รีวิวรถ

NEW MG ZS รถอเนกประสงค์ที่ให้คุณจับต้องได้ในราคาเบาๆ

หากคุณมีงบประมาณสำหรับการมองหารถยนต์เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือเพื่อตอบสนองชีวิตไลฟ์สไตล์ในแบบที่คุณชื่นชอบ ในวงเงินประมาณ 7แสนกว่าบาท รถยนต์อีโคคาร์ รถ B Segment รถซีดานไซส์คอมแพคคาร์ อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ แต่ถ้ามีรถยนต์ประเภท SUV ที่มีราคาเดียวกันเป็นทางเลือก คุณอาจจะต้องหันมาให้ความสนใจกับ MG ZS คันนี้

NEW MG ZS มาพร้อมนิยามใหม่ของรถสมาร์ทคาร์เพื่อชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด บริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่ให้ความทันสมัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น นอกจากการติดตั้งระบบอัจฉริยะ i-SMART สามารถรองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกในโลก ภายในห้องโดยสารยังเพียบพร้อมความสะดวกสบาย กว้างขวาง และพรีเมียม พร้อมระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System 9 ระบบ ที่ครบครันยิ่งกว่า 

 

MG ZS ออกแบบด้วยแนวคิด บริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มุ่งเน้น 3 คอนเซ็ปต์หลัก คือความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Exclusive) ความเร้าอารมณ์ (Emotional) และความคล่องตัวปราดเปรียว (Agile) และด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ คุณจะพบได้กับความสง่างามลงตัว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ดูหรูหรา ทันสมัย ที่คงเอกลักษณ์ของความเป็น เอ็มจี ให้ความโฉบเฉี่ยวไปกับโคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ รวมไปถึงไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันหรือเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ (Daytime Running Lights) ในขณะที่ไฟท้ายเป็นแบบแอลอีดี ทิวบ์ (LED TUBE) ไฟเบรกดวงที่สามแบบแอลอีดี ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง (ยกเว้นรุ่น C ที่มีเฉพาะไฟตัดหมอกหลัง)

ให้ความสะดวกสบายไปกับอุปกรณ์มาตรฐาน และความทันสมัยไปกับ หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา โปร่งสบายยิ่งกว่าด้วยพื้นที่ของซันรูฟที่มีขนาด 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่หลังคาทั้งหมด (เฉพาะรุ่น X)   กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต ราวหลังคา (ยกเว้นรุ่น C) ที่เปิดประตูท้ายสไตล์สปอร์ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น X) ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าและหลัง ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะรุ่น X)

ด้วยความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีขนาดกระทัดรัด ความยาวของตัวรถยาว 4,314 มม. กว้าง 1,809 มม. และสูง 1,624 มม. ในขณะที่ระยะฐานล้อยาว  2,585 มม. โดยที่ระยะฐานล้อคู่หน้า 1,526 มม. และระยะฐานล้อคู่หลัง 1,534 มม. ทำให้ MG ZS เป็นรถที่ให้ความเสถียรในการทรงตัวที่ดี

 ในเรื่องของการออกแบบภายในนั้น มีการตกแต่งด้วยสีแบบทูโทน สะท้อนความหรูหราและความสปอร์ตสไตล์รถยุโรปขนานแท้ มีการเลือกใช้วัสดุเน้นผิวสัมผัสนุ่มนวล เพิ่มภาพลักษณ์ความสง่างาม เบาะคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพับแยกส่วนได้ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับระดับ 2 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วพร้อมลำโพง 6 ตัว (รุ่น C  มีลำโพง 4 ตัว) ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ ช่องเชื่อมต่อยูเอสบี ช่วยให้คุณเดินทางไกลแบบไม่เมื่อยล้าด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูส คอนโทรล (เฉพาะรุ่น X) รวมถึงการวางแผนการเดินทางด้วยข้อมูลจากหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล (ยกเว้นรุ่น C) ช่องแอร์ออกแบบสไตล์เจ็ท เทอร์ไบน์ กุญแจรีโมท ปุ่มสตาร์ทอัจฉริยะ (ยกเว้นรุ่น C) ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ และไฟส่องแผ่นที่

 

สำหรับคนที่ชอบการเดินทางแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ และใช้งานในเมืองเป็นหลัก MG ZS มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECHระบบจ่ายน้ำมันเป็นแบบหัวฉีดมัลติพอยท์ ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,498 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก (มม.) 75 x 84.8 อัตราส่วนกำลังอัด 11.5:1 ให้พละกำลังสูงสุด 114 แรงม้า (84 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode แน่นอนว่าหากจะถามหาอัตราเร่งที่จะตอบสนองได้อย่างทันใจนั้น อาจต้องทำใจกันบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ต้องพะวงมากนักเมื่อต้องมีการเร่งแซง ระบบพวงมาลัยเป็นแบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า พร้อมโหมดการปรับน้ำหนักของพวงมาลัย ให้ความคล่องตัวและความแม่นยำในการบังคับควบคุม รวมไปถึงรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดที่ 5.6 เมตร ในเส้นทางตรงๆ ยาวๆ การยึดเกาะถนนทำได้ดีรวมไปถึงการทรงตัว แต่ในทางโค้งอาจจะมีการโยนตัวของตัวรถบ้างเล็กน้อย กับช่วงล่างด้านหน้าที่เป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม 

 

 

ในเรื่องของระบบความปลอดภัยนั้น MG ZS ต้องบอกว่าจัดมาให้เต็มที่ เริ่มตั้งแต่การใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) พร้อมถุงลม 6 จุด คู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยแบบ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM รวม 9 ฟังก์ชั่น ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว เบรก ABS – Anti-lock Braking System  ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ระบบช่วยกระจายแรงเบรกEBD – Electronic Brake Force Distribution ระบบเสริมแรงเบรก EBA (Electronic Brake Assist) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS – Traction Control System  ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง  CBC – Curve Brake Control ระบบควบคุมการทรงตัว  SCS – Stability Control System ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS – Hill Start Assist System  มีระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (เฉพาะรุ่น X) TPMS – Tire Pressure Monitor System  ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน Emergency Stop Signal ไฟส่องสว่างนำทางหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home Light  จุดยึดเบาะที่นั่งเด็ก ISOFIX  เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ เข็ดขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง พวงมาลัยยุบตัวเมื่อเกิดการชน กล้องมองหลัง สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย

จุดขายของ MG ZS คงหนีไม่พ้นเรื่องของระบบสั่งการอัจฉริยะ i-Smart รองรับการสั่งการภาษาไทยครั้งแรกในโลก และสามารถเรียนรู้พฤติกรรมผู้ขับ มุ่งหน้าสู่ความเป็นผู้นำการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์อัจฉริยะหรือสมาร์ทคาร์ เพื่อยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัย พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคไอที  ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบการสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) เพียงแค่พูด “ฮัลโหล เอ็มจี” (Hello MG) เพื่อเริ่มต้นใช้งานซึ่งสามารถสั่งการฟังก์ชั่นต่างๆในตัวรถ รวมถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และระบบช่วยนำทางทำให้ผู้ขับขี่สะดวกสบายในการใช้งานและไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมสั่งการผ่านหน้าจอภายในรถ และการสั่งการผ่านโมบายแอปพลิเคชั่นในอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

 ทั้งนี้ระบบ i-Smart ใน NEW MG ZS (ยกเว้นรุ่น C) มีฟังก์ชั่นเด่นที่ช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งให้ข้อมูลรถยนต์เพื่อ    ผ่านช่องทางการสั่งการ 3 ทาง คือ

1. ระบบสั่งการด้วยเสียง (Thai Voice Command) ผู้ขับขี่สามารถสั่งการระบบซันรูฟ / ระบบเครื่องเสียง / ระบบปรับอากาศ / โทรออกและรับสาย / ระบบนำทาง2. ระบบสั่งการผ่านหน้าจอทัชสกรีน ( i-Smart on  Touchscreen) รองรับการใช้งานระบบนำทางเนวิเกชั่น  พร้อมระบบตรวจสอบการจราจรแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังมีระบบที่สามารถแนะนำร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง ระบบเลขาส่วนตัว     i-Call ระบบโทรออก-รับสายในกรณีฉุกเฉิน

3. ระบบสั่งการด้วยมือถือ (i-Smart Mobile Application) ผู้ใช้งานสามารถสั่งการหลายฟังก์ชั่นภายในรถยนต์ผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกสบาย ได้แก่ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ และเปิดระบบปรับอากาศอัจฉริยะ ระบบล็อก และปลดล็อกประตู ระบบวางแผนการเดินทาง ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ และระบบค้นหารถ Find my car รวมถึงระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ และเตือนความผิดปกติของรถยนต์

สีตัวถังมีทั้งหมด 5 สี คือ สีแดง Scarlet Red สีฟ้า Marina Blue สีดำ Black Knight สีขาว Arctic White  และสีเงิน Silver Metallic (รุ่น C จะมีเฉพาะสีขาว Arctic White และสีเงิน Silver Metallic)

 

Most Popular

To Top