ไม่มีหมวดหมู่

Ford Mustang ม้าป่าโจนทะยานข้ามน้ำข้ามทะเลจากแดนลุงแซมสู่ผืนแผ่นดินไทยแล้ว

การมาเมืองไทยในครั้งนี้ เจ้าม้าป่าพยศมาด้วยกัน 2 รุ่นให้เลือก นำทีมโดยพี่ใหญ่อย่าง 5.0L V8 GT Coupe Performance ตามด้วยน้องเล็กอย่าง 2.3L EcoBoost Coupe Performance กับหุ่นทรงที่ผ่านการออกแบบให้ดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น ดูโดดเด่นไปกับไฟ LED ที่สว่างและคมชัด สีภายนอกสีใหม่และล้ออัลลอย รวมไปถึงเพิ่มความหรูหราภายในห้องโดยสารด้วยอะลูมิเนียมและวัสดุตกแต่งที่ให้สัมผัสนุ่มมือ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย และชุดท่อไอเสีย New Active Valve Performance Exhaust ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่

รูปลักษณ์ภายนอกของฟอร์ด มัสแตงนั้นปราดเปรียวและโฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเดิม โดยยังคงเอกลักษณ์ที่เป็นที่จดจำตลอด 50 ปีที่ผ่านมาไว้อย่างครบถ้วน ฝากระโปรงหน้าได้รับการปรับให้แบนราบลงพร้อมช่องระบายอากาศในตัวและดีไซน์กระจังหน้าที่ต่ำลง ส่งผลให้ฟอร์ด มัสแตง ใหม่ ดูดุดัน โฉบเฉี่ยว และยังเหมาะกับการขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์มากยิ่งขึ้น

วิศวกรของฟอร์ดยังปรับลดความสูงของช่วงหน้าและเพิ่มขนาดของสปลิตเตอร์หรือลิ้นหน้า เพื่อเพิ่มแรงกดในช่วงหน้าของตัวรถให้สามารถยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น แผงกันชนด้านหลังล้อหน้ายังช่วยให้อากาศไหลผ่านใต้ตัวรถได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดแรงต้านได้มากถึง 3 เปอร์เซ็นต์
กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์แบบใหม่ช่วยเพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้กับด้านท้ายของฟอร์ด มัสแตง ในขณะที่ท่อไอเสีย 4 ท่อพร้อมรองรับความแรงของเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตรและมีสปอยเลอร์เป็นมาตรฐานในรุ่น GT

ไฟหน้าเดย์ไลท์ ไฟเลี้ยวและไฟท้าย 3 แถวอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด มัสแตง ทุกคัน จะมาพร้อมเทคโนโลยีไฟ LED ในขณะที่ฝาไฟหน้าได้รับการออกแบบใหม่เพื่อสอดรับกับทรงสี่เหลี่ยมคางหมูของกระจังหน้าชิ้นบน
ฟอร์ด มัสแตง รุ่น GT และ EcoBoost มาพร้อมชุดแต่ง Performance Pack ที่ให้เฟืองท้ายแบบ Limited-Slip ให้การขับขี่ในโค้งสนุกสนานขึ้น ล้ออัลลอยสีดำขนาด 19 นิ้วในทั้งสองรุ่น รวมถึงระบบเบรค Brembo ในรุ่น  GT และฟีเจอร์เสริมอีกมากมายที่เข้ากับเอกลักษณ์ในการขับขี่ที่สนุกสนานและยังคงตำนานอันโดดเด่นกว่า 50 ปี ในแบบฉบับของฟอร์ด มัสแตง ได้เป็นอย่างดี


ภายในห้องโดยสารของฟอร์ด มัสแตง ได้รับการออกแบบให้มีความหรูหราสะดวกสบายกว่าเดิมด้วยวัสดุตกแต่งผิวสัมผัสนุ่มตลอดแนวประตู พร้อมมือจับประตูอะลูมิเนี่ยม หน้าปัดเป็นแบบดิจิตอล 12 นิ้ว ที่มองเห็นได้ชัดเจนและเข้าใจง่าย และให้คนขับสามารถเลือกแผงหน้าปัดได้ตามต้องการ รวมไปถึงการอ้างอิงตามโหมดการขับขี่ มุมมองและลักษณะจะเปลี่ยนไปตามโหมดการขับขี่ ข้อมูลตามความต้องการบนหน้าจอกลางของรถ ที่สามารถเลือกปรับรูปแบบหน้าปัดได้ตามต้องการถึง 3 รูปแบบ Normal/Sport/Track รวมไปถึงเลือกเปลี่ยนสีของหน้าจอได้อย่างอิสระ

เมื่อปลดล็อคประตู ปุ่มสตาร์ทรถจะกระพริบไฟสีแดงทันทีจนกว่าจะสตาร์ทรถ โดยจะกระพริบด้วยความเร็ว 30 ครั้งต่อนาที เท่ากับอัตราการเต้นของหัวใจของม้าป่ามัสแตงขณะพัก


สมรรถนะที่น่าตื่นตาและประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจ คือ ดีเอ็นเอของฟอร์ด มัสแตง ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยที่เปิดตัวมัสแตงรุ่นแรกในปี 2507 ทั้งขุมพลังใหม่ แชสซีและเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ฟอร์ด มัสแตง ใหม่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เพลิดเพลินที่สุดเท่าที่เคยมีมา


เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ของฟอร์ดได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเพื่อมอบพลังที่มากกว่าและรอบเครื่อง red line ที่สูงกว่าที่เคยมีมา ด้วยระบบหัวฉีดสองระบบ (Dual-Fuel) ที่ผสานระบบไดเร็คอินเจคชั่นแรงดันสูง (High-Pressure Direct Injection) และระบบฉีดเชื้อเพลิงที่ท่อแบบแรงดันต่ำ (Low-Pressure Port Fuel Injection)  โดยที่หัวฉีดที่ 1 ทำหน้าที่จ่่ายน้ำมันผ่านทางเดินไอดี (Port Injection) ส่วนหัวฉีดที่ 2 ทำหน้าที่จ่ายตรงที่ห้องเผาไหม้ (Direct Injection) ในรอบต่ำจะเน้นที่หัวฉีดที่ 1 เพื่อการทำงานที่ราบรื่น เงียบและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่รอบสูง เน้นการทำงานของหัวฉีดที่ 2 เพื่อเพิ่มอัตราเร่งสูงสุด ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยมีวาล์วแปรผันอิสระที่ควบคุมทั้งไอดีและไอเสีย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแปรผันเพลาลูกเบี้ยวคู่ (Ti-VCT) ตัวเครื่องยนต์มีน้ำหนักเบาด้วยเสื้อสูบอะลูมิเนียม ฝาสูบทำจากอะลูมิเนียมเช่นกัน จึงมอบพลังสูงสุดถึง 460 แรงม้า และแรงบิด 556 นิวตันเมตร อีกทั้งยังเพิ่มแรงบิดในช่วงรอบเครื่องต่ำ เมื่อผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดของฟอร์ด ยังสามารถมอบประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้สูงถึง7.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 297  กรัม/กิโลเมตร

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องยนต์อีโค่บูสต์ขนาด 2.3 ลิตร โดยที่เทอร์โบชาร์จเป็นแบบทางเดินไอเสีย 2 ทาง ภายในเทอร์โบลูกเดียว แต่แยกทางเดินไอเสีย 2 ทาง จาก 2 ลูกสูบ ที่กำหนดทิศทางการนำไอเสียเข้าไปปั่นใบพัดได้อย่างมีระเบียบขึ้น รวมถึงการเพิ่มความเร็วของไอเสียที่จะไปปั่นใบพัด ช่วยให้เทอร์โบทำงานได้ดีตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้สามารถผลิตแรงดันไอเสียได้รวดเร็วกว่าเทอร์โบชาร์จทั่วไป เสื้อสูบและฝาสูบเป็นแบบอะลูมิเนียมเช่นกัน ซึ่งเมื่อใช้งานคู่กับเกียร์ อัตโนมัติ 10 สปีด จะมอบขุมพลัง 300 แรงม้า และแรงบิด 440 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันได้ 10.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 217 กรัม/กิโลเมตร นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น Overboost ยังช่วยเพิ่มแรงดันอากาศจากเทอร์โบทุกครั้งที่เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ได้สนุกสนานกับเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้รวดเร็วดั่งใจในทุกการเร่งเครื่อง


ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ผ่านการทดสอบมากกว่า 6 ล้านกิโลเมตร สามารถมอบประสิทธิภาพการใช้น้ำมันที่เหนือกว่าด้วยแรงเสียดทานต่ำ ผู้ขับขี่ยังสามารถสนุกสนานกับการเร่งเครื่องที่รวดเร็วกว่าเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งประกอบด้วยคุณลักษณะที่สำคัญอย่าง ทอร์กคอนเวอร์เตอร์ และคลัตช์ที่เป็นแบบ One-way ความเร็วสูง รวมไปถึงระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์มาพร้อมกับโปรแกรมที่เรียนรู้รูปแบบการขบขี่ พร้อมเกียร์ Overdrive 3 เกียร์ กับโหมดสปอร์ต และปุ่มแพดเดิ้ลชิฟท์ที่พวงมาลัย


ระบบควบคุมอิเล็คทรอนิคของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดช่วยให้สามารถปรับแต่งเครื่องตามโหมดการขับขี่ต่างๆ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบเรียลไทม์ช่วยให้สามารถปรับเกียร์ตามสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการขับชมวิวริมทะเล หรือการขับรถในสนามแข่ง และมีแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยแพดเดิ้ลชิฟท์ช่วยให้ผู้ขับขี่ควมคุมรถได้ทุกจังหวะ
“โดยปกติอัตราเร่งที่ช้าลงเพราะมันจะเสียเวลาไปกับการเปลี่ยนเกียร์” มร.แมธเธียส ทอนน์ หัวหน้าวิศวกร มัสแตง ฟอร์ด ยุโรป กล่าว“ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ใหม่ ของมัสแตงช่วยให้เครื่องยนต์มอบพลังและแรงบิดสูงสุดแม้ในตอนเปลี่ยนเกียร์ เพื่อการเร่งเครื่องที่รวดเร็วกว่าและการขับขี่อย่างนุ่มนวลไม่ติดขัด”


ระบบ Electronic Line Lock ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเบิร์นยางคู่หลังได้อย่างง่ายดายและพร้อมกับการแข่งทางตรง (drag strip) ซึ่งระบบนี้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้งในรุ่น 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack และรุ่น 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack กับเทคโนโลยี Track App ที่มีทั้ง Acceleration Timer ซึ่งเป็นโหมดจับเวลาตามระยะทางที่กำหนด โดยใช้สัญลักษณ์ไฟแบบเดียวกับในสนามแข่ง Drag รวมไปถึง Brake Performance ที่มีรายการแสดงระยะเวลาในการเบรกตามความเร็วที่กำหนด และLine L0ck ซึ่งระบบนี้จะทำงานโดยการเบรกล้อหน้าให้ในขณะผู้ขับขี่เหยียบคันเร่ง เพื่อให้ล้อหลังหมุนฟรี เกิดการเบิร์นยาง เพิ่มอุณหภูมิยางใช้ในการออกตัวเท่านั้น และLap Timer ที่ผู้ขับขี่สามารถจับเวลาการวิ่งในแต่ละรอบได้สูงสุด 3 สนามและ 100 รอบการวิ่ง


วิศวกรของฟอร์ดได้ทำการพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ของฟอร์ด มัสแตงไปอีกขั้น เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา โช้คอัพที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นคงในขณะที่ช่วงล่างได้รับการออกแบบให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยข้อต่อแบบ Cross-Axis ช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นในการเข้าโค้งที่สามารถนำไปสู่การบิดของตัวถังได้ เหล็กกันโคลงที่หนาขึ้นยังช่วยลดอาการโคลง (body-roll) และช่วยให้ควบคุมรถได้เฉียบคมยิ่งขึ้น


ฟอร์ด มัสแตง มาพร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ 2 โหมดเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับการควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว การตอบสนองของคันเร่ง รูปแบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ พวงมาลัยและการทำงานโหมดปรับระดับความดังของชุดท่อไอเสีย Active Valve Performance Exhaust ให้เหมาะกับการขับขี่แบบต่างๆ โดยมี 2 โหมดใหม่ นอกจากโหมดปกติ (Normal) โหมดสปอร์ต (Sport) โหมดแทร็ค (Track) และโหมดหิมะ/พื้นเปียก (Snow/Wet) คือ:
 โหมดแข่งทางตรง (Drag Strip) เพื่อประสิทธิภาพอัตราเร่งสูงสุดและการแข่งขันแบบควอเตอร์ไมล์ในสนามแข่ง
 โหมด My Mode ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกตั้งค่าสมรรถนะการขับขี่และเสียงท่อไอเสียได้ตามต้องการ

เทคโนโลยีปรับระดับความดังท่อไอเสีย Active Valve Performance Exhaust ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับความดังเสียงของท่อไอเสียได้ตามความต้องการเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ยังมี Quiet Mode โหมดที่เป็นมิตรต่อเพื่อนบ้านสามารถตั้งค่าให้ท่อไอเสียเงียบได้ในแต่ละช่วงเวลา เพื่อลดการรบกวนเพื่อนบ้านหรือผู้คนในชุมชนโดยเฉพาะตอนที่สตาร์ทเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตรอันทรงพลังในตอนเช้าตรู่

ระบบช่วงล่างหลังผ่านการขับขี่ในแทรคต้องยอมรับว่าให้ความเสถียรทั้งทางตรง ทางโค้ง ความหนึบแน่น โดยที่ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมลูกหมากคู่ ช่วยให้การควบคุมรถที่แม่นยำในความเร็วสูงและคล่องตัวในความเร็วต่ำ ข้อต่อลูกหมากคู่ที่ผ่านการติดตั้งให้ต่ำลง ทำให้ในขณะเบรกด้วยความรุนแรง องศาของล้อจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงการเสริมด้วยเหล็กกันโคลงหน้าเพื่อป้องกันการโคลงและเสียการทรงตัว ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังอิสระแบบ อินทิกรัลลิงค์พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ปีกนำตัวล่างทำจากอะลูมิเนียมที่เป็นแบบ H-arm ยึดด้วยลิ้งค์แนวตั้ง ลิ้งค์มุมแคมเบอร์ด้านบน และลิงค์มุมโทด้านล่าง สปริง โช้คอัพ และบุ๊ชรับแรงต่างๆ ได้รับการออกแบบและปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ในขณะที่ชุดดุมล้อ Knuckle หลังเป็นแบบอะลูมิเนียมช่วยลดน้ำหนัก

เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายมีมาให้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความรุนแรง และในบางกรณียังสามารถลดอัตราการชนยานพาหนะหรือคนเดินถนนจากด้านหน้ารถได้ ถุงลมนิรภัย 8 จุดประกอบด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย ถุงลมนิรภัยที่ห้วเข่าคนขับ และถุงลมนิรภัยที่หัวเข่าฝั่งผู้โดยสาร
ฟอร์ด มัสแตง ใหม่มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) และระบบแจ้งเตือนระยะห่าง (Distance Alert) เป็นครั้งแรก ช่วยรักษาระยะห่างที่เหมาะสมจากรถคันหน้า นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อีกมากมาย เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง และแจ้งเตือนเมื่อออกนอกช่องทาง ซึ่งทำการเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเส้นทางโดยไม่ตั้งใจและช่วยหักพวงมาลัยเล็กน้อยเพื่อนำรถกลับเข้าสู่ช่องทาง (Lane Keeping System)


แผงหน้าปัดแสดงผลดิจิตอล LCD ขนาด 12 นิ้ว จะแสดงข้อมูลที่เหมาะสมกับโหมดขับขี่แต่ละโหมด คล้ายกับที่มีในรถซุปเปอร์คาร์ อย่างรถฟอร์ด จีที เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในทุกการขับขี่โดยการแสดงผลจะเปลี่ยนตามโหมดขับขี่โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้เมื่อใช้งานฟีเจอร์ Electronic Line Lock ผู้ขับขี่ยังจะเห็นแอนนิเมชั่นแบบวิดีโอเกมเป็นครั้งแรกบนหน้าจอ 12 นิ้วอีกด้วย
ฟอร์ด มัสแตง ใหม่ มาพร้อมระบบสื่อสารและความบันเทิงภายใน SYNC 3 ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมสมาร์ทโฟน ระบบเสียง ระบบนำทางและระบบปรับอากาศด้วยการสั่งงานด้วยเสียงและการสั่งงานด้วยการสัมผัสบนหน้าจอทัชสกรีนกลางขนาด 8 นิ้ว โดยระบบ SYNC 3รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto™

ฟอร์ด มัสแตง ที่จำหน่ายในประเทศไทย มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีส้มออเรนจ์ ฟิวรี่ เมทัลลิค ไตร-โค้ท (Orange Fury Metallic Tri-Coat) สีดำชาโดว์ แบล็ค เมทัลลิค (Shadow Black Metallic) สีแดง เรซ เรด(Race Red) และ สีเทา แมคเนติค เมทัลลิค (Magnetic Metallic)
ราคาจำหน่ายช่วงเปิดตัว สำหรับฟอร์ด มัสแตง ทั้งสองรุ่น
 ฟอร์ด มัสแตง 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack ราคา 4,799,000 บาท
 ฟอร์ด มัสแตง 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack ราคา 3,599,000 บาท
ฟอร์ด มัสแตงพร้อมให้ลูกค้าจองแล้ว ณ ผู้จำหน่ายฟอร์ด มัสแตงอย่างเป็นทางการ 19 แห่ง ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด


นอกจากนี้ ลูกค้าฟอร์ด มัสแตง ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ด้วยแพ็กเก็จ ฟอร์ดพรีเมี่ยม แคร์ ที่มาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถนานสูงสุดถึง 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมบริการฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่ในการตรวจเช็คตามระยะ 5 ครั้ง ยาวนานถึง 60 เดือน หรือ 75,000 กิโลเมตร อีกทั้งบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้จำหน่ายฟอร์ด มัสแตง อย่างเป็นทางการ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เบอร์ ฟอร์ด คอลเซ็นเตอร์ โทร 0-2686-5899 (กรุงเทพฯ) และต่างจังหวัดโทรฟรีที่ 1-800-225-449 หรือบนเว็บไซต์ www.ford.co.th

Most Popular

To Top