การออกเดินทางในครั้งนี้พวกเรามีความตั้งใจว่า
“พวกเราจะพิซิตภูกระดึง” เชื่อว่าหลายคน
คงได้ฟังคนอื่น ๆ พูดถึงความประทับของที่นี่
อยู่บ่อยครั้งเราเองก็เคยได้ยินเช่นกัน
ก็แปลกใจนะแค่การเดินขึ้นเขา นั้นมีอะไร
ให้ใครหลายๆคนประทับใจ และอยากที่
จะไปที่นี่กันนักหนา และนี้คือสาเหตุ
ที่พวกเราอยากจะไปพิชิตภูกระดึงซักครั้ง
พวกเราวางแผนกันไว้ว่าครั้งนี้เราจะไปกัน
ทั้งหมด 3 วัน 2 คืน เวลาน่าจะกำลังดี
ที่จะให้พวกเราได้พบ ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ พอสมควร
ครั้งนี้เราเดินทางด้วยรถ Toyota Ch-r
ออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน
ก็ขับกันไปเรื่อย ๆ แวะพักรถกันบ้าง โดยถึงที่
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ตอนประมาณ 7 โมงเช้า เราก็ทำเรื่องจองเต็นท์
จองบ้านพัก มาถึงอันดับแรกเลยมาจองเต็นท์
กันก่อนนะเพื่อน ๆ อย่าพึ่งเดินขึ้นกันนะ
พอได้ที่พักแล้วก็เดินไปตรงจุดชั่งน้ำหนัก
เพื่อจ้างลูกหาบกันต่อค่าลูกหาบก็ 30 บาท/ กิโลกรัม
หรือถ้าใครเก่งกล้าสามารถที่จะแบกขึ้นไปเอง
ก็ไม่ต้องมาชั่งน้ำหนักเด้อ
พร้อมแล้วไปกันเลยดีกว่า อย่าลืมไปหยิบไม้วิเศษ
กันด้วยละ มันช่วยเราได้จริง ๆ นะเวลาเดินขึ้นเขา
ทีแรกเราก็จะไม่เอาเหมือนกัน แต่คิดว่าถ้าขึ้นไปแล้ว
ไม่มี แล้วมันช่วยได้จะทำอย่างไงดี ก็เลยเอาติดตัวมาก่อน
คนพร้อม ตัวช่วยพร้อม ไปกันเลยจ้า ภาพตัดมาไม่กี่นาที
ขอนั่งหอบก่อนละกัน แกรมันเหนื่อยจริง ๆ เว้ย
เดินได้แปบเดียวจริง ๆ 55555555555 กว่าจะถึง
แต่ละซำ อย่างซำแฮกไม่รู้หลอกนะว่าแปลว่าอะไร
แต่แบบวัดใจกันตั้งแต่ซำแรกเลยจ้า เดินต่อเรื่อย ๆ
ทำไมยิ่งเดินเหมือนยิ่งไกล คือตอนกำลังเดินขึ้น
ภูกระดึงนะ อยู่เพลง ไกลแค่ไหน คือ ใกล้
ของ Getsunova ดังอยู่ในหัวตลอดเวลา
โดยเฉพาะท่อนนี้ “แต่ทำไม เดินมาเนิ่นนานไม่ถึงซักที
แต่ทำไม มองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป อยากรู้ว่าฉัน
ต้องทำตัวอย่างไร” เดินบ้าง พักบ้าง เดินมาเรื่อย ๆ
จนถึง ซำแคร่ เพื่อจะเดินขึ้นไปหลังแป
แกรรร มันยิ่งกว่าซำไหน ๆ เลย ทั้งทางล่าชัน
ทั้งปีนป่าย ต้องแข่งกับเวลาอีกเพราะเราเริ่มเดินกัน 9 โมง
มาถึงซำแคร่ก็เกือบ ๆ 4 โมง แต่ด้วยความที่อยู่ในป่า
มันก็จะดูมืด ๆ หน่อย แต่ไม่ต้องกลัวนะว่ามาคนเดียว
แล้วจะเดินขึ้นคนเดียวไม่ได้ เพราะระหว่างทาง
ที่เราขึ้นไปเราจะพบเจอกับเพื่อน ๆ มากหมายที่มีจุดมุ่งมาย
เดียวกับเรา หรือลูกหาบที่เดินเปิดเพลงกันลั่นป่า
เดินขึ้นลงสลับกันไปมาตลอดระยะเส้นทาง
ก็ได้เปลี่ยนฟิลการเดินเดินป่าไปอีกแบบ
และแล้วพวกก็เดินกันจนมาถึงแล้ว
ป้าย ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง
เอาหละ! มาถึงจุดนี้แล้วไม่ถ่ายรูปก็จะแปลกไปเนอะ
เอาหน่อยละกัน มาถึงหลังแปแล้วอย่าพึ่งดีใจไปทุกคน
เราจะต้องเดินเท้าต่ออีก 3500 เมตร เพื่อไปที่
ศูนย์บริการวังกวาง แต่จากตรงนี้เดินสบาย ๆ ละ
ไม่ต้องปีนปาย เมื่อถึงศูนย์บริการวังกวาง
เราก็จะต้องไปติดต่อเช่า ผ้าปูรองนอน หมอน
และก็ถุงนอนกันก่อนนะจ้ะ หรือถ้าใครแบกขึ้นมาครบก็ไม่ต้อง
ไปแค่ติดต่อเรื่องเต็นท์กับที่พักพอ ขึ้นมาบนนี้เรื่องอาหารการกิน
ไม่ต้องห่วงเลย ของกินเยอะแยะมากมายเลือกไม่ถูกเลยแหละ
เช้าวันต่อมาเราออกเดินทางกันต่อเพื่อตามหา
ใบเมเปิ้ลสีแดงพวกเราเลือกไปกันที่น้ำตกถ้ำใหญ่
เพราะที่นี่มีต้นเมเปิ้ลเยอะ และชอบตรงที่น้ำตกถ้ำใหญ่
มีมอสขึ้นอยู่ตามโขดหิน เห็นจากในรูปนี้สวยมาก
พวกเราเลยเลือกเดินไปที่น้ำตกแห่งนี้ แต่ช่วงที่เราไป
ใบเมเปิ้ลยังไม่เริ่มแดงเราเลยได้แค่บางใบที่มันแดง
ไม่เป็นไรไปกันต่อดีกว่า เพื่อที่จะไปดูพระอาทิตย์ตก
ที่ผาหล่มสัก ตรงนี้เป็นจุดไฮไลท์เลยแหละ
เชื่อเลยว่าใครขึ้นมาแล้วจะต้องมาดูหระอาทิตย์ตก
ที่ผาหล่มสักให้ได้ ระหว่างที่เราเดินไปจนถึงผาหล่มสัก
เราก็จะผ่านผาต่าง ๆมากมาย ผาหมากดูก ผาจำศีล
ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง โดยแต่ละผา
ก็จะมีมความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป
จนมาถึงผาหล่มสัก ที่ผู้คนมากมายเดินทางมาเพื่อ
รอชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ สวยงามจริง ๆ การได้มาเห็น
ด้วยตาตัวเองกับตอนเห็นในรูปภาพ มันช่างแตกต่างกันจริง ๆ
……………………………………………………………………….
#เกาะล้อพาเที่ยว
#AutoVariety
#จังหวัดเลย
#ภูกระดึง
#เราคือผู้พิชิตภูกระดึง
#ชมพระอาทิตย์ตก
#toyotach-r
#KaranaTravelGear
#ThousandmileTV