สดๆ ร้อนๆ จากเวทีเจนีวาอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ กับMazda CX-30 ที่ถือเป็นรุ่นที่สองในไลน์อัพรุ่นใหม่ของค่ายมาสด้าในแบบฉบับ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ห่อหุ้มประสบการณ์การเป็นเจ้าของของมาสด้าด้วยการผสมผสานสไตล์ Kodo ที่หรูหราไม่ซ้ำใครเข้ากับการออกแบบภายในที่เน้นมนุษย์เป็นหลักและ Jinba Ittai ที่สร้างความพึงพอใจให้กับคุณภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน
มาสด้า CX-30 เข้าสู่ตลาดใหม่สำหรับมาสด้าด้วยความยาว 4,395 มม. กว้าง 1,795 มม. สูง 1,540 มม. และฐานล้อ 2,655 มม. ตั้งอยู่ระหว่าง CX-3 และ CX-5 ที่ได้รับการยอมรับมายาวนานและได้รับความนิยมตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการรวมขนาดกะทัดรัดเป็นมิตรกับเมืองของอดีตกับพื้นที่และการใช้งานจริง
การออกแบบภายในที่ยังคงเน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง ผสมผสานไปกับพื้นที่ภายในสไตล์ห้องนักบิน ห้องโดยสารที่สะอาดโปร่งโล่งและดูสบายสำหรับผู้โดยสาร ผนวกกับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่ ระบบเสียงBose® 12 ลำโพงได้รับการผสานรวมกับวัสดุระดับพรีเมี่ยมเพื่อสร้างบรรยากาศภายในที่มีคุณภาพสูงและการปรับแต่งอย่างแท้จริง
SUV ขนาดกะทัดรัดใหม่มีสถาปัตยกรรม Skyactiv-Vehicle รุ่นใหม่ของมาสด้า ช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเช่นระบบ i-Activ all-wheel-drive (AWD) ที่ได้รับการพัฒนาซึ่งทำงานร่วมกับ G-Vectoring Control (GVC) เพื่อควบคุมการกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง
Mazda CX-30 ใหม่เป็นรูปแบบการผลิตที่สองที่ใช้วิวัฒนาการล่าสุดของปรัชญาการออกแบบ Kodo การสร้างเสริมองค์ประกอบทุกอย่างตามหลักการ ‘less is more’ ด้วยโครงสร้างที่สวยงามอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและนำรูปแบบดั้งเดิมมาสู่รถ SUV แบบครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัด
ระบบส่งกำลังของ มาสด้า CX-30 เป็นแบบ powertrain line-up รุ่นใหม่นำเสนอเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน Skyactiv Euro 6d-TEMP ล่าสุดรวมถึงเทคโนโลยี Spark Plug Controlled Compression Ignition (SPCCI) ของ บริษัท SPCCI adopts ผ่านกรรมวิธีการเผาไหม้ที่ไม่ซ้ำกันเพื่อรวมประสิทธิภาพการหมุนรอบฟรีของเครื่องยนต์เบนซินกับการตอบสนองที่เหนือกว่าของดีเซล
เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv ทั้งหมดได้รับการติดตั้งระบบ M-Hybrid ใหม่ของมาสด้าซึ่งมีเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ขนาดกะทัดรัดและมีประสิทธิภาพ ระบบM-Hybrid นี้มีมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 24V 600kJ ติดตั้งอยู่ระหว่างล้อ
ระบบ M-Hybrid ไม่เพียง แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของ Mazda CX-30 เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่อีกด้วย เมื่อรถเริ่มเร่งหรือหยุดรถช่วงการเปลี่ยนระบบจะราบรื่นและเป็นธรรมชาติ โดยการแทนที่แรงบิดของเครื่องยนต์สำหรับแรงบิดของมอเตอร์ระบบไฮบริดสามารถให้อัตราเร่งเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินเพียงอย่างเดียวในขณะที่ใช้เชื้อเพลิงน้อยลง
