ในการเดินทางไกลหรือการขับรถที่ใช้ความเร็ว การเว้นระยะห่างจากคันหน้าถือเป็นสิ่งสำคัญในการขับรถ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่ารถที่ขับนำเราจะเบรกฉุกเฉินเมื่อไหร่ ซึ่งถ้าเราขับรถจี้ตูดหรือเว้นระยะห่างน้อยจนเกินไปอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อความปลอดภัยในการขับรถเรามาดูกันว่าระยะไหนคือระยะห่างที่ปลอดภัยในการขับตามคันหน้า
การรักษาระยะห่างด้วยจำนวนรถ เป็นการใช้ความเร็ว ยิ่งขับเร็วมากต้องรักษาระยะห่างมากขึ้น หรือความเร็วทุก 16 กม./ชม. จะต้องเว้นระยะห่าง 1 ช่วงตัวรถ
การรักษาระยะห่างด้วยกฏ 2 วินาที เป็นการใช้เวลาและควบคุมความเร็ว โดยกำหนดจุดหลัก เช่น เสาไฟฟ้า หลักความเร็ว หรือป้ายสัญญาณ จากนั้นกำหนดรถที่วิ่งอยู่ข้างหน้า 1 คัน และเมื่อรถคันนั้นออกตัวไปแล้ว ท้ายรถผ่านหลักที่กำหนดให้เริ่มนับในใจแบบปกติว่า “หนึ่งพันหนึ่ง หนึ่งพันสอง” ขณะที่นับ “หนึ่งพันสอง” รถวิ่งมาถึงจุดที่กำหนด แสดงว่าทิ้งระยะได้ 2 วินาที ถ้าถึงก่อนแสดงว่าทิ้งระยะน้อยกว่า 2 วินาที จึงต้องฝึกให้ช้าลงกว่าเดิม
การรักษาระยะห่างด้วยกฎการเบรก เป็นการหยุดรถก่อนชนสิ่งต่างๆ โดยเริ่มตั้งแต่มองเห็นว่าด้านหน้ามีสิ่งกีดขวาง จากนั้นเริ่มแตะเบรก และเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง ระยะทางที่ใช้เบรกมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความเร็ว หากขับเร็วมากระยะทางใช้เบรกก็มากตามไปด้วย
นอกจากนี้พฤติกรรมการขับรถแบบ ขับๆ เบรกๆ เป็นพฤติกรรมอันตรายทั้งต่อตนเองและเพื่อนร่วมทาง เพราะนอกจากจะทำให้ขับขี่รายอื่นเข้าใจผิดผิดแล้ว ยังทำให้การขับขี่ไม่ราบรื่นและทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันในการขับขี่ด้วย
ทั้งนี้ การเบรกที่ถูกต้อง หากผู้ขับขี่ต้องการรักษาระดับความเร็วให้คงที่ ให้ใช้วิธีการผ่อนคันเร่ง และใช้วิธีการควบคุมคันเร่งแทนการเบรก ผู้ขับขี่ต้องรู้จักเร่งและผ่อนอย่างเหมาะสม เพราะหากเบรกบ่อย ๆ ชิ้นส่วนของรถยนต์จะสึกหรอ โดยเฉพาะรถเกียร์อัตโนมัติจะเกิดความร้อนสะสมโดยไม่จำเป็นด้วย ข้อสำคัญ คือ การขับ ๆ เบรกๆ นั้นเป็นการสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ขับขี่ร่วมทาง เพราะไฟเบรกด้านท้ายจะส่งสัญญาณให้รถคันหลังหยุด ซึ่งหากเกิดขึ้นบ่อยเกินไป ย่อมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้