สำหรับใครที่เพิ่งออกรถมารู้หรือไม่ว่ายังมีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยในการดูแลและปกป้องรถของคุณได้ ซึ่งนั่นก็คือการดูแลรักษาเครื่องยนต์ในเบื้องต้นที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองเหมือนกับการต่อประกันชั้น1 แล้วมีเทคนิคอะไรบ้าง ไปดูกัน
1.ตรวขเช็คระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่อง เมื่อเครื่องยนต์เริ่มทำงานก็ต้องเกิดความร้อนขึ้น ระบบหล่อเย็นจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยให้อุณหภูมิของเครื่องยนต์อยู่ในระดับที่พอดี ซึ่งก็ต้องใช้น้ำในระบบหล่อเย็นช่วยในการทำงาน ซึ่งเราจะสามารถเช็คดูได้ในขณะที่เครื่องเย็น ถ้าน้ำอยู่ในระดับต่ำเราก็เติมเข้าไปให้พอดีกับระดับที่เค้ากำหนดมาให้ ส่วนน้ำมันเครื่องจะช่วยในเรื่องการสึกหรอของเครื่องยนต์ก็เช็คได้ด้วยการดูจากก้านตรวจ แต่เอาชัวร์สุดคือเข้าศูนย์เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามมระยะป็นประจำ
2.ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่และระดับน้ำมันเบรค เราควรดูให้อยู่ในตำแหน่งที่กำหนดและอย่าไปเติมให้เกินกว่าจุดที่เค้ากำหนดไว้อย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการรทำงานของแบตเตอรี่ลดลงและอาจจะก่อให้เกิดสาเหตุการรั่วไหลของกรดภายในที่ไปทำลายระบบต่างๆในเครื่องยนต์ได้ และหมั่นตรวจสอบว่าขั้วบวกลบที่ต่อกับแบตเตอรี่และฐานยึดนั้นมีความแน่นหนาดี และต่อมาการตรวจสอบน้ำมันเบรคที่สามารถตรวจดูได้ด้วยการสังเกตดูกระปุกน้ำมันเบรคว่าอยู่ในระดับไหน ถ้าน้อยจนเกินไปก็ควรนำรถเข้าศูนย์บริการ
3.ดูระดับน้ำมันครัทช์และเกียร์ออโต้ น้ำมันครัทช์เราสามารถดูได้ที่กระปุกน้ำมันครัชท์ ที่สำคัญเลยระดับน้ำมันจะต้องอยู่ในระดับขีดสูงสุดเสมอ ถ้าน้อยกว่าควรรีบติดต่อศูนย์หรือสอบถามจากประกันชั้น 1 ที่คุณได้ต่อเอาไว้เพื่อหาศูนย์ซ่อมที่สามารถจัดการได้ และการดูน้ำมันเกียร์ออโต้จะต้องดูในขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่เท่านั้น จากนั้นก็ทำการดึงก้านวัดออกมาเช็ดแล้วนำใส่กลับเข้าไปใหม่ จากนั้นก็ดึงออกมาดู ถ้าระดับน้ำมันเกียร์อยู่ที่ขีดสูงสุดแสดงว่าปกติ
4.ตรวจเช็คสภาพสายพาน ในเบื้องต้นเราอาจสังเกตได้จากเสียงที่ดังผิดปกติภายในห้องเครื่อง อีกวิธีก็คือตรวจสอบว่าสายพานมีรอยแตกหรือไม่ ถ้าพบว่ามีก็ควรเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัย ต่อมาเรื่องของความตึงของสายพานว่าหย่อนเกินไปรึเปล่า วิธีก็ง่ายๆทำโดยการเอานิ้วกดลงที่บริเวณกึ่งกางของสายพาน ถ้ากดลงไปไม่เกิน 10 MM. ก็แสดงว่าอยู่ในระดับที่ยังใช้ได้
5.ตรวจเช็คระดับน้ำมันพาวเวอร์ เราสามารถแบ่งวิธีการดูได้คือ ดูในตอนที่เครื่องยนต์ยังร้อน และในตอนที่เครื่องยนต์เย็น ถ้าเครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ให้ดูด้าน HOT ถ้าเครื่องยนต์อยู่ให้ดูด้าน Cool ซึ่งระดับของน้ำมันพาวเวอร์จะต้องอยู่ในระดับ Full เสมอ
ทริคดีๆวันนี้มีทริคดีๆจากออโต้วาไรตี้มาฝากคนรักรถกันค่ะ
Posted by AutoVariety on Monday, 1 July 2019
