รีวิวรถ

Maserati ประเทศไทย เปิดตัว Quattroporte ใหม่ สปอร์ตซีดานรุ่นใหญ่ เพิ่มเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมความเร้าใจที่มากขึ้น

มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ เป็นหนึ่งในรถซีดานหรูที่มีสมรรถนะดีสุดในโลก เปิดตัวครั้งแรกช่วงปี 1963 เด่นด้วยการใช้เครื่องยนต์จากรถแข่ง ผสานดีไซน์เฉียบคมสไตล์อิตาเลียน ได้รับความไว้วางใจจากประธานาธิบดีของอิตาลี ใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง ปัจจุบันทำตลาดทั่วโลกเป็นเจเนอเรชั่นที่ 6

ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย เผยว่า “ปีที่ผ่านมา เราได้การตอบรับจากลูกค้าเพิ่มต่อเนื่อง ทั้งยอดขายรถใหม่และจำนวนรถที่มาเข้ารับบริการ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นอีกช่วงเวลาพิเศษ ที่จะได้เปิดตัว ‘ควอดโตรปอร์เต้ ใหม่’ สปอร์ตซีดานรุ่นเรือธง ที่พกความหรูหรามาเต็มพิกัด เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจ”

มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ ปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ รูปลักษณ์สะดุดตา ด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว เน้นเหลี่ยมสัน สะท้อนความบึกบึนและสง่างาม ไฟหน้าอะแด๊บทีฟ เมทริกซ์ แอลอีดี ดีไซน์ใหม่ให้ดูเฉียบคมขึ้น ตัวถังลดน้ำหนักด้วยการใช้อะลูมิเนียมและแมกนีเซียมเป็นวัสดุ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์กับประตูแบบไร้ขอบหน้าต่างทั้ง 4 บาน (Frameless Doors) ให้มุมมองสปอร์ตแบบรถคูเป้ อีกทั้งยังมีการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังดีเยี่ยม 50:50 เช่นเดียวกับซูเปอร์คาร์

มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ เป็นหนึ่งในซีดานหรูที่เร็วสุดในโลก กับท็อปสปีด 310 กม./ชม. มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งดีเซลเทอร์โบ และเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ โดยเครื่องยนต์เบนซินทั้ง วี6 สูบ ทวินเทอร์โบ และ วี8 สูบ ทวินเทอร์โบ ประกอบที่โรงงานในเมือง มาราเนลโล เช่นเดียวกับเฟอร์รารี่ ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง ผ่านเกียร์ ZF 8 จังหวะ ที่สามารถตอบสนองทุกรูปสไตล์การขับ ด้วยโหมดอันหลากหลาย เช่น Auto Normal, Auto Sport, Manual Normal, Manual Sport และ I.C.E. (เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมบนถนนลื่นและช่วยประหยัดเชื้อเพลิง) โดยผู้ขับสามารถเลือกโหมดต่างๆ ผ่านปุ่มควบคุมบริเวณคันเกียร์ นอกจากนั้นก็มีอีกจุดเด่น คือ ‘Maserati Active Sound’ หรือเสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์ ที่มีให้สัมผัสทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เมื่อผู้ขับกดปุ่ม Sport วาล์วที่อยู่ในท่อไอเสียก็เปิด ส่งผลให้เสียงท่อดังกระหึ่ม

ห้องโดยสารเป็นการผสมผสานความหรูหราระดับพรีเมียมและความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว โดยเฉพาะการเลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็น หนังแท้เกรดพรีเมียมจากอิตาลี ไม้เนื้อดี หรือกระทั่ง ‘คาร์บอนไฟเบอร์’ ซึ่งเป็นวัสดุน้ำหนักเบาที่นิยมใช้กับรถแข่ง ยิ่งไปกว่านั้น มาเซราติ ก็เป็นรถแบรนด์เดียวที่ร่วมมือกับ ‘แอร์เมเนจิลโด เซนญา’ (Ermenegildo Zegna) แฟชั่นเฮาส์ระดับตำนาน รังสรรค์การตกแต่งภายในห้องโดยสาร ด้วยผ้าไหมสุดหรูที่ผ่านการยอมรับว่ามีคุณภาพดีสุดในโลก (Zegna Silk) ครบถ้วนคุณสมบัติ ทั้งความสวยงาม ความทนทาน และการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม ซึ่งรายละเอียดการตกแต่ง เปรียบเสมือนงานฝีมือสุดประณีต (Craftsmanship) โดยมี 2 สไตล์การตกแต่งให้เลือก คือ กรันลุซโซ (หรูหรา) และ กรันสปอร์ต (สปอร์ต)

มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ ติดตั้งช่วงล่าง Skyhook Adaptive Damping แปรผันความหนืดโช้กอัพอัตโนมัติ รองรับการขับทุกรูปแบบ พร้อมปรับการตอบสนองให้เหมาะกับสภาพเส้นทาง เพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนน ขณะที่ยังคงความนุ่มสบายตลอดการเดินทาง

มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ เจเนอเรชั่น 6 แบ่งเป็น 4 รุ่นหลัก:

ควอตโตรปอร์เต้ จีทีเอส เครื่องยนต์เบนซิน วี8 สูบ 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม.

ควอตโตรปอร์เต้ เอส เครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 430 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 580 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 288 กม./ชม.

ควอตโตรปอร์เต้ เครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 350 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 270 กม./ชม.

ควอตโตรปอร์เต้ ดีเซล เครื่องยนต์ดีเซล วี6 สูบ เทอร์โบ 275 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 252 กม./ชม.

มาเซราติ ประเทศไทย นำ ควอตโตรปอร์เต้ ใหม่ มาทำตลาด 5 รุ่นย่อย:

ควอตโตรปอร์เต้ ดีเซล กรันลุซโซ     ราคารวม PMP แพ็กเกจ 10,490,000

ควอตโตรปอร์เต้ กรันลุซโซ             ราคารวม PMP แพ็กเกจ 11,990,000

ควอตโตรปอร์เต้ เอส กรันลุซโซ       ราคารวม PMP แพ็กเกจ 13,990,000

ควอตโตรปอร์เต้ เอส กรันสปอร์ต      ราคารวม PMP แพ็กเกจ 14,990,000

ควอตโตรปอร์เต้ จีทีเอส กรันสปอร์ต  ราคารวม PMP แพ็กเกจ 18,890,000

* PMP – Premium Maintenance Program

Most Popular

To Top