือรับรองการขอรับใบขับขี่รถยนต์ ซึ่งสามารถนำหนังสือรับรองฯ ไปยื่นพร้อมเอกสารประกอบตามข้อกำหนดของกรมขนส่งทางบก เพื่อขอออกใบขับขี่ฉบับจริงได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
และได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัยแห่งแรกของโตโยต้า โดยนำเสนอโซนพฤติกรรมเสี่ยงและการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ผ่าน VR Simulator ในสถานการณ์การขับรถเร็ว การขับตัดหน้ากระชั้นชิด และเมาแล้วขับ และโซนแนะนำเทคโนโลยีความปลอดภัยในรถยนต์โตโยต้า ที่สนามทดสอบรถยนต์ Toyota Driving Experience Park นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันพัฒนาหลักสูตร “ขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม” หรือ Toyota Safe Eco Driving และเพื่อเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้นี้ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โตโยต้าจึงได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ส่งครูฝึกขับขี่ปลอดภัยของเราร่วมเป็นวิทยากร ผ่านช่องทาง “ระบบถ่ายทอดสดกรมการขนส่งทางบก” และร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ จัดอบรม “ขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม” แก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ตลอดจนร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดตั้งจุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสำคัญอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางถนนให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ได้ทำการปรับปรุงจุดเสี่ยงและสภาพแวดล้อมทางถนน โดยโตโยต้าได้ร่วมมือกับกรมทางหลวง แขวงการทางฉะเชิงเทรา และศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย (TARC) ปรับปรุงและติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยีความปลอดภัย เพื่อยกระดับความปลอดภัยบนถนนทางหลวงหมายเลข 314 ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ และบริเวณนิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ เพื่อเป็นถนนต้นแบบด้านความปลอดภัย และมุ่งหวังว่า จะก่อให้เกิดการนำไปปรับปรุงจุดเสี่ยงทางถนนบริเวณหน้าบ้านของพวกเราทุกคน ให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจร
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกับโตโยต้าภายใต้โครงการถนนสีขาวอย่างต่อเนื่อง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือเพื่อรณรงค์ความปลอด ภัยบนท้องถนนระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และภาคีเครือข่ายความปลอดภัยในครั้งนี้ จะนำไปสู่การขยายกิจกรรมความปลอดภัยทางถนนจากระดับชุมชน สู่ระดับจังหวัด และต่อยอดความร่วมมือในระดับภูมิภาคสู่ระดับประเทศต่อไป โดยโตโยต้ามุ่งมั่นที่จะร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยให้เป็น “สังคมคนขับรถดี” เพื่อสร้างถนนทุกสายในประเทศไทยให้ปลอดภัยเป็น “ถนนสีขาว” อย่างแท้จริง”
“โตโยต้า ขับเคลื่อนความสุข”
โครงการ 30 ปี โตโยต้า ถนนสีขาว
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคม จึงริเริ่มดำเนิน โครงการโตโยต้า ถนนสีขาว ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2531 เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกด้านการขับขี่ปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 29 ปี และเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี ทางบริษัทฯ มีแนวคิดในการสร้าง “สังคมคนขับรถดี” ให้กับสังคมไทย จึงได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก และภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน ในการเสริมทักษะด้านการขับขี่ปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ผ่านกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
• โครงการร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เปิด “ศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า” (Toyota Driving Skill Development Center)
เพื่อเป็นศูนย์ถ่ายทอดความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัยให้กับผู้ที่ต้องการหัดขับรถ และผู้ที่สนใจเพิ่มเติมทักษะการขับขี่ปลอดภัย ตั้งอยู่ที่สนามทดสอบรถยนต์โตโยต้า (Toyota Driving Experience Park) โดยศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้าประกอบไปด้วย 2 กิจกรรมหลักดังนี้
กิจกรรมที่ 1. ศูนย์การเรียนรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัยแห่งแรกของโตโยต้า (Road Safety Showcase)
โซนจำลองพฤติกรรมเสี่ยงและการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ผ่าน VR Simulator ในสถานการณ์การขับรถเร็ว การขับตัดหน้ากระชั้นชิด และเมาแล้วขับ พร้อมโซนแนะนำเทคโนโลยีความปลอดภัยในรถยนต์โตโยต้า Toyota Safety Sense
กิจกรรมที่ 2 การจัดอบรมขับขี่ปลอดภัยเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์และขอรับใบขับขี่
เป็นกิจกรรมจัดอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึงการสอบเพื่อขอหนังสือรับรองในการขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์จากกรมการขนส่งทางบก โดยหลักสูตรที่ใช้ในการอบรมเป็นหลักสูตรที่ทางบริษัทฯ ได้พัฒนาร่วมกับกรมการขนส่งทางบก โดยแบ่งการเรียนออกเป็น 3 หลักสูตร ดังนี้
1. หลักสูตรการสอนขับรถยนต์เพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ (21 ชั่วโมง)
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีพื้นฐานการขับรถยนต์ ต้องการเข้ารับการอบรมและสอบ เพื่อขอรับใบขับขี่ชนิดชั่วคราวอายุ 1 ปี โดยหลักสูตรการอบรมจะเป็นไปตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก และเพิ่มเติมทักษะด้านการขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมที่ผ่านการทดสอบทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ จะได้รับหนังสือรับรองฯ เพื่อนำไปยื่นขอรับใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดได้ทั่วประเทศ
รายละเอียดของหลักสูตรหลักสูตรการสอนขับรถยนต์เพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
อบรมภาคทฤษฎี 8 ชั่วโมง
1. ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร
2 ชั่วโมง
2. การเตรียมความพร้อมก่อนขับรถยนต์ เทคนิคการขับขี่ปลอดภัย การคาดการณ์อุบัติเหตุ และข้อควรปฎิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
2 ชั่วโมง
3. ความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษารถยนต์
1 ชั่วโมง
4. ทักษะด้านการขับขี่ปลอดภัย ประหยัด และรักษาสิ่งแวดล้อม (Safe Eco Driving)
3 ชั่วโมง
หมายเหตุ (1) เป็นการอบรมเพิ่มเติมโดยใช้หลักสูตรขับขี่ปลอดภัยจากโตโยต้าฯ
อบรมภาคปฏิบัติ 13 ชั่วโมง
1. การฝึกหัดขับในสนาม 13 ท่ามาตรฐาน 7 ชั่วโมง
2. ฝึกหัดขับบนถนนจริง 3 ชั่วโมง
3. การจำลองจุดบอดรถยนต์ ข้อควรปฎิบัติก่อนการออกเดินทางและการจำลองสภาพร่างกายของผู้ร่วมใช้ถนน ได้แก่ เด็ก คนเมา และผู้สูงอายุ3 ชั่วโมง
หมายเหตุ (1) เป็นการอบรมเพิ่มเติมโดยใช้หลักสูตรขับขี่ปลอดภัยจากโตโยต้าฯ
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรม
1) บุคคลทั่วไปที่อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ และไม่เคยได้รับใบขับขี่รถยนต์มาก่อน
2) ผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายเบื้องต้น ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
1) บัตรประชาชน (ตัวจริง)
2) ใบรับรองแพทย์ตามข้อกำหนดของทางกรมการขนส่งทางบก
ช่องทางการรับสมัคร
ติดต่อได้ที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า หมายเลขโทรศัพท์ 02-396-0888
2. หลักสูตรการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์
สำหรับผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ชั่วคราว เป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (5 ปี) จะต้องเข้ารับการอบรม และผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย จึงจะได้รับหนังสือรับรอง เพื่อขอรับใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
รายละเอียดของหลักสูตรการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์อบรมภาคทฤษฎี 2 ชั่วโมง
1.การขับรถอย่างปลอดภัย และคาดการณ์ความเสี่ยง 30 นาที
2.มารยาทในการขับรถ 30 นาที
3.10 เทคนิคในการขับแบบประหยัดพลังงาน
(โดยหลักสูตรขับขี่ปลอดภัยจากบริษัทฯ โตโยต้า) 1 ชั่วโมง
หมายเหตุ (1) เป็นการอบรมเพิ่มเติมโดยใช้หลักสูตรขับขี่ปลอดภัยจากโตโยต้าฯ
อบรมภาคปฏิบัติ 1 ชั่วโมง
โตโยต้าได้เสริมทักษะการขับขี่ปลอดภัยให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม โดยเพิ่มการอบรมภาคปฏิบัติเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ดังนี้
1 การเหยียบเบรกแบบเต็มกำลังในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง 15 นาที
2 การขับขี่แบบ Slalom และการขับในทางแคบ 30 นาที
3 การควบคุมรถยนต์บนถนนแรงเสียดทานต่ำ (VSC) 15 นาที
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรม
บุคคลทั่วไปที่มีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลหมดอายุภายใน 1 ปี
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
1) บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนา
2) ใบขับขี่เดิมที่หมดอายุ
ช่องทางการรับสมัคร
ติดต่อได้ที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า หมายเลขโทรศัพท์ 02-396-0888
3. หลักสูตรขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม (Safe Eco Driving) (8 ชั่วโมง)
เปิดสอนสำหรับบุคคลทั่วไปที่สามารถขับรถได้ และมีใบอนุญาตขับรถยนต์ แต่ต้องการเพิ่มทักษะการขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ในหลักสูตรประกอบด้วยการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
รายละเอียดของหลักสูตรขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม (Safe Eco Driving) อบรมภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง
1) การเตรียมความพร้อมก่อนขับรถยนต์ 30 นาที
2) การสร้างจิตสำนึกและเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย 1.30 ชั่วโมง
3) การคาดการณ์อุบัติเหตุ 2 ชั่วโมง
4) 10 เทคนิคการขับประหยัดน้ำมัน 30 นาที
5) ข้อควรปฎิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ 30 นาที
อบรมภาคทฤษฎี 3 ชั่วโมง
1) การเตรียมความพร้อมก่อนการขับขี่ ท่านั่ง การจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง และการตรวจสภาพรถก่อนการเดินทาง 30 นาที
2) จุดที่ควรระวังรอบรถยนต์ การจำลองสภาพร่างกายของผู้ร่วมใช้ถนน ได้แก่ เด็ก คนเมา และผู้สูงอายุ 30 นาที
3) การเหยียบเบรกแบบเต็มกำลังในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง การขับขี่แบบ Slalom การขับในทางแคบ และการควบคุมรถยนต์บนถนนแรงเสียดทานต่ำ (VSC) 2 ชั่วโมง
คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรมดังนี้
1) มีใบอนุญาตขับรถยนต์
อุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนของศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า
ส่วนที่ 1 ห้องอบรม และห้องสอบภาคทฤษฎี ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3
1. ห้องอบรมขนาด 53 ตารางเมตร รองรับผู้เข้าอบรมได้ 30 คน
2. ห้องทดสอบภาคทฤษฎี (E-Exam) รองรับผู้เข้าสอบได้ 10 คน
3. ห้องทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
ส่วนที่ 2 สนามฝึกหัดขับรถ และทดสอบ
1. สนามฝึกหัดขับ 13 ท่ามาตรฐาน
ส่วนที่ 3 รถยนต์สำหรับฝึกหัดขับ
เป็นรถยนต์ที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก ได้แก่ กระจกมองหลังสำหรับผู้ฝึกสอน มีกระจกมองข้างสำหรับผู้ฝึกสอน มีแป้นเบรกสำหรับผู้ฝึกสอน มีแผ่นป้าย “ฝึกหัดขับ”
กิจกรรมที่ 3 การร่วมมือในการให้ความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัยแก่ประชาชน ผ่านระบบถ่ายทอดสดกรมการขนส่งทางบก ช่อง LTSB Live (Land Transport Safety Bureau Live)
โครงการความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ในการถ่ายทอดความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัย การบำรุงรักษารถยนต์ และเทคโนโลยีของโตโยต้า โดยการสนับสนุนครูฝึก เพื่อร่วมเป็นวิทยากรในการบรรยาย ตลอดจนสื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์การขับขี่ปลอดภัย ผ่านระบบการถ่ายทอดสด LTSB Live (Land Transport Safety Bureau Live) ของสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก
• การร่วมมือกับคณะกรรมการแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร)
สนับสนุนการสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจากภายในสู่ภายนอก เพื่อสอดรับกับนโยบายภาครัฐ โดยการยกระดับด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ด้วยการสร้าง “สังคมคนขับรถดี” ซึ่งจะนำไปสู่การช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างแท้จริง ผ่านความร่วมมือกับคณะกรรมการแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด(สอจร.) และผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมมาตรการความปลอดภัยภายในองค์กร โดยผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ สู่ชุมชนภายนอก เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ผ่านโครงการต่างๆ ดังนี้
1. กำหนดนโยบายการขับขี่ยานพาหนะอย่างปลอดภัยภายในองค์กร
ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมมาตรการความปลอดภัยจากภายใน จึงส่งเสริมให้ทางผู้แทนจำหน่ายฯได้มีการกำหนดนโยบายการขับขี่ยานพาหนะอย่างปลอดภัย เพื่อให้พนักงานยึดถือและปฏิบัติสำหรับการขับขี่ยานพาหนะไว้อย่างเคร่งครัดทั้งในและนอกเวลาทำงาน ดังนี้
1. ปฏิบัติตามและเคารพกฎหมายจราจร, สัญญาณไฟจราจร, เครื่องหมายจราจร อย่างเคร่งครัด
2. ขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง รวมถึงการใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด
3. ไม่ขับขี่ยานพาหนะ เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต
4. คาดเข็มขัดนิรภัยในตำแหน่งผู้ขับขี่และทุกที่นั่งที่มีผู้โดยสาร
5. งดใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ เว้นแต่มีการใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา
6. สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์
7. ติดตั้งป้ายเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย / สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง ในบริเวณทางเข้า – ออกโชว์รูม
2. จัดอบรม “ ขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม” (Toyota Safe Eco Driving)
ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ในการขับขี่อย่างปลอดภัย ภายใต้หลักสูตร “ขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม” (Toyota Safe Eco Driving) ให้แก่ชุมชนและประชาชนทั่วประเทศ เพื่อร่วมสร้างวินัยและน้ำใจในการใช้รถใช้ถนน และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุพร้อมนำไปสู่การเกิด “สังคมคนขับรถดี” ต่อไป
3. รณรงค์ความปลอดภัยในเทศกาลสำคัญ
ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ร่วมกับหน่วยงานของกรมทางหลวงและกรมขนส่งทางบกในพื้นที่ สถานีตำรวจในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์อำนวยการโครงการฯ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่และช่วงสงกรานต์ โดยจะสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของผู้แทนจำหน่ายตรวจเช็คสภาพรถยนต์เบื้องต้น ให้ความรู้เรื่องการขับขี่ปลอดภัย พร้อมทั้งมีมุมสำหรับพักผ่อนชั่วคราวให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสำคัญ
4. ทำป้ายเตือนการใช้รถใช้ถนน เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ
ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ร่วมกับหน่วยงานพื้นที่ของกรมทางหลวงและกรมขนส่งทางบก และสถานีตำรวจในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ติดตั้งป้ายเตือนการใช้รถใช้ถนน ในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่อรณรงค์ประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังขณะขับขี่ในบริเวณจุดเสี่ยงทั่วประเทศ และให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น