รีวิวรถ

“มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่” รุ่นปี 2016

“มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่” รุ่นปี 2016 มาพร้อมแนวคิด “ให้คุณมากกว่าที่คิด” ด้วย 3 คุณสมบัติหลัก ; “Stylish” – โดดเด่นด้วยการออกแบบภายนอกและภายในใหม่ตามแนวคิด “Spicy Small” และเพิ่มสีมาตรฐานใหม่ 3 สี คือ สีแดง (Red Wine) สีส้ม (Sunrise Orange) และ สีเทาไทเทเนียม (Titanium Grey); “Smart Safety” – ครบครันด้วยระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถอีโค คาร์ ; และ Saving” –ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1 เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน (ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน) และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง 98 กรัม ต่อกิโลเมตร*2

 

Stylish”…ให้มากกว่าความโดดเด่น

การออกแบบภายนอก…ให้มากกว่าความโดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่สปอร์ตกว่า

  • มิตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ รุ่นปี 2016 มาพร้อมการออกแบบด้านหน้าใหม่เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ทั้งกระโปรงหน้า กระจังหน้า และกันชนหน้า-หลัง ด้านล่างกระจังหน้าตกแต่งแบบโครเมียม รวมทั้งไฟท้ายแบบ LED พร้อมแผ่นสะท้อนแสงบริเวณกันชนท้ายเพิ่มความสวยงามล้ำสมัยและมองเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์ Bi-XENON HID และไฟหรี่แบบสเปคตรัม LED (Spectrum LED Position Lamps)   ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
  • ไฟตัดหมอกหน้า (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
  • สปอยเลอร์หลังออกแบบใหม่ที่ช่วยให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้นตามหลักอากาศพลศาสตร์และช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ปรับพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX)
  • ล้ออัลลอยด์ลายใหม่แบบทูโทนขนาด 15 นิ้ว (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
  • ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วย 6 สีสันที่หลากหลาย โดยมี 3 สีมาตรฐานใหม่
    • (1) สีแดง (Wine Red) (สีมาตรฐานใหม่)

(2) สีส้ม (Sunrise Orange)       (สีมาตรฐานใหม่)

(3) สีเทา (Titanium Gray)         (สีมาตรฐานใหม่)

(4) สีฟ้า (Cerulean Blue Mica)

(5) สีขาวมุก (White Pearl)

(6) สีดำ (Black Mica)

 

การออกแบบภายใน…ให้มากกว่าความสะดวกสบาย

  • ตกแต่งวัสดุภายในโทนสีดำแบบ Piano Black บริเวณแผงคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ และแผงประตู (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX)
  • เบาะผ้าสีดำออกแบบใหม่พร้อมวัสดุหุ้มเบาะลายใหม่และสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยการเย็บด้ายสีเงิน (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
  • เบาะหลังปรับพับแบบ 60:40 (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX)
  • พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน ออกแบบใหม่เพื่อความกระชับมือขึ้นพร้อมการตกแต่งด้วยโครเมี่ยมผสมผสานกับวัสดุสีดำแบบ Piano Black (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS) ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงพร้อมระบบควบคุมการสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มรับสาย-วางสายที่พวงมาลัย(เฉพาะรุ่น GLS และ GLX)
  • มาตรวัดการขับขี่แบบ Semi-High Contrast แบบเรืองแสงตลอดเวลา (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX) พร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมไปถึงการเตือนต่างๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ โดยในรุ่น GLS-LTD สามารถแสดงอุณหภูมิภายนอกรถ

 

Smart Safety”…ให้มากกว่าความมั่นใจ

  • ในรุ่น GLS-LTD และ GLS มีการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่ถือเป็นครั้งแรกในอีโคคาร์
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) (FCM-LS : Forward Collision Mitigation System-Low Speed Range) โดยระบบจะประเมินระยะห่างจากรถยนต์คันหน้าหากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถยนต์คันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว ที่ความเร็วโดยประมาณไม่เกิน 30 กม.ต่อชั่วโมง

 

  • ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) (RMS-FORWARD : Radar Sensing Misacceleration Mitigation System-Forward) โดยระบบจะตรวจจับวัตถุด้านหน้าหากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการเตือนและตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่เบรกรถได้ทันซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชน ที่ความเร็วโดยประมาณไม่เกิน 10 กม.ต่อชั่วโมง โดยมีระยะห่างด้านหน้าโดยประมาณไม่เกิน 4 เมตร
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) ป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ในสภาวะที่รถเสียสมดุล
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System) ป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรกรถบนทางชันและต้องออกตัวอีกครั้ง
  • ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS-Anti Lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD-Electronic Brake Force Distribution) และระบบเสริมแรงเบรก (BA-Brake Assist)
  • ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ (ESS-Emergency Stop Signal System)
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ทุกรุ่น)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและระบบผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง ซึ่งเข็ม

ขัดนิรภัยด้านคนขับ เป็นแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)

  • โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ RISE Body (Reinforced Impact Safety Evolution) ช่วยซับและลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับแรงกระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษHigh Tensile Steel” ช่วยลดการยุบของห้องโดยสารจากการชน
  • เหล็กกันโคลงหน้าช่วยเพิ่มประสิทธภาพการทรงตัวให้ดียิ่งขึ้น (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
  • รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.4 เมตร (เฉพาะรุ่น GLXและ GL) และ4.6 เมตร (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)

 

Saving”…ให้มากกว่าความประหยัด

  • มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ยังคงโดดเด่นในเรื่องการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน (ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน) โดยประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1 นอกจากนี้ยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง 98 กรัม ต่อกิโลเมตร*2 จากการลดทอนแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ลงด้วยการติดตั้งแหวนลูกสูบเคลือบสารคาร์บอนชนิดใหม่ พร้อมโซ่ไทม์มิ่งออกแบบใหม่ รวมทั้งติดตั้งระบบควบคุมอัลเทอเนเตอร์เพื่อลดแรงต้านกรณีแบตเตอรี่เต็ม
  • ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ซึ่งมีทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III*3 CVT พร้อมระบบ INC (Idle Neutral Control) ที่ช่วยควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก และระบบ G-SENSOR ที่ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน
  • มาตรฐานมลพิษ ระดับ 5

1 : จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการตาม Combine Mode ที่ระบุไว้ในข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg.101 Rev. 02 ในรุ่น GLX CVT

2 : จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่วัดตามหลักเกณฑ์ที่ระบุในข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg.101 Rev. 02 ในรุ่น GLX CVT

3 : Intelligent & Innovative Vehicle Electronic Control.

ระบบเอนเตอร์เทนเม้นท์ที่ครบครัน เชื่อมต่อได้ทุกไลฟ์สไตล์

  • ระบบเครื่องเสียง 2 DIN พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว วิทยุ-เครื่องเล่นดีวีดี เอ็มพี 3 บลูทูธ และระบบนำทางในรถยนต์ พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย (เฉพาะรุ่น GLS-LTD)
  • ระบบเครื่องเสียง 2 DIN พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว วิทยุ-เครื่องเล่นดีวีดี เอ็มพี 3 ช่องต่ออุปกรณ์ USB บลูทูธ สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง รวมทั้งปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์ที่พวงมาลัย (เฉพาะรุ่น GLS และ GLX)
  • ลำโพง 4 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX)

 

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน ตอบสนองทุกความต้องการ

  • กุญแจอัจฉริยะ (KOS) พร้อมปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ และระบบกุญแจอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer) (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และ GLS)
  • ช่องต่ออุปกรณ์ USB ในช่องเก็บของบริเวณคอนโซลหน้า (เฉพาะรุ่น GLS-LTD)
  • ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ตะขอสำหรับแขวนของที่เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS และ GLX) ช่องเก็บของบริเวณใต้คอพวงมาลัย คอนโซลกลางและหน้า ที่วางแก้วน้ำบริเวณคอนโซลกลาง 3 ตำแหน่งรวมทั้งช่องเก็บของข้างประตูคู่หน้าพร้อมช่องใส่ขวดน้ำ
  • กล่องเก็บของท้ายรถพร้อมฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่างห้องสัมภาระ

 

สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยกับระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยตามแบบฉบับของมิตซูบิชิ ETACS (Electronic Time & Alarm Control System)

  • ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อก ซึ่งจะทำงาน เมื่อผู้ใช้กดปุ่มปลดล็อคที่รีโมทและสวิตช์ชุดไฟหน้าอยู่ในตำแหน่ง OFF โดยไฟหรี่และไฟท้ายจะสว่างขึ้นเป็นเวลา 30 วินาที ช่วยให้การหารถในที่มืดได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์ เมื่อหมุนสวิตช์ชุดไฟหน้าไปที่ตำแหน่ง OFF ดึงก้านไฟเลี้ยวเข้าหาตัว ไฟหน้าใหญ่จะทำงานเป็นเวลา 30 วินาที
  • ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับเปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดหยุดเมื่อรถถึงความเร็วเกิน 60 กิโลเมตร/ชม. ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดเป็นจังหวะเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชม.
  • ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้า หลังจากดับเครื่องยนต์กระจกไฟฟ้าจะยังสามารถเปิด-ปิดได้ต่อไป อีก 30 วินาที
  • ระบบตัดการทำงานไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบจะตัดการทำงานของไฟหน้ารถโดยอัตโนมัติหลังจากดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตู ช่วยประหยัดไฟในแบตเตอรี่
  • ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน เพียงขยับก้านไฟเลี้ยวเพียงเล็กน้อยสัญญาณไฟเลี้ยวและสัญญาณไฟเตือนในหน้าปัดจะกระพริบ 3 ครั้ง
  • สัญญาณเสียงเตือนเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท
  • ระบบล็อคประตูซ้ำอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยระบบจะสั่งล็อคประตูทุกบานโดยอัตโนมัติหากไม่มีการ เปิดประตูภายใน 30 วินาที หลังจากกดปุ่มปลดล็อคประตู

 

 

 

 

 

 

รุ่นรถและราคา

รุ่นรถ

ราคา (บาท)

(1) GLS -LTD เกียร์อัตโนมัติ 567,000
(2) GLS เกียร์อัตโนมัติ 539,000
(3)

 

GLX เกียร์อัตโนมัติ 473,000
เกียร์ธรรมดา 439,000
(4) GL เกียร์ธรรมดา 383,000

* ราคาเพิ่ม 5,000 บาทสำหรับสีขาวมุก ไวท์เพิร์ล (White Pearl)

 

###

Most Popular

To Top