เจ้าไฮเปอร์–คาร์ คันนี้ ถูกสร้างขึ้นมาจากการร่างแบบบนกระดาษเปล่า Gumpert Apollo Intensa Emozione ที่จะแสดงให้เห็นถึงการกลับมาไปสู่รูปแบบของพญาอินทรีที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุดในบรรดารถไฮเปอร์–คาร์ และนั่นคือ จุดเริ่มต้นของบทต่อไปของอพอลโล รถไฮเปอร์ ที่จะแสดงให้เห็นถึงรสนิยมของแบรนด์นี้
บริบทแรกของการสร้างเจ้าไฮเปอร์คาร์คันนี้ ทางทีมงานของอพอลโลมุ่งมั่นที่จะสร้างรถที่มีน้ำหนักเบามีความกลมกลืนและสัมพันธภาพกับหลักอากาศพลศาสตร์ แต่ไม่ละทิ้งในเรื่องของระบบเทคโนโลยีที่จะทำให้เกิดความเจือจางทางอารมณ์ใดๆ ในระหว่างที่ดำเนินการตามเป้าหมาย ทีมงานของอพอลโลได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจรวมทั้งหยาดเหงื่อและน้ำตา ที่เต็มไปด้วยความยากลำบากสำหรับเจ้าไฮเปอร์คาร์คันนี้
IE จะเป็นยนตรกรรมที่สุดยอดที่ผ่านการผสมผสานที่ทรงประสิทธิภาพของหลักอากาศพลศาสตร์และแมคคานิกส์ของรถแข่ง GT1/GT3/LMP ที่ทันสมัยพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ที่ให้พละกำลังสูง รถคันนี้มีความเป็นเอกภาพในแบบรถรุ่นใหม่ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและโดดเด่นสะดุดตาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์
และนี่คือรถที่รวบรวมเอาอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่ห่างหายไปและจิตวิญญาณที่จางหายไปของรถยนต์ให้ฟื้นคืนชีพด้วยการฟูมฟักอย่างทะนุถนอม
อาจจะกล่าวได้ว่า รถคันนี้มีจิตวิญญาณในตัวตนของมันเอง เป็นรถที่ให้การขับขี่ด้วยความทันสมัย แฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่บริสุทธิ์ไร้ซึ่งความสัมผัสที่ดูปราดเปรียว และมันคือ รถที่พร้อมมุ่งทะยานไปเบื้องหน้าด้วยจิตวิญญาณและอารมณ์ที่พุ่งพล่าน มันคือ Apollo Intensa Emozione (Apollo IE) และแน่นอนว่า คำสองคำนี้บ่งบอกถึงอารมณ์ที่รุนแรง
ในการออกแบบ IE ภายใต้บริบทใหม่ที่ต้องการความโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดอันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ ด้วยการผลักดันในเรื่องขอบเขตของการออกแบบวิศวกรรมและการใช้งานที่หลากหลายของวัสดุที่แปลกใหม่ ในส่วนโครงสร้างถูกออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมสะท้อนให้เห็นแรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่ และความน่าเกรงขามเฉกเช่นฉลาม หรือ แรพเตอร์
รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบที่บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวและการไหลของอากาศ จากแนวคิดที่มีการทำเจาะช่องและการจัดการอากาศรอบๆ ที่ไหลเวียนผ่านลำตัวของรถที่ออกแบบมาได้อย่างต่อเนื่องที่แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของพื้นผิวและความต่อเนื่องที่น่าทึ่งของเส้นสายบนลำตัวรถ
รูปทรงหยดน้ำที่ออกแบบมาได้อย่างสมดุล ช่วยให้การลื่นไหลของอากาศที่เข้ามาปะทะผ่านซุ้มโป่งล้อ ผนวกกับโครงสร้างด้านหลังรวมถึงปีกที่เป็นสปอยเลอร์หลังผ่านการออกแบบมาเพื่อให้เกิดความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดได้มากถึง 1,350 กิโลกรัม
วัสดุทุกชิ้นส่วนที่นำมาเป็นองค์ประกอบสำคัญของ IE ได้รับการออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำงานที่มีลักษณะรุนแรง องค์ประกอบที่โดดเด่นเช่น ในส่วนของสปอยเลอร์ด้านหน้าที่ออกแบบมาทรงครีบฉลามด้านข้างที่ให้ความโดดเด่น ท่อไอเสียทรงสามง่ามเหล่านี้ล้วนทำให้เป็นที่รู้จักในทันทีว่า นี่คือ อพอลโล
เมื่อครั้งเริ่มต้นโครงการนี้ พวกเค้ารู้ว่าต้องการอะไรโดยยังคงยึดหลักความเป็นจริงไว้ พวกเค้าต้องการแชสซีที่ทันสมัยสำหรับยุคหน้า การเลือกใช้วัสดุเทคโนโลยีและวัสดุคอมโพสิตที่ทันสมัย ทำให้พวกเค้าสามารถสร้างโครงร่างด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมดที่มีความทันสมัยเพื่อให้มีความแข็งแรงและมีสมรรถนะสูงสุดในการบิดตัว และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพจากโครงร่างบนน้ำหนักที่เบา
โครงสร้างตัวถังใช่ว่าจะประกอบไปด้วยคาร์บอนโมโนค็อกแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงคาร์บอนไฟเบอร์ในด้านหน้าและด้านหลังอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พวกเค้าสามารถสร้างพื้นผิวและองค์ประกอบที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งในทางกลับกันก็มีความผลในเชิงบวกกับประสิทธิภาพของอากาศพลศาสตร์ด้วย และแน่นอนว่าเมื่อรวมน้ำหนักในส่วนนี้แล้วจะมีน้ำหนักเพียง 105 กิโลกรัมเท่านั้น
ในเรื่องของความปลอดภัยยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด และแน่นอนว่าพวกเค้าเลือกใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีคุณสมบัติพิเศษซึ่งจนถึงทุกวันนี้ยังคงได้รับการยอมรับในวงการมอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะฟอร์มูล่า-1
และเพื่อหยุดยั้งอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของเจ้า IB คันนี้ พาร์ทเนอร์ของอพอลโลอย่างเบรมโบ ได้ดำเนินการให้เป็นอย่างดีในการจัดชุดเบรกตัวท้อปสุดของรุ่นมาให้ ด้วยระบบคาร์บอนเซรามิครุ่นใหม่ของ Brembo ที่มีขนาด 380×34 มม.พร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 6 สูบในส่วนด้านหน้า และขนาด 380×34 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 4 สูบในส่วนด้านหลัง ส่วนยางนั้นมิชลินจัดให้
ระบบช่วงล่างของ IE มีคุณสมบัติเฉกเช่นรถฟอร์มูล่า วัน ที่เกิดจากแรงบันดาลใจ โดยเป็นแบบปีกนกพร้อมร็อคเกอร์อาร์มทั้งหน้าและหลังพร้อมเหล็กกันโคลงของ Bilstein ซึ่งมีโหมดให้ปรับได้ 3 แบบคือ Comfort,SportและAuto
การพัฒนาระบบกันสะเทือนถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้สมรรถนะสูงสุด แต่ยังมีระดับการปรับแต่งเพื่อให้การขับขี่ง่ายขึ้น สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระดับความสะดวกสบายและทรงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มรูปแบบด้วยการปรับเปลี่ยนระบบลดแรงกระแทกแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยปลายนิ้ว และการใช้งานจริงของระบบยกตัวแบบไฮดรอลิก ที่สามารถเพิ่มความสูงได้ถึง 50 มม. ทั้งด้านหน้าและด้านหลังในช่วงความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ทั้งหมดนี้ถือเป็นความสำเร็จของระบบการยกแบบ Pneumatic quick-lift พร้อมด้วยแอร์แจ๊คขนาด 4 ช่อง เพื่อความสะดวกเวลาเข้าพิท
ไม่มีเทอร์โบ ไม่มีระบบไฮบริด แต่มันเป็นความสมดุลที่เหมาะสมจากของเก่าและของใหม่ แหล่งกำเนิดที่มาของอารมณ์ที่รุนแรงมาจากเครื่องยนต์ขนาด 6,300 ซีซี. V12 ให้แรงม้ามากถึง 780 ตัว และแรงบิดสูงสุด 760 นิวตัน–เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ซีเควลเชียล 6 สปีด กระปุกเกียร์ทำงานโดยใช้จอยสติ๊กแบบไฟฟ้า–นิวเมติก และปรับเปลี่ยนเกียร์แบบแพดเดิลชิพที่พวงมาลัย
