รถกระบะสัญชาติ อเมริกัน เกิดมาลุย !!! Ford Ranger Raptor รถกระบะของคนแกร่ง รถกระบะเกรดพรีเมี่ยม
ที่ฮอตฮิตที่สุดในเมืองไทย จุดเด่นเป็นรถกระบะเดิมโรงงาน ที่ไม่เคยกลัวทุกสภาพการขับขี่ ไม่ว่าสภาพถนนจะเป็นอย่างไร raptor พร้อมลุย ด้วยช่วงล่าง FOX แบบจัดเต็มใน Ford Ranger Raptor
จุดเด่นของ raptor แน่นอนอยู่แล้วต้องเป็นเรื่องช่วงล่างแน่นอน เพิ่มสมรรถนะ
ด้วยระบบช่วงล่าง แบบ โช๊คอัพพร้อมคอยล์สปริง ทั้งด้าน หน้า-หลัง ระบบกันสะเทือน ด้านหลังเป็นแบบคอยล์โอเวอร์โช๊ค ซึ่งผลิตมาเฉพาะในตัว raptor เท่านั้น
ด้วยโช๊คอัพ FOX Racing Shox ขนาด 2.5 นิ้ว ลูกสูบขนาด 46.6 มิลลิเมตร
ทั้ง 4 ต้น หน้า-หลัง ถ้าหาซื้อแยกตามท้องตลาด อาจใช้เงินเพิ่มขึ้นถึง
150000-200000 เลยนะครับ ระบบ Position Sensitive Damping (PSD) ช่วยให้ระบบส่งกำลังทำงาน ขึ้น-ลง ได้อย่างอิสระ ทั้ง 4 ล้อ และยังเพิ่มความกว้างของฐานล้อ ให้กว่าขึ้นกว่า Ford Ranger รุ่นปกติ ทำให้ raptor เพิ่มสมรรถนะมากขึ้น ยางที่ให้มาเป็นรุ่น BFGoodrich All-Terrain 33 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งมีดอกยางที่ใหญ่มากขึ้น มีอายุการใช้งานที่นานมากขึ้น และแก้มยางที่แข็งแรงกว่ายางทั่วไปถึง 20% พร้อมลุยทุกสถานการณ์จริงๆ
เครื่องยนต์ Ford Ranger Raptor 2018 ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ Bi-Turbo ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดใหม่ล่าสุด แรงไม่แพ้เครื่อง 3.2 ลิตร แบบเดิมเลยนะครับ บางคนอาจคิดว่าตัวรถใหญ่ขึ้นเครื่องยนต์ความจุน้อยลง รถจะอึดไหม ผมบอเลยว่าแรงมาก การทำงานของเกียร์และเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเรียบเนียน และ ให้แรงบิดที่ต้องบอกว่าขับสนุกมากๆ
มาพร้อมโหมดการขับขี่ถึง 6 โหมด
Normal Mode (2H, 4H, 4L) – เน้นขับขี่ในชีวิตประจำวัน
Sport Mode (2H) – เน้นขับขี่ทางเรียบ เพิ่มความฉับไวในการเปลี่ยนเกียร์ และ Hold รอบเครื่องยนต์ไว้สูงกว่าปกติ พวงมาลัยไฟฟ้าโหมด Sport
Snow/Grass Mode (4H) – เน้นขับบนทางออฟโรดพื้นผิวลื่น ออกตัวด้วยเกียร์ 2
Sand Mode (4H, 4L) – ปรับปรุงระบบ ESP เพื่อรองรับถนนที่เปลี่ยนรูปได้ เน้นใช้เกียร์ต่ำเพิ่มแรงบิด
Rock Mode (4L) – ขับขี่ขึ้นทางลาดชันในความเร็วต่ำ และใช้เกียร์ต่ำเท่านั้น
Baja Mode (2H, 4H, 4L) – เน้นขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง ปิดระบบ Traction Control เพื่อป้องกันการแทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์จะ Hold รอบเครื่องยนต์สูงกว่าปกติ และเพิ่มความไวในการเปลี่ยนเกียร์ พวงมาลัยไฟฟ้าโหมด Base การดีไซน์ภายนอก ด้วยกระจังหน้าพร้อมตัวอักษร F O R D เอกลักษณ์เฉพาะของฟอร์ด เรน เจอร์ แร็พเตอร์ ช่วงท้ายบึกบึน กันชนแบบยึดติดกับตัวเฟรมที่ให้รูปร่างรถดูแข็งแกร่ง บันได้ข้างทำจากวัสดุ อัลลอยทำสีเฉพาะ สะดวกมากขึ้นในการขึ้นลงรถ ไฟตัดหมอก LED พร้อมช่องรีดอากาศเพื่อแอโรไดนามิกที่ยอดเยี่ยม และดีไซน์กันชนท้ายกับป้ายชื่อ 3D แบบนูนที่ฝากระบะท้ายรถ
ภายในห้องโดยสารถูกยกชุดมาจาก Ranger รุ่นปกติ แต่เสริมด้วยการตกแต่งสำหรับรุ่น Raptor โดยเฉพาะ เริ่มจากเบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนังสลับ Alcantara ซึ่งให้ความรู้สึกมั่นใจขึ้นเวลาเข้าโค้งหรือขับขี่ด้วยความเร็วสูง ตัวเบาะฝั่งคนขับมีระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางมาให้ ส่วนเบาะหลังมีพนักพิงศีรษะมาให้ 3 ตำแหน่งพวงมาลัยของรุ่น Raptor ถูกหุ้มด้วยวัสดุหนังพร้อมรูระบายอากาศ พร้อมแถบสีแดงตรงกลาง พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ซึ่งตัวแป้นทำมาจากวัสดุแมกนีเซียม ปุ่มควบคุม Terrain Management จะถูกติดตั้งไว้ฝั่งซ้ายของพวงมาลัย โดยกดที่ สัญลักษณ์ “Mode” เพื่อเรียกโหมดต่างๆ ให้มาแสดงบนหน้าจอ
Ford Ranger Raptor เป็นสุดยอดรถกระบะสายลุยตัวจริงครับ ทางเรียบความนุ่มนวลไม่แพ้รถ SUV ความสูงของตัวรถช่วยให้ลดความเครียดในการขับขี่ เส้นทางออฟโรดก็เป็นรถกระบะที่สามารถใช้ความเร็วสูงในเส้นทางออฟโรดได้ดีเยี่ยมและนุ่มนวล เครื่องยนต์มีการตอบสนองการขับขี่ได้ดี มีโหมดการขับขี่ให้ได้เลือกใช้อย่างครบถ้วน ภายนอก ใหญ่ โหด ดุดัน สมคำร่ำลือ ขับไปไหนมีคนส่งสายตามองมาแน่นอน สำหรับราคาค่าตัวของ Ford Ranger Raptor 1,699,000 บาท ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับของแต่งที่ติดตัวมาและสมรถนะที่ได้มาและความแข็งแกร่งปลอดภัย ซื้อมาขับอย่างเดียวไม่ต้องทำอะไรก็หล่อแล้วครับ
BY : บอล กิตติศักดิ์ ไพศาลธนจิตร