NETA V รถพลังงานไฟฟ้า รูปแบบ ECO Electric
เปิดยอดจองอย่างถล่มทลายสำหรับ NETA V รถไฟฟ้าขนาดเล็กในรูปแบบรูปแบบ ECO Electric ด้วยฟังชั่นการใช้งานที่ไม่วุ่นวาย และแบตเตอรี่ที่สามารถขับเคลื่อนได้ถึง 384 กิโลเมตร ทำให้ NETA V คือรถไฟฟ้าที่เหมาะกับมือใหม่ที่เริ่มอยากใช้รถไฟฟ้า หรือ คนที่อยากลองปรับเปลี่ยนจากการใช้รถน้ำมันมาเป็นไฟฟ้าเพื่อให้เข้าใจการใช้รถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง NETA V จะมีจุดเด่นอะไรบ้างมาติดตามกัน
ทำไมถึงเป็น ECO Electric
ด้วยการออกแบบในสไตล์ซับคอมแพกต์ 5 ที่นั่ง ที่มีขนาดไม่หนีรถ ECO CAR มากนัก มีความคล่องตัวในการใช้งานในเมืองค่อนข้างสูง ขับง่าย หาที่จอดรถสะดวก ด้วยมิติตัวถังที่ยาวเพียง 4,070 มม. กว้าง 1,690 มม. สูง 1,540 มม. ฐานล้อยาว 2,420 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 130 มม. และยังสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บของด้านท้ายจาก 335 ลิตร เพิ่มเป็น 552 ลิตร โดยการพับเบาะหลังเมื่อต้องใส่ของขนาดใหญ่ ซึ่งตรงกับสไตล์คนใช้รถในเมืองที่ไม่ขับไปไกลมากนัก
แบตเตอรี่ 38.5 กิโลวัตต์ วิ่งไกลถึง 384 กิโลเมตร
ในการเดินทางในชีวิตประจำวัน NETA V ถือว่าตอบโจทย์ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให้กำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่า 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 40.7 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางการวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตร/ชาร์จเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC และยังมีระบบ Regenerative Systems ช่วยให้รถได้รับพลังงานกลับคืนในทุกครั้งเมื่อชะลอรถหรือเบรกระบบการจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่ (HEPT 3.0) พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (Liquid Cooling System) ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบการชาร์จไฟ
รองรับ Normal Charge (AC) แบบ Type 2 รองรับสูงสุด 6.6 kW
รองรับ Quick Charge (DC) แบบ CCS รองรับสูงสุด 45 kW
ชาร์จแบบ Normal Charge ผ่าน NETA Wall Box ใช้เวลา 0% – 100% ประมาณ 8 ชั่วโมง
ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ผ่านตู้ชาร์จสาธารณะใช้เวลา 30% – 80% ประมาณ 30 นาที
ระบบ V2L (Vehicle to Load) จ่ายไฟจากรถให้อุปกรณ์ภายนอก สูงสุด 3.3 kW
ดีไซน์ภายในล้ำสมัย ใช้งานง่าย
จุดเด่นภายในของ NETA V คงหนีไม่พ้นจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตัว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน ทั้งระบบ iOS และ Android แถมยังเชื่อมต่อระบบ Bluetooth แบบไร้สาย นอกจากนี้ยังเป็นชุดความคุมฟังชั่นต่างๆ ของรถอีกด้วย อาทิ ระบบปรับอากาศ การตั้งค่าหน้าจอเรือนไมล์ขนาด 12 นิ้ว รวมถึงระบบไฟต่างๆ ของรถอีกด้วย นอกจากนี้ NETA V ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์
ส่วนระบบความปลอดภัยใน Neta V จะมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า, เบรก ABS, กล้องมองหลัง, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบเตือนแรงดันลมยาง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ รวมถึงจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX เป็นต้น
สำหรับใครที่กำลังมองหารถไฟฟ้าเพื่อใช้งานในเมือง หรือ ต้องการเรียนรู้การใช้รถไฟฟ้า NETA V นับว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยฐานราคาที่ไม่สูงมากนัก (ใกล้เคียงรถ ECO CAR ) และการใช้งานที่ไม่วุ่นวายมาก ทำให้เหมาะกับการเอามาลองขับเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรู้จักรถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
และเป็นรถยนต์ที่ประหยัดพลังงาน มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ถูกมากๆ ไม่ถึง 1 บาทต่อกิโลเมตร ด้านการดูแลรักษาทำด้วยตัวเองได้ง่าย ส่วนออปชั่นด้านความปลอดภัยก็ใส่มาครบ และยังมาพร้อมกับระบบบล็อกความเร็วด้วย นอกจากนี้ด้านความอเนกประสงค์ก็ถือว่าโอเคเลยสำหรับรถยนต์ราคานี้ และที่สำคัญที่สุดเราสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าออกสู่ภายนอกได้ด้วยโหมด V2L ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของ NETA V เลย
แต่หากคุณเป็นคนที่ต้องขับรถเดินทางไกล และต้องทำเวลา จำเป็นต้องเผื่อเวลาสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ด้วย เพราะจะใช้เวลาการชาร์จราว 30 นาที จึงจะเพียงพอต่อการขับขี่ต่อราวๆ 200 กิโลเมตร แต่ถ้าเน้นใช้งานในเมือง ก็ถือว่าสบายหายห่วงเลยครับ
