ฉีกหนีจากรูปลักษณ์เก่าๆ ออกไปอย่างสิ้นเชิง กับการออกแบบทั้งภายนอกและภายในที่ต้องบอกว่า ดูดีขึ้นและหรูขึ้น สามารถสะกดทุกสายตาที่คุ้นเคยกับความเป็น Innova ให้เหลียวมองด้วยความสนเท่ห์ไม่น้อยทีเดียว กับเจ้า Innova Crysta คันนี้
เพียงแค่ได้ฟังคอนเซ็ปต์การออกแบบในสไตล์ Living room like ความรู้สึกผ่อนคลายเสมือนนั่งอยู่ในบ้าน ก็ทำเอาทึ่งกับแนวคิดนี้แล้ว ด้วยความที่เป็น MPV ที่ดูโดดเด่น หรูแตกต่างไปจากรถ MPV ที่มีในตลาดบ้านเรา ความกว้างขวางภายในห้องโดยสารถือเป็นจุดเด่นรวมไปถึงจุดขายที่สามารถบอกให้กับลูกค้าได้อย่างไม่ต้องอายใคร
ในความหรูหราสง่างามของความเป็นรถ MPV ก่อเกิดจากปัจจัยหลักๆ ด้วยกัน 4 อย่าง โดยเริ่มจาก
INFINITE Exterior and Interior Design สุนทรียภาพแห่งดีไซน์ กับภาพลักษณ์ที่เหนือคำนิยาม บนความสมบูรณ์แบบที่เหนือจินตนาการ กับรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์กับเส้นสายที่ดูพริ้วไหวทั้งภายนอกและภายใน ดูได้จากชุดกระจังหน้าแบบโครเมี่ยมพร้อมสเกิร์ต ขนาบข้างซ้าย/ขวาด้วยชุดโคมไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมไฟ Daytime Running Light โดยมีไฟตัดหมอกที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างสะดวกสบายยามฝนตกหรือหมอกลงจัด ในส่วนของไฟท้ายออกแบบได้เรียบหรูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สว่างสดใสมองเห็นได้แต่ไกล กระจกมองข้างมาพร้อมไฟเลี้ยวและยังมีไฟ Welcome Light ช่วยให้ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารยามค่ำคืน เติมความหรูด้วยที่จับประตูแบบโครเมียม และอำนวยความสะดวกกับระบบช่วยปิดประตูท้าย สปอยเลอร์หลังมาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารต้องบอกกันเลยว่า เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมอย่างมาก ดูหรูหราและที่สำคัญเต็มไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ต้องบอกว่าสุดล้ำ ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเป็นแบบซ่อนผ้า Premium illumination LED แผงควบคุมไฟในห้องโดยสารและเครื่องปรับอากาศเป็นแบบแยกส่วน พวงมาลัยกระชับควบคุมได้แม่นยำมาพร้อมปุ่มควบคุมสั่งการทุกระบบ มาตรวัดอ่านง่ายชัดเจนด้วยมาตรวัดแบบเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID โดยมีหน้าจอสีแบบ TFT ช่วยให้การเปิดปิดประตูสะดวกสบายด้วยระบบ Smart Entry กับกุญแจ Smart Key
เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat ที่มาพร้อมที่พักแขน ในขณะที่ด้านหนังของเบาะนั่งคู่หน้าจะมีโต๊ะแบบพับมาให้ Seat Back Table ในส่วนของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกยามขับขี่นั้น มีให้ตั้งแต่ระบบ Push Start ระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control ระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ภายในห้องโดยสารมีจอภาพขนาด 8 นิ้วแบบสัมผัสรองรับระบบ T-Connect สามารถเล่นได้ทั้ง DVD และระบบนำทาง Navigator มาพร้อมช่องต่อ USB ที่สามารถเชื่อมต่อความบันเทิงแบบเต็มรูปแบบ
INFINITE Convenience เป็นสิ่งที่สามารถให้คำตอบกับทุกความต้องการในไลฟ์สไตล์ที่เหนือกว่า ด้วยการออกแบบห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง เบาะนั่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างอิสระลงตัว พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ เบาะนั่งคนขับเป็นแบบไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทาง ในส่วนของเบาะนั่งสามารถปรับได้ทั้งแบบ Privy Relaxed , Long Space , Rear Space รวมถึงระบบปรับเลื่อนที่นั่งด้านหน้า Easy Slide Front ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 โดดเด่นด้วยระบบปรับพับเบาะจังหวะเดียว One Touch Tumble มีช่องเก็บของแบบ Cool Box
INFINITE Power เครื่องยนต์สำหรับรุ่นนี้เป็นแบบดีเซล 2.8 ลิตร GD EFFICIENT BOOST ตอบสนองต่อการขับขี่ได้เป็นอย่างดีด้วยกำลังสูงสุด 174 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที ในขณะทีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 360 นิวตัน-เมตรที่ 1,200-3,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อม Sequential Shift และสามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ด้วย Drive Mode Switch หากต้องการความประหยัดก็เลือกใช้ Eco Mode และหากต้องการกำลังเต็มสมรรถนะก็เลือกใช้ Power Mode
สุดท้ายแล้ว INFINITE Safety ให้ความมั่นใจยามขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานไม่ว่าจะเป็นในส่วนของโครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ที่เลือกใช้เหล็กกล้าแรงดึงสูงที่ให้ประสิทธิภาพในเรื่องของการดูดซับ และกระจายแรงกระแทกจากการชน ระบบเบรก ABS ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Assist Control ที่ป้องกันการไหลตัวของรถขณะออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบ TRC กล้องมองหลังพร้อมฟังก์ชั่นการมองเห็นปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ ระบบถุงลมนิรภัย7 จุด
มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นและ 4 สีให้เลือก White Pearl Crystal/Super White II/Silver Metalic/Attitude Black โดยจำหน่ายในราคา รุ่น 2.8 V เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,399,000 บาท รุ่น 2.8 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,235,000 บาท และรุ่น 2.0 E เกียร์ธรรมดา ราคา 1,129,000 บาท