มาสด้า 3 ถือเป็นรุ่น เรือธง ของทาง มาสด้า ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากใน เจนเนอเรชั่นที่ 3 ก่อนหน้านี้ ภายใต้แนวคิด Kodo Design และยังเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์ C – Segment การันตียอดขายมากกว่า 70,000 คัน ในปี 2018 ที่ผ่านมา มาถึงในรุ่นนี้ เจนเนอเรชั่นที่ 4 ถือว่าเป็นที่จับตามองของลูกค้า มาสด้า และ สื่อมวลชน ที่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ยอดจองรถ 4 วันแรกพุ่งสูงถึง 1,000 คัน ด้วยการดีไซน์ที่เรียบหรูและเทคโนโลยีที่อัดแน่น ชนิดที่ว่าหายากในรถยนต์ Segment เดียวกัน ตัดทอนการดีไซน์ที่ไม่จำเป็นออกไป ขยับเข้าใกล้ ยนตกรรมระดับพรีเมี่ยมเข้าไปทุกที
เครื่องยนต์ของ ALL – NEW MAZDA 3
เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv – G แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 165 แรงม้า แรงบิดที่ 210 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รองรับน้ำมัน E 85 ถือเป็นเครื่องยนต์ที่เปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้ว เป็นเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุด แรงม้ามากที่สุด แรงบิดมากที่สุด แต่ประหยัดน้ำมันมากสุด ถือเป็นเครื่องยนต์ Skyactiv-G ของทางมาสด้าที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์ของผู้บริโภคที่ต้องการรถที่ขับสนุก แถมยังประหยัดน้ำมัน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการปล่อยไอเสียที่ลดลงจาก เจนเนอเรชั่น เดิม จากที่ได้ทดลองทดสอบเครื่องยนต์ของ มาสด้า 3 เป็นเครื่องยนต์ที่มีความสุขุมมากขึ้น การเร่งแซงที่ง่ายดายและนิ่มนวล และการทำงานของเครื่องยนต์ที่เรียบเนียนมากขึ้น
ช่วงล่างของ ALL – NEW MAZDA 3
โครงสร้าง SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE แพลตฟอร์มของ เจนเนอเรชั่น ใหม่ ที่ออกแบบมาให้ทุกส่วนสัมพันธ์กัน ให้ผู้ขับขี่กับตัวรถเป็นหนึ่งเดียวกัน ช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut ด้านหลังแบบ Torsion Beam ที่ทางมาสด้า ได้ปรับปรุงขึ้นมาใหม่ ให้มีความนิ่มนวลและยึดเกาะถนนได้มากขึ้น จากการทดสอบ ทำให้รู้สึกได้ถึงการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ความรู้สึกจากล้อ 4 ล้อ ส่งตรงมาถึงผู้ขับขี่ได้ดีเยี่ยม รู้สึกคล่องแคล่ว เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ เหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถจริงๆ ใครที่ชอบในความเร็ว ช่วงล่างเนียนๆไม่ควรพลาดครับ
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ของ ALL – NEW MAZDA 3
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่เป็นจุดเด่นของทางมาสด้าที่ได้มีการพัฒนา จากเจนเนอเรชั่น ก่อนหน้านี้คือระบบ G-VECTORING CONTROL ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่เป็น G-VECTORING CONTROL PLUS (GVC-PLUS) ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง ทำให้มีความสมดุลของตัวรถที่มากขึ้น แม่นยำ เข้าโค้งและออกจากโค้งได้ดีขึ้น และควบคุมรถในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ โดยระบบนี้จะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ ควบคุมการถ่ายน้ำหนักของตัวรถ คำนวณการเบรกเพื่อให้ตัวรถกลับเข้าสู่ทางตรงได้ง่ายขึ้น เมื่อขับมาด้วยความเร็วและเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องเปลี่ยนเลนกระทันหัน ระบบจะช่วยแก้อาการของตัวรถและพวงมาลัยให้ไม่มีอาการสะบัด ถือเป็นระบบที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่เชิงป้องกันที่มาสด้าคิดค้นมาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับผู้ใช้รถ มาสด้า ยังไม่หมดเพียงเท่านี้แน่นอนครับยังมีระบบที่อัดแน่นใน ALL – NEW MAZDA 3 อีกมากมาย
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
– ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
– ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
– ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC)
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ลื่นไถล (TCS)
– ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA)
– ระบบไฟหน้าอัจฉริยะ Adaptive LED Headlamps (ALH)
– ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกช่องจราจร (LDWS)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร (LAS)
– ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติด้านหน้า (SCBS)
– ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติด้านหลัง (SCBS-R)
– ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA)
– ระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM)
– ระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
– ระบบเตือนการชนด้านหน้า และ ช่วยเบรก (SBS)
– ระบบแจ้งสภาพการจราจร และ ป้าย (Cruising & Traffic Support : CTS)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Mazda Radar Cruise Control : MRCC)
– ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring Control แบบ PLUS
– ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
– ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
– เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง
– เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
– ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา
– กุญแจ Immobilizer
– สัญญาณกันขโมย Burglar Alarm
ภายนอกของ ALL – NEW MAZDA 3
การออกแบบภายนอกของ มาสด้า3 เจนเนอเรชั่นที่ 4 ยังคงแบบ Kodo Design แต่เป็น Kodo Design ใหม่ ที่ปรับปรุงจากเจนเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ใหม่ทั้งหมด การเปลี่ยนพื้นผิวของตัวถังที่มีความเรียบง่ายและหรูหรา พรีเมี่ยม ด้วยการใช้แสงและเงาที่ตกกระทบกับตัวถังของรถทำให้ตัวรถดูมีมิติมากขึ้น แบบไม่เหมือนรถยนต์ของค่ายไหนในเมืองไทย ทำให้มองดูแล้วสะดุดตามากครับ อุปกรณ์ภายนอกที่ให้มา แบบจัดเต็ม
– ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/45 R18
– ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED
– ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
– ไฟท้ายแบบ LED
– สปอยเลอร์หลัง (ตัวถัง Hatchback)
– ปลายท่อโครเมียมคู่แบบสปอร์ต
– ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
– ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ภายในของ ALL – NEW MAZDA 3
Japanese Master เน้นเรียบหรู ใช้งานง่าย แต่เทคโนโลยียังอยู่ครบถ้วน ทัศนะวิสัยการมองเห็นที่เพิ่มมากขึ้น จากเจนเนอเรชั่น เก่า ด้วยการลดเสา A ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อเพิ่มการมองเห็นที่มากขึ้น วัสดุภายในใช้วัสดุที่ดีขึ้น การออกแบบปราณีตและคำนึงถึงการใช้งานที่สะดวก ตัดทอนส่วนที่ไม่จำเป็นออก ยังคงไว้ด้วยความหรูหราและงดงาม ลดเสียงรบกวนจากภายนอก ด้วยการเพิ่มวัสดุเก็บเสียงใหม่ทั้งหมด ใส่ใจในรายละเอียด การจัดว่างตำแหน่งของลำโพง ให้ได้คุณภาพของเสียงที่ดีที่สุด โดยในรุ่น ท๊อป ให้ลำโพง Bose 12 ตำแหน่ง รุ่นปกติ 8 ตำแหน่ง เบาะนั่งออกแบบเป็นพิเศษให้อยู่ที่ให้นั่งที่ถูกต้องเหมาะ สำหรับการเดินทางไกลต้องนั่งในรถเป็นเวลานาน ช่วยลดความเครียดและการเมื่อยล้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร แต่ห้องโดยสารของมาสด้าอาจจะเล็กไปนิดนึงนะครับสำหรับคนตัวใหญ่ แต่ก็เป็นสิ่งที่ทางวิศวกรของทางมาสด้าตั้งใจออกแบบห้องโดยสารให้มีความโอบกระชับ กับสรีระของผู้ขับขี่มากที่สุดนั่นเอง
สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบความบันเทิง
– ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
– พวงมาลัยมัลติฟังชั่น หุ้มด้วยหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง
– พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPAS
– หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา
– ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake
– ระบบ Auto Brake Hold
– ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
– มาตรวัดแบบกึ่งดิจิตอล
– มาตรวัดรอบ แบบเข็ม Analog
– มาตรวัดความเร็ว และ หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี TFT รวมในชุดมาตรวัด
– หน้าจอแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า Active Driving Head-up Display
– เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีทูโทน ดำ – น้ำตาลเข้ม- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
– เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat 2 ตำแหน่ง
– เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
– หน้าจอกลาง Center Display ขนาด 8.8 นิ้ว (ไม่ Touchscreen)
– ปุ่มควบคุมหน้าจอ CENTER COMMANDER
– สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
– ช่องเชื่อมต่อ AUX , USB , Bluetooth
– ช่องชาร์จไฟ 12V
– รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
– ระบบนำทาง Navigation System
– ระบบเสียง Premium Sound จาก BOSE®
– ลำโพง 12 ตำแหน่ง พร้อม Sub-Woofer
สรุปการทดสอบการขับขี่ ALL-NEW MAZDA 3
ALL-NEW MAZDA 3 ถือเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์กลุ่ม C – Segment ด้วยการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ มาสด้า วัสดุที่มีคุณภาพสูงและสรรถนะของรถที่ดีเยี่ยม จุดเด่นของ มาสด้า3 คงหนีไม่พ้นเรื่องของเทคโนโลยี GVC PLUS ที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้ขับรถได้ง่ายขึ้นและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดีเยี่ยม ภายในที่ดูเรียบหรูและมีความพิถีพิถันในการจัดว่างตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆ และยังใส่ใจในเรื่องของความบันเทิง ให้หน้าจอมาถึง 8.8 นิ้ว และลำโพง BOSE ถึง 12 ตำแหน่ง ในเรื่องของความกว้างขวางอาจจะเป็นอุปสรรคของคนตัวใหญ่นิดนึงนะครับ ทั้งหมดนี้คือรายละเอียดของ ALL-NEW MAZDA 3 ในเจนเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งเปิดตัวด้วยราคาดังนี้
ALL-NEW MAZDA 3 รุ่น 2.0 C / 2.0 C Sport 969,000 – บาท
ALL-NEW MAZDA 3 รุ่น 2.0 S / 2.0 S Sport 1,069,000 – บาท
ALL-NEW MAZDA 3 รุ่น 2.0 SP / 2.0 SP Sport 1,198,000 – บาท
Story by.กิตติศักดิ์ ไพศาลธนจิตร