ช่วงนี้ก็เริ่มเข้าใกล้เทศกาลเข้ามาเรื่อยๆ ถ้าพูดถึงเทศกาลสิ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือของมึนเมาที่เป็นของคู่กันเสมอๆ หากว่าดื่มแล้วนั่งแล้วนั่งรถสาธารณะหรือแท็คซี่กลับก็คงจะไม่เกิดปัญหาอะไร แต่เมื่อไหร่ดื่มแล้วขับนี่ซิเดือดร้อนแน่ๆ และไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง คราวนี้หลาย ๆ ท่านคงสงสัยว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุเนื่องมาจากการเมาแล้วขับเนี่ยประกันภัยรถยนต์จะรับผิดชอบมั้ย มาไขข้อข้องใจกันเลย
สำหรับประกันภัยรถยนต์นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประกันภาคสมัครใจและประกันภาคบังคับหรือที่เรียกกันว่า พ.ร.บ. รถยนต์นั่นเอง
สำหรับประกันภาคสมัครใจ สมมุติว่าเราเกิดอุบัติเหตุขณะที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ยังจะได้รับความคุ้มครองตามข้อตกลงตามกรมธรรม์ที่คุณทำเอาไว้ แต่หากเมื่อไหร่ที่เรามีแอลกอฮลล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าเป็นการเมาแล้วขับตามกฎหมาย ทางบริษัทประกันก็จะยังให้ความคุ้มครองเช่นเดิม แต่จะจะไม่คุ้มครองความเสียหายใดๆ ให้แก่ผู้ขับขี่ที่เมาแล้วขับทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่จะคุ้มครองให้แก่คู่กรณีเท่านั้น ถึงแม้ว่าเราจะทำประกันชั้น 1 มาก็ตามก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆทั้งสิ้น
สำหรับประกันภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ร.บ. รถยนต์ จะให้ความคุ้มครองและช่วยชดเชยค่าเสียหายให้เฉพาะบุคคลเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะเมาแล้วขับ ไม่มีใบขับขี่ หรือ ทำผิดกฎจารจรอื่นๆ ก็ตาม โดย พ.ร.บ. จะช่วยค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากคุณเมาแล้วขับรถชนคนอื่นๆ เข้า ก็ไม่จำเป็นต้องหนี เพราะประกันจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้อย่างแน่นอน
* ชดเชยค่าเสียหายเฉพาะบุคคล หมายความว่าหากรถของคุณหรือคู่กรณีได้รับความเสียหาย คุณจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดนั้นด้วยตัวเอง*
สุดท้ายหากหากคุณดื่มเข้าไปแล้วแล้วคิดว่าตัวเองไม่เมา ก็ไม่ควรจะขับรถหลังจากที่ดื่มเข้าไป นอกจากประกันจะไม่คุ้มครองแล้วอาจจะติดคุกอีกด้วย
