ช่วงหลังมานี้ได้ยินข่าวโศกนาฏกรรม คนข้ามถนนบนทางม้าลายอยู่บ่อยครั้ง เห็นแล้วไม่สบายใจสักเท่าไหร่ ทำให้ “เส้นซิกแซก” ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาภัยอันตรายจากข้ามถนนตรงทางม้าลาย เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้นเรามาทำความรู้จัก “เส้นซิกแซก” กันสักหน่อย…
รู้จักที่มาที่ไปของเส้นซิกแซก
สำหรับเมืองไทยแล้ว เส้นหยักหรือเส้นซิกแซก ถือว่าเป็นเครื่องหมายจราจรใหม่ สำหรับผู้ใช้รถบ้านเรา แต่กับเวทีโลก เส้นซิกแซก ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องหมายจราจรที่แพร่หลายไปทั่วโลก สหราชอาณาจักร, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ใช้เส้นซิกแซกเป็นเครื่องหมายเตือนบนผิวจราจร โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อให้รถชะลอความเร็วลงก่อนถึงทางม้าลาย และเมื่อมีผู้ข้ามถนนตรงทางมาลาย รถต้องหยุดเพื่อให้คนข้ามถนนก่อน จึงจะสามารถขับรถผ่านไปได้ หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ถือว่าฝ่าฝืนกฎจราจร
เส้นซิกแซก สัญลักษณ์บนท้องถนนที่คนไทยต้องปฏิบัติตาม
สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ได้แนะนำเกี่ยวกับประเด็นเรื่องเส้นซิกแซก ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่นำร่อง ว่า จากการศึกษาพบว่า 33% ของคนเดินเท้าการมีสิ่งกีดขวางบริเวณทางเดินข้าม ทำให้ข้ามถนนได้ยากมากขึ้น เช่นเดียวกับ 40% ของผู้ขับขี่พบว่า การมีสิ่งกีดขวางใกล้ทางข้ามอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่คนข้ามได้ สิ่งกีดขวางเหล่านั้นก็คือรถยนต์ซึ่งจอดอยู่บริเวณก่อนถึงทางม้าลาย เส้นซิกแซกจะเป็นเส้นที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยจะตีเส้นก่อนถึงทางข้ามในระยะ 15 – 30 เมตรขึ้นอยู่กับรูปแบบถนนและความเร็วของรถโดยเฉลี่ยบนถนนนั้น ซึ่งข้อกำหนดเกี่ยวกับเส้นซิกแซกที่ผู้ใช้รถและคนข้ามถนนควรจะต้องรู้คือ
- ถนนบริเวณที่มีการตีเส้นซิกแซกห้ามจอดรถโดยเด็ดขาด
- ถนนบริเวณที่มีการตีเส้นซิกแซกห้ามผู้ขับขี่แซงหรือเปลี่ยนเลนเฉียบพลันโดยเด็ดขาด
- ห้ามคนข้ามถนนบริเวณที่มีเส้นซิกแซกโดยเด็ดขาด และเชื่อว่าข้อกำหนดดังกล่าวจะช่วยลดอุบัติเหตุบริเวณทางม้าลายให้ลดลง และในอนาคตจะพลักดันให้เป็นกฎหมายบังคับใช้อย่างถูกต้อง
เส้นซิกแซก ข้ามถนนปลอดภัยขึ้น ซึ่งต้องอาศัยการปรับตัว
ภายหลังจากกำหนดให้มีการใช้เส้นซิกแซกบนถนนนำร่อง 3 สายในกรุงเทพมหานครเพียง 1 สัปดาห์พบว่า ผู้ขับขี่เริ่มให้ความสำคัญกับเส้นซิกแซกมากขึ้นในช่วงระยะ15-30 เมตรก่อนถึงทางม้าลาย ความเร็วเฉลี่ยช่วงก่อนบังคับใช้ซิกแซกอยู่ที่ 27.54 กม./ชม. แต่เมื่อบังคับใช้เส้นซิกแซกแล้วความเร็วเฉลี่ยลดลงเล็กน้อยเหลือ 25.95 กม./ชม. นับว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง สอดคล้องกับงานวิจัยของ Dougald, Dittberner และ Sripathi (2012) ซึ่งทำการวิจัยเกี่ยวกับเส้นซิกแซกก่อนถึงทางม้าลายในสหรัฐอเมริกาพบว่า ความเร็วเฉลี่ยของรถหลังการใช้เส้นซิกแซก 1 สัปดาห์ลดลงจากช่วงก่อนบังคับใช้เล็กน้อย และเมื่อทำการเก็บข้อมูลต่อหลังใช้เส้นซิกแซก 6 เดือน และ 1 ปี พบว่าความเร็วเฉลี่ยของรถเมื่อเข้าพื้นที่เส้นซิกแซกลดลงอย่างเห็นได้ชัด “เส้นซิกแซกถือว่าเป็นเครื่องหมายจราจรใหม่สำหรับคนไทย ซึ่งต้องใช้เวลาเรียนรู้เพื่อปรับตัว เชื่อว่าไม่นาน ผู้ใช้รถรวมไปถึงคนเดินเท้าจะเข้าใจและปฎิบัติตามอย่างแน่นอน” นายสุธนทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่โครงการนำร่องเพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ผู้ข้ามถนนบนทางม้าลายเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วโครงการนี้จะประสบความเร็จ หรือล่มสลาย ก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนักของผู้ใช้รถใช้ถนนว่าพร้อมจะปฏิบัติตามกฎกติกาที่กำหนดไว้ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะการแก้ไขปัญหาจราจรอย่างมั่นคงและยั่งยืนที่สุดคือ บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคุมความเร็วของรถยนต์ให้เหมาะสม และสุดท้ายกับการแบ่งพื้นที่ให้คนเดินเท้า หากสิ่งนี้เราทำได้เชื่อเหลือเกินครับว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่คนข้าม “ทางม้าลาย” แล้วปลอดภัยตามแบบฉบับสากลอย่างแน่นอน…