วันนี้จะมาแนะนำ 5 สิ่งที่เปลี่ยนแล้วรถยนต์ของเราจะกลับมาวิ่งได้ดียิ่งขึ้นแน่นอน ก็อย่างที่ทราบกันดีนะคะรถยนต์ของเราเมื่อถูกใช้งานบ่อยๆ ก็ย่อมมีการสึกหรอเป็นเรื่องธรรมดา
1.กรองอากาศ ทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแปลกปลอมตอนที่เครื่องยนต์ดูดอากาศผ่านท่อไอเสีย หากกรองอากาศสกปรกอากาศที่ผ่านเข้าไปในเครื่องได้ก็จะน้อยลงทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่นั่นเอง หรือตามคู่มือแนะนำถ้ารถมีการใช้งาน 20000 – 40000 กิโลเมตร ก็ควรเปลี่ยนกรองอากาศใหม่ แนะนำให้ใช้กรองอากาศแท้ดีที่สุด เพราะกรองอากาศเทียมมักไม่ได้คุณภาพถึงแม้ว่าจะไม่ได้สกปรกแต่การไหลผ่านของอากาศก็ไม่ดีเท่ากับของแท้
2.หัวเทียน เพราะทำหน้าที่จุดระเบิดในกระบอกสูบ จะทำหน้าที่จุดระเบิดในกระบอกสูบทำให้รถของเราวิ่งได้ หากหัวเที่ยนมีการเสื่อมประสิทธิภาพลง ทำให้การจุดระเบิดในกระบอกทำได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้รถอืด กำลังเครื่องตก เครื่องยนต์สั่น ดังนั้นแล้วก็ควรเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ ซึ่งตามคู่มือแนะนำ 20000 – 40000 กิโลเมตร ก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว
3.คอยล์จุดระเบิด ทำหน้าที่ส่งไฟให้หัวเทียนไปจุดระเบิด และหากเสื่อมลงแล้ว การทำงานจ่ายไฟก้จะไม่เต็มที่ ก็จะส่งผลให้รถอืด กำลังตก เครื่องยนต์สั่นและถ้าอาการหนัก ๆ หน่อย ส่วนใหญ่จะมีไฟเอนจินโชว์แจ้งเตือนบอก ดังนั้นก็ควรจะเปลี่ยนคอยล์ตัวใหม่
4.กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ทำหน้าที่กรองสิ่งแปลกปลอมในน้ำมันเชื้อเพลิง หากนานๆไปกรองเริ่มสกปกมาก การไหลเวียนของน้ำมันก็จะไม่สะดวก เกิดการอุดตันการไหลเวียนของน้ำมันไม่สะดวก ทำให้เกิดปัญหารถเร่งไม่ขึ้น กำลังหาย และแถมรถยังสตาร์ทติดยากอีกด้วย
5.น้ำมัน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้คุณภาพ อย่างน้ำมัน PTT UltraForce Premium Diesel ที่ผสมด้วยสารสูตรพิเศษรายแรกของโลก ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่าง ด้วยประสิทธิภาพการทำความสะอาดอันทรงพลัง ช่วยคืนความสะอาดให้กับหัวฉีดนํ้ามันในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้หัวฉีดสะอาดตั้งแต่ครั้งแรกที่เติมและเหมือนใหม่ตลอดเวลา ผสมกับสารเพิ่มค่าซีเทน ช่วยให้ค่าซีเทนเพิ่มขึ้นในระดับสูงสุดที่เครื่องยนต์ต้องการ ทำให้เร่งได้แรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม เครื่องยนต์เผาไหม้สะอาด ลดฝุ่นละอองจากการเผาไหม้ และที่สำคัญ เป็นน้ำมันมาตรฐานยูโร 5 ค่ากำมะถันต่ำกว่า 10 ppm ซึ่งจะช่วยลดมลพิษทางอากาศอีกด้วย และยังได้รับการยืนยันจากผู้เชียวชาญด้านรถยนต์ อย่าง อาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ อีกด้วยแค่นี้รถของเราก็กลับมาเร็ว แรงเหมือนเดิมแล้ว