นิสสัน เทอร์ร่า รถ suv อเนกประสงค์ ที่ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ ผ่านได้ทุกอุปสรรค ทั้งออฟโรดและออนโรด อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ ที่อัจฉริยะสุดล้ำสมัย ใน นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่คันนี้ ผ่านการดีไซน์ตัวถังที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง และทันสมัย
จุดเด่นของนิสสันเทอร์ร่า คงหนีไม่พ้นเรื่องอุปกรณ์ อัจฉริยะ ที่นิสสัน อัดแน่นลงมาในรถคันนี้ จากที่ผมได้ทดลองขับก็สำผัสได้ถึงความสะดวกสบายทั้งการขับขี่ในเมืองและออกต่างจังหวัด ระบบกล้องรอบทิศทาง แสดงภาพขณะถอยจอด แสดงภาพรอบตัวรถแบบมุมสูง แสดงภาพด้านข้างของตัวรถที่เป็นจุดอับสายตา เป็นระบบที่จำเป็นมากสำหรับการขับขี่ในเมือง สำหรับการเดินทางออกต่างจังหวัด ก็มีระบบเตือนเมื่อมีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตาแสดงอยู่บนกระจกมองข้างทั้งสองฝั่ง และ ระบบจะเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางการขับขี่ ระบบนี้จะเริ่มทำงานในช่วง 70 กม./ชม. เป็นต้นไป เมื่อรถเสียการควบคุมออกนอกช่องทางระบบจะส่งเสียงเตือนและมีไฟกระพิบที่หน้าปัด
สำหรับเรื่องการออกแบบของนิสสัน เทอร์ร่า เน้นเรื่องความแข็งแกร่งในแบบรถยนต์อเนกประสงค์ พร้อมพาคุณไปสู่ทุกจุดหมาย ด้านหน้ากระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าและไฟท้ายแบบบูมเมอแรงเอกลักษณ์เฉพาะของนิสสัน พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า ด้านข้างมีเส้นของโป่งล้อเพิ่มความแข็งแกร่งดุดัน พร้อมบันไดข้างเพิ่มความสะดวกสบายในการ ขึ้น-ลง ล้อแม๊กที่ให้มาเป็นขนาด 18 นิ้ว สำหรับเครื่องยนต์บล๊อคใหม่ของ นิสสัน เทอร์ร่า เครื่องยนต์ขนาด 2.3 Turbo ให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน – เมตร ทางนิสสันได้เครมว่าสามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้ถึง 20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่เผาใหม้ได้อย่างหมดจดและเต็มประสิทธิภาพ การตอบสนองของเครื่องยนต์ถือว่าทำได้ดีเยี่ยม จังหวะเร่งแซงก็สามารถแซงได้อย่างมั่นใจ อาจจะรอรอบนิดหน่อยตอนกระทืบคันเร่งตามสไตล์เครื่องยนต์ Turbo ที่มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด
ช่วงล่าง ของ เทอร์ร่า เป็นแชสซีที่สร้างขึ้นจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน เอกสิทธิ์เฉพาะของนิสสัน ทำให้ เทอร์ร่า ผ่านได้ทุกอุปสรรค ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ ทำด้วยเหล็กกล้า (Double-Wishbone) พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง และ ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ 5 ลิ้งค์ คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ความรู้สึกเมื่อได้ทดลองขับในทางออนโรดและออฟโรด ถือว่าเทอร์ร่าทำได้ดีทีเดียวครับถนนในเมืองไทยทุกคนคงเข้าใจนะครับ ว่า ทางออนโรดก็ไม่ออนโรดเสมอไป แต่ นิสสัน เทอร์ร่าก็สามารถผ่านไปได้อย่างนิ่มนวล ไม่ได้มีแค่นี้แน่นอน เทอร์ร่ามือระบบช่วยเหลือคนขับอีกมากมายเช่น ระบบ
ill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
Hill Descent Control ช่วยควบคุมความเร็ว ขณะลงทางลาดชัน
Off-Road Meter แสดงข้อมูลของระบบขันเคลื่อนรวมถึงมุมเอียงต่างๆ ขณะขับขี่
Tire Pressure Monitoring System แสดงแรงดันลมทั้ง 4 ล้อ
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สามารถนั่งได้ 6-7 ที่นั่งรวมคนขับ เบาะนั่งแถวที่สองก็สามารถพับได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ห้องโดยสารใส่อุปกรณ์พิเศษช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก กระจกด้านหน้าออกแบบพิเศษช่วยลดเสียงลมปะทะจากภายนอกอีกด้วย ห้องโดยสารบุด้วยวัสดุซับเสียงถึง 3 ชั้น ช่วยให้ลดเสียงเครื่องยนต์และเสียงรบกวนภายนอกเข้ามาให้ห้องโดยสาร
ระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสาร (Navigation System) ประมวลผ่านระบบ GPS ทำให้สามารถลีกเลี่ยงเส้นทางรถติดได้ พร้อมระบบเชื่อมต่อความบันเทิงอย่างครบครัน จอมอนิเตอร์ ขนาด 11 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบปรับอากาศด้านหน้าแยกอิสระ ซ้าย-ขวา ด้านหลังมีช่องแอร์ปรับ 360 องศา ช่วยให้ความเย็นกระจายได้ทั่วถึง เพิ่มความหลากหลายในรูปแบบการใช้งาน การขนย้ายสิ่งของ เทอร์ร่า เมื่อเปิดเบาะครบทุกตำแหน่งก็ยังมีที่ว่างให้ว่างของได้อีก แต่เมื่อพับเบาะแถวที่สามลง ก็สามารถใส่ของได้มาก ถ้าต้องการขนของจำนวนมากๆ เทอร์ร่า ก็พร้อมพับเบาะตอนที่สองลง สามารถบรรจุของได้อย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการออกแบบที่เลือกใช้พื้นท่ได้ตามต้องการจริงๆครับ
สรุปการทดสอบนิสสันเทอร์ร่า ตอบโจทย์ทุกการขับขี่จริงๆครับ ไม่ว่าจะออกต่างจังหวัด ทั้งทางออนโรดและออฟโรด การใช้งานในเมืองต้องบอกว่าสมบรูณ์แบบ สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ที่อยากได้รถครอบครัวก็ไม่ต้องกังวนอะไร ปัญหารถคันใหญ่ขับยากจะหมดไป ด้วยกล้องรอบทิศทาง กล้องถอยจอด ต้องบอกว่าใช้ง่ายจริงๆ การขับขี่ออกต่างจังหวัดก็ไม่ต้องกังวนด้วยช่วงล่างที่ไปได้ทุกสภาพถนน และห้องโดยสารที่กว้างขวาง
ถือว่านิสสันเทอร์ร่าก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนรุ่นใหม่ที่อยากออกไปท่องโลกกว้างอย่างสนุกสนานและปลอดภัย ราคาที่นิสสัน เทอร์ร่า เปิดตัวมาอยู่ที่
รุ่น 2.3 V 2WD 7AT | 1,199,000. |
รุ่น 2.3VL 2WD 7AT | 1,349,000. |
รุ่น 2.3 VL 4WD 7AT | 1,427,000. |
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โชว์รูม นิสสัน ทั่วประเทศ
BY กิตติศักดิ์ ไพศาลธนจิตร (บอล)