1.เปิดที่ปัดน้ำฝนระดับปานกลาง เมื่อฝนเริ่มตก ที่ปัดน้ำฝน เป็นอุปกรณ์แรกๆที่เราควรเปิดใช้งานควรเริ่มจากระดับกลางก่อนแล้วปรับความหน่วงตามระดับของฝนอีกที
2.เปิดไฟหน้ารถทันที เพื่อให้ไฟท้ายของรถเราทำงาน ให้รถคันที่ขับตามเรามามองเห็นท้ายรถเราและกะระยะให้ห่างจากตัวรถเราได้ ที่สำคัญการเปิดไฟหน้ารถตอนขับรถหน้าฝนทำให้เรามองเห็นทางได้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าฝนตกหนักมากบางครั้งเราควรเปิดไฟสูงเพื่อเพิ่มระยะในการมองเห็นให้มากยิ่งขึ้น และถ้าฝนตกหนักมากจริงๆ จนมองไม่เห็นทางแนะนำให้หาที่จอดรถที่ปลอดภัยข้างทางก่อน รอจนฝนซาแล้วค่อยเดินทางต่อ
3.ลดความเร็วลงและเว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มระยะการเบรคให้มากขึ้นจากถนนเปียกลื่น การขับรถหน้าฝนควรอย่างยิ่งที่เราจะลดความเร็วจากการขับตอนเวลาปกติ ส่วนความเร็วควรจะเป็ฯเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมรถของตัวเราเอง ถ้ารถมอร์เตอร์ไซต์ที่เสี่ยงต่อการเสียหลักง่ายกว่ารถเก๋ง ถ้าขี่รถไปเจอฝนตกหนักอยากแนะนำให้หาที่จอดหลบฝนก่อนดีกว่าเพราะทัศนวิสัยของรถเก๋งหรือรถบรรทุกจะน้อยลงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
4.ไม่ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ตอนเราขับรถฝ่าฝนตกหนักไม่ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพราะอาจจะทำให้เวลาที่เราเปิดไฟเลี้ยวรถคันอื่นจะไม่ทราบว่าเราต้องการเลี้ยวด้านไหน และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ารถเสียแทน เปิดแค่ไฟหน้ารถเพียงพอแล้วค่ะ
5.การลดฝ้าที่กระจก สิ่งที่เรามักจะเจอเมื่อขับรถหน้าฝนอีกเรื่องก็คือ ฝ้าขึ้นกระจกหน้าหรือกระจกหลัง ซึ่งก็เกิดจากอุณหภูมิในรถเราร้อนกว่าอากาศภายนอกที่เย็นกว่าที่อาจเกิดจากการที่เราปรับแอร์ให้ร้อนขึ้นหรือบางคนปิดแอร์ขับรถ ให้แก้ไขด้วยการเปิด ปุ่มไล่ฝ้ากระจกหลัง เพื่อลดฝ้าเกาะกระจกและอย่าปิดแอร์ให้ปรับแอร์ให้เย็นขึ้นอีกเล็กน้อยก็ช่วยลดฝ้าได้
วิธีง่ายๆแค่นี้ขับรถหน้าฝนได้สนุกและปลอดภัยอีกด้วยค่ะ