Xpander ถือเป็นรถ ครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่งที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองอย่างแท้จริง ด้วยความประหยัดน้ำมันที่ทำได้ดีมากสำหรับการใช้งานในเมือง การออกแบบที่โดนใจวัยรุ่น เหมาะสำหรับวัยรุ่นยุคใหม่ที่เพิ่งมีครอบครัว และอยากได้รถที่มีหลายที่นั่งมีความเอนกประสงค์ราคาจับต้องได้ บอกเลยว่า Xpander เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่ามากจริงๆสำหรับการใช้งานในเมืองและออกต่างจังหวัด
เป็นเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC MIVEC 16 วาล์ว ให้กำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อ Xpander จากที่ผมได้ทดสอบการขับขี่ ในระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร เครื่องยนต์ 1500 cc. ของ Xpander ทำได้ดีเลยทีเดียว การขับขี่ในเมืองก็คล่องตัวมาก ด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ที่มีระบบ Cruise Control ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและรับสายโทรศัพท์ ทำให้ไม่ต้องละสายตาระหว่างขับขี่ มีน้ำหนักเบาสามารถบังคับรถได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ (พวงมาลัยเบาจริงครับผู้หญิงตัวเล็กๆขับสบาย) ในช่วงรถติดๆเครื่องยนต์ก็ทำงานได้อย่างเรียบเนียน
สำหรับการใช้งานในการเดินทางไกล การเร่งแซงอาจจะช้าไปนิดนึงเพราะด้วยตัวถังขนาดใหญ่บวกกับเครื่องยนต์ขนาดเล็กเพื่อช่วยเรื่องความประหยัดน้ำมัน อาจทำให้ความรู้สึกในการเร่งแซง ได้ไม่ทันใจไปนิดนึงนะครับ
ระบบช่วงล่างของ All New Mitsubishi Xpander
ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัต (MacPherson Strut) ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) จากที่ได้ทดสอบช่วงล่างของ Xpander ในความเร็วต่ำที่ 0-80 กิโลเมตร/ชม. ช่วงล่างมีความนุ่มนวลมาก เวลาขึ้นลูกระนาดหรือตกหลุม จะรู้สึกได้ถึงการซับแรงกระแทกของช่วงล่างได้ดี ในความรู้สึกของผมคิดว่าช่วงล่าง มันนิ่มไปนิดนึง ทำให้เวลาเปลี่ยนเลนส์กระทันหันจะรู้สึกถึงอาการโครงของตัวรถนิดหน่อย
ในความเร็วที่ 80-140 กิโลเมตร/ชม. ช่วงล่างทำงานได้ดีครับ ไม่มีอาการโครงของตัวรถ เข้าโค้งได้ดี ขับทางไกล มีผู้โดยสารนั่งเบาะตอนหลังสุด ก็ไม่มีอาการเวียนหัวหรือเมารถแต่อย่างไร ความสูงของใต้ท้องรถอยู่ที่ 205 มิลลิเมตร สูงกว่ารถที่อยู่ใน segment เดียวกันที่ให้ตัวรถสามารถผ่านทุกอุปสรรคได้อย่างง่ายได้และยังช่วยเพิ่มน้ำหนักการบรรทุกได้อีกด้วย
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน Xpander
- ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าเป็นแบบ ดิสก์เบรก ด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก
- มาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-Lock Braking System)
- ระบบกระจายแรงเบรกตามน้ำหนักบรรทุก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบควคุมเสถียรภาพและการทรงตัว ASC (Active Stability Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCL (Traction Control)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
- ระบบกระพริบไฟฉุกเฉินเมื่อผู้ขับขี่ เหยียบเบรกกระทันหัน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบช่วยล็อกความเร็วของตัวรถ Cruise Control
คอนเซ็ปต์การออกแบบด้านหน้ารถ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ เวลามองด้านหน้าของรถเวลาขับผ่านหรือจอดอยู่จะดูล้ำๆหน่อยนะครับ เป็นแนวคิดการออกแบบ Advanced Dynamic Shield Design Concept ซึ่งออกแบบให้รู้สึกถึงความทันสมัยและความปลอดภัย ด้านหน้ามีไฟหรี่แบบคริสตัล LED รับกับกระจังหน้า ด้านล่างเป็นไฟหน้าแบบ มัลติรีเฟลกเตอร์แบบฮาโลเจน พร้อมไฟตัดหมอกกันชนด้านล่างอีก 2 ดวง กระจกมองข้างขนาดใหญ่มองเห็นได้อย่างชัดเจน พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ด้านหลัง ไฟท้ายแบบ บูมเมอแรง โดดเด่นด้วยเส้นไฟ LED สุดหรู พร้อมไฟเบรคและไฟเลี้ยวแบบแยกส่วน สปอยเลอร์หลัง มาพร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วแบบทูโทน พร้อมยาง bridgestone ecopia ขนาด 205/55
ภายในของ All New Mitsubishi Xpander
ภายในออกแบบตามหลัก OMOTENASHI เรียบง่าย ทันสมัย ที่สำคัญ ช่องเก็บของเยอะมากๆถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ xpander เลยนะครับเรื่องความเป็นรถอเนกประสงค์ และมีพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารที่กว้างขวางมาก มาพูดถึงเบาะนั่งผู้ขับขี่นะครับ ผมสูงประมาณ 185 เซนติเมตร ความรู้สึกเวลาขับไม่มีความอึดอัดเลย ยังมีพื้นที่เหนือศรีษะอีกประมาณหนึ่งฝ่ามือ การวางเท้าก็วางได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังมีกล้องมองหลังที่ช่วยให้ถอยจอดได้ง่ายขึ้นมาก เบาะตอนที่ 2 ปรับเอนหลังได้สบาย หัวเขาไม่ชนเบาะผู้โดยสารตอนหน้า เบาะตอนที่ 3 ก็สามารถนั่งได้แต่จะรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เหมาะสำหรับเด็กๆหรือผู้ใหญ่ที่สูงประมาณ 170 จะนั่งได้อย่างสบายมากๆ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยระบบแอร์แยกให้ผู้โดยสารตอนที่ 2 และ 3 พร้อมช่องชาร์ทแบตขนาด dc 12 โวลต์ อีก 3 จุดตรง คอนโซนด้านหน้า กลาง และ ด้านข้างกระจกผู้โดยสารตอนที่ 3 สำหรับเรื่องการบรรทุกของ ก็สามารถทำได้ดีเลยนะครับเพราะเบาะผู้โดยสารตอนที่ 2 และ 3 สามารถพับราบได้ทั้งหมดทำให้สามารถใส่ของที่มีความยาวได้อย่างสบายๆ
สรุป All New Mitsubishi Xpander ถือเป็นรถที่มีความเป็นเอนกประสงค์ มากๆ ทั้งในเรื่องความประหยัดน้ำมันที่ทำได้ดี วงเลี้ยวที่แคบมากเพียง 5.2 เมตร เบาะนั่งที่สะดวกสบาย ภายในที่กว้างขวาง เบาะนั่งหลายที่นั่ง แถมยังมีช่องเก็บของจุกจิกอีกรอบคัน ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ให้มาอย่างครบครัน ดีไซน์ที่ล้ำสมัย สะดุดตา ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนเมืองที่ต้องขอบอกว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจครับ
Mitsubishi Xpander 2018 |
ราคา |
Xpander รุ่น GLS-LTD | 789,000 บาท |
Xpander รุ่น GT | 859,000 บาท |
BY กิตติศักดิ์ ไพศาลธนจิตร (บอล)