รถอีโคคาร์ที่อยู่ในกระแสความนิยมอันดับต้น ๆ และนับว่าเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่ดูคุ้มค่าไม่น้อยเลย สำหรับ NISSAN ALMERA 1.0 Turbo ที่มาในธีม “Challenge All Beliefs” หรือ “เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ” รุ่นนี้ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งหมด รวมถึงเครื่องยนต์บล็อคใหม่ 1.0L Turbo ที่พ่วงด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเต็มรูปแบบ ซึ่งความพิเศษจะมีอะไรบ้าง auto-variety จะพาไปทำความรู้จักกับรถ Eco Car รุ่นนี้กันครับ
Eco Car เครื่องยนต์ 1.0L Turbo ตอบสนองทุกการใช้งาน
สำหรับคนที่ชอบความประหยัดและขับสนุก บอกเลยว่า NISSAN ALMERA 1.0 Turbo น่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรใหม่ ภายใต้รหัส HRA0 3 สูบ แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) ขนาดปริมาตรความจุ 999 ซีซี ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์เป็นแบบ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและทันใจ ตอบสนองอัตราเร่งแซงที่ดีขึ้น ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีขึ้นกว่าเดิม และด้วยเทคโนโลยี D-Step Logic สร้างการขับขี่ให้ที่น่าตื่นเต้นและส่งกำลังที่มีความละเอียดยิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์บนท้องถนนให้ผู้ขับขี่เมื่อเปรียบเทียบกับระบบเกียร์ทั่วไป ตอบสนองคันเร่งได้เป็นอย่างดี ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วขึ้นแต่ยังมีการประหยัดเชื้อเพลิงที่โดดเด่นอีกด้วย
นอกเหนือจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แล้ว เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรใหม่ที่อยู่ใน NISSAN ALMERA 1.0 TURBO ยังเต็มไปด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคมากมายเช่น ลูกสูบแบบ Delta Cylinder Head, หัวฉีดแบบ Central Injector และ Turbocharger ที่การควบคุมไอเสียด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงเทคโนโลยีเคลือบบนกระบอกสูบแบบ Mirror Bore Coating เช่นเดียวกับที่ใช้ในรถซูเปอร์สปอร์ตอย่าง Nissan GT-R ซึ่ง เพิ่มความทนทาน ช่วยลดการสึกหรอ และน้ำหนักของกระบอกสูบ ในขณะที่ปรับปรุงเรื่องการระบายความร้อนและการเผาไหม้
NISSAN ALMERA 1.0 TURBO มาพร้อมกับประสิทธิภาพอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดในระดับรถยนต์เดียวกันถึง 23.3 กม. ต่อลิตร ให้กำลังสูงสุด 100 พีเอส (Ps) มีแรงบิดถึง 152 นิวตันเมตร (Nm) ตั้งแต่รอบเครื่องที่ 2,400 ถึง 4,000 รอบต่อนาที นอกจากนี้ยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น สามารถเปิด – ปิด ระบบการทำงานได้ เติมเต็มทุกความปลอดภัยด้วยระบบ AI
อีกหนึ่งจุดที่ทีมออโต้วาไรตี้เราให้คะแนนในด้านบวก คือ ระบบความปลอดภัยรูปแบบ AI ที่ให้มากกว่ารถ Eco Car ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) , เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB) โดยระบบจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็วและหยุดรถให้ความเสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุบรรเทาลง , เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) , เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ระบบจะตรวจเช็ครถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา , เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคัน จับการเคลื่อนไหวได้เทคโนโลยีอัจฉริยะนี้จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัย , เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC) ระบบนี้จะช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักหลบกะทันหันหักเลี้ยวอย่างมั่นใจ , เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) เมื่อขับรถขึ้นบนทางลาดชันระบบจะช่วยป้องกันไม่ไห้ไหลลงขณะออกตัว เมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะสั่งให้เบรก ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเหยียบคันเร่งและออกตัวอย่างนุ่มนวล ซึ่งที่เราบอกมาทั้งหมดนี้คือความพิเศษของระบบความปลอดภัยที่ใส่อยู่ใน NISSAN ALMERA 1.0 Turbo ซึ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งมีมุมภาษีดีกว่าไม่น้อยแถมราคายังถูกกว่าอีกด้วย
นอกจากระบบความปลอดภัยรูปแบบ AI ที่เราบอกในตอนต้น NISSAN ALMERA 1.0 TURBO ยังอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มความปลอดภัยทั้งในเชิงการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (Active Safety) และ ระบบลดความรุนแรง ความเสียหายจากอุบัติเหตุ (Passive Safety) อันได้แก่ โครงสร้างตัวถังเป็นแบบ Zone Body Concept เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และกระจายแรงกระแทก เพื่อปกป้องห้องโดยสารและผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ , 6 ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งอยู่ในนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ทุกรุ่น ขณะที่ ด้านข้าง (side airbags) และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (curtain airbags) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น VL , เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ปรับสูง-ต่ำได้ เพื่อความเหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารแต่ละคน โดยเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าเป็นแบบ ELR 3 จุด แบบดึงกลับอัตโนมัติ และผ่อนแรงอัตโนมัติ ด้านหลังเป็นแบบ ELR 3 จุด ครบทั้ง 3 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารที่เป็นเด็กด้วยจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX และระบบป้องกันเด็กเปิดประตูจากภายในรถ , ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ แอลอีดี เห็นได้ชัดเจน โดยระบบเบรกหน้าเป็นแบบ ดิสค์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อน ขณะที่ด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก
ภายในกว้างมาพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
สำหรับภายในของ NISSAN ALMERA 1.0 TURBO ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับหน้าจอแสดงผลใหม่ระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ Bluetooth, USB และ AUX IN สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง พร้อมลำโพงคุณภาพดี 6 จุด และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอย่าง Apple CarPlay มาตรวัดเรือนไมล์แบบเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Digital ผ่านหน้าจอ TFT หน้าจอสีขนาด 7 นิ้ว / แสดงผลข้อมูลการขับขี่ / แสดงมาตรวัดอุณหภูมิภายนอกพวงมาลัย เบาะนั่งห้องโดยสารภายในที่มีสไตล์ ใช้วัสดุคุณภาพสูง และเน้นความปราณีตในการประกอบ ช่วยเสริมความโดดเด่นและความหรูหราให้กับรถคันนี้ ด้วยปรัชญาการออกแบบลายเส้นของปีกเครื่องร่อนของนิสสัน (Nissan Gliding Wing) ถูกนำไปใช้ตกแต่งในส่วนแผงหน้ารถ ทำให้ผู้ ขับขี่สามารถสัมผัสได้ถึงแนวเส้นโค้งที่โฉบเฉี่ยวบริเวณคอนโซลกลาง ซึ่งมอบความประทับใจ และความสวยงามจากแนวปีกที่กว้างขึ้น
การขับขี่ Nissan Almera
สำหรับในส่วนของฟิลลิ่งในการขับนั้น ถ้าเป็นในเรื่องของอัตราเร่ง ถ้าเทียบกับในรุ่นก่อนหน้านี้ ต้องบอกว่าดีขึ้นกว่าเดิมมากครับ เราสามารถเร่งความเร็วได้เรื่อยๆ และ เร่งแซงได้มั่นใจ สมรรถนะปานกลาง แต่ในทางกลับกันคนที่เน้นการขับขี่ในเมืองก็จะค่อนข้างพอใจกับสเปคประมาณนี้ ในราคาที่ไม่แรง สามารถจับต้องได้
สรุปโดยรวม
สำหรับใครที่กำลังมองหารถที่มีความกว้าง เน้นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ของคนเมืองและขับสนุก NISSAN ALMERA 1.0 TURBO นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ที่โดดเด่นเลยก็เป็นเรื่องความประหยัดน้ำมัน แถมราคากำลังดีตัว Top อยู่หกแสนต้นๆ (639,000 บาท) ซึ่งเทียบกับ Eco Car ซีดาน ที่จำหน่ายในบ้านเราดูมีภาษีและน่าใช้มากครับ
Story By: Chairat Paisantanajit / ไชยรัตน์ ไพศาลธนจิตร
ติดตามข่าวรถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ กับเรา Auto-variety