นิสสันจัด “Let’s Move” กิจกรรมทดสอบขับ โน๊ต และอัลเมร่า
ที่ช่วยให้การขับขี่ในเมืองง่ายและตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น
กับการทดสอบขับในจังหวัดตรัง พร้อมสัมผัสระบบเครื่องเสียงใหม่ล่าสุด
นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดสอบขับ (เลทส์ มูฟ) “Let’s Move” เพื่อการทดสอบฟังก์ชั่นเครื่องเสียงแบบใหม่ล่าสุดที่มีในนิสสัน โน๊ต และอัลเมร่า ที่จะช่วยให้การขับขี่บนท้องถนนในเมืองสะดวกขึ้นทุกที่ทุกเวลา ณ จังหวัดตรัง
“ระบบเครื่องเสียงใหม่นี้เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าชาวไทยเมื่อนึกถึงรถยนต์ซีตีคาร์ ก็จะนึกถึงนิสสันเป็นอันดับแรกๆ” “โน๊ต และอัลเมร่าถือเป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดของนิสสัน โดดเด่นทั้งในเรื่องประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ในเมือง นิสสันเชื่อว่าระบบเครื่องเสียงใหม่ล่าสุดจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและตอบสนองต่อลูกค้าชาวไทยที่ชื่นชอบต่อแบรนด์นิสสัน
กิจกรรมทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบขับทั้งแบบไดนามิก และให้สื่อมวลชนได้สัมผัสเทคโนโลยีอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยภายใต้แนวคิดของนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility – NIM) อาทิ Intelligent Around View Monitor (i-AVM) กล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD) กระจกมองหลังแสดงผล Rear-View Mirror Monitoring และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning – LDW) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Forward Emergency Braking – FEB) ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ มีความเหมาะอย่างยิ่งในการใช้ขับขี่บนถนนที่เล็กและที่จอดรถที่ค่อนข้างจำกัดของจังหวัดตรัง
มีพื้นที่การใช้สอยภายในที่กว้างขวางให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน และโดดเด่นด้วยนวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ในเมืองลดการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ
“จังหวัดตรังถูกเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการทดสอบขับในครั้งนี้ เนื่องจากมีความสวยงามจากธรรมชาติ และความเป็นเมืองรองที่กำลังถูกน่าสนใจรวมถึงมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ตรังยังเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการดำน้ำชมแนวปะการัง มีทั้งแนวชายหาดที่สวยงามและน้ำตกที่เก่าแก่ และยังเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ในการขับรถออกไปรับประทานอาหารเช้าแบบชาวตรังที่ไม่เหมือนใคร”
ระบบเครื่องเสียงใหม่ของนิสสันถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ เทคโนโลยีของการเชื่อมต่อภายใต้ Intelligent Integration เพื่อให้คนและรถอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ระบบเครื่องเสียงแบบใหม่นี้ มีหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งระบบ iOS และ Android ทั้งยังมีการเชื่อมต่อแบบแฮนด์ฟรีที่เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น ควบคุมการโทรออก รับส่งข้อความ เล่นเพลง วีดีโอ และมาพร้อมแอพพลิเคชันระบบนำทางอีกด้วย เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างระบบเครื่องเสียงกับสมาร์ทโฟน เพื่อโทรออก เล่นเพลงโปรด และรับความช่วยเหลือในการนำทางได้ ซึ่งคุณลักษณะใหม่ ๆ เหล่านี้ช่วยสร้างประสบการณ์ในการขับขี่ที่สนุกสนานและอิสระมากยิ่งขึ้น
