Special Tips

น้ำมันเกียร์มีหน้าที่อะไรแล้วควรเปลี่ยนเมื่อไหร่

น้ำมันเกียร์ทำหน้าที่ในการช่วยลดแรงเสียดทาน และป้องกันการสึกหรอของชุดเกียร์ ช่วยให้ระบบเกียร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรถยนต์ผ่านการใช้งานมาระยะหนึ่งอาจส่งผลให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสมรรถภาพลง ซึ่งโดยปกติเราจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก ๆ 40,000 กม. หรือ 2 ปีถ้าระยะอะไรถึงก่อน แต่ถ้าใช้งานรถหนักหรือเดินทางไกลบ่อยๆ ก็ควรเปลี่ยนปีละครั้ง การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ จะช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวล เต็มประสิทธิภาพ เหมาะสมกับการใช้งานทุกสภาวะการขับขี่ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แต่ละครั้ง จะใช้ปริมาณในการเปลี่ยนไม่เกิน 50% ของน้ำมันทั้งหมด เนื่องจากจะมีน้ำมันเก่าที่ยังคงค้างในระบบเกียร์อยู่เสมอ

จะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ สำหรับรถใหม่ป้ายแดงคงไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้มากนักเพราะทุกอย่างได้เปลี่ยนถ่ายและตรวจเช็คจากศูนย์บริการ ที่น่ากังวลก็จะเป็นรถที่มีอายุการใช้งานเยอะๆ หลักแสนกิโลฯ ขึ้นไป หรือคนที่ไม่ค่อยดูแลรถไม่ค่อยนำรถเช็คระยะตามกำหนดอันนี้ก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ควรจะเปลี่ยนทุก ๆ 40,000 กม. หรือ 2 ปีถ้าระยะอะไรถึงก่อน ถ้าลืมหรือเผอเรอปล่อยให้ระยะไมล์เยอะมากกว่ากำหนดที่แนะนำไว้ บอกเลยว่าเสี่ยงที่เกียร์จะพังได้เพราะน้ำมันเกียร์เสื่อม แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าน้ำมันเกียร์เสื่อม?? เรามีวิธีสังเกตอาการมาฝาก

  1. เข้าเกียร์ในตำแหน่ง D หรือ R แล้วรถออกตัวยาก
  2. มีอาการกระตุกเมื่อเข้าเกียร์ D หรือ R
  3. จังหวะการเปลี่ยนเกียร์สะดุด บางครั้งก็มีอาการวืด
  4. เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ยากขึ้น
  5. มีกลิ่นไหม้
  6. มีเสียงดังในจังหวะขับขี่หรือเมื่อต้องเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์

อย่าลืมนะครับว่าน้ำมันเกียร์มีหน้าที่หล่อลื่นทำให้ลดการสั่นสะเทือนในเรือนเกียร์ ลดแรงเสียดทานที่ทำให้เสียงดังตอนเปลี่ยนเกียร์ และสารพิเศษเหล่านี้ยังสามารถช่วยชะล้างเศษของโลหะที่เกิดจากการเสียดสีภายในบริเวณหน้าฟันเกียร์ มากไปกว่านั้นสารจากน้ำมันเกียร์สามารถป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อนชิ้นส่วนภายในเกียร์ ทำให้ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ถ้าไม่เปลี่ยนถ่ายตามกำหนดบอกได้เลยว่าเสี่ยงที่เกียร์จะพังก่อนกำหนดแน่นอน

Most Popular

To Top