ALL NEW SUBARU FORESTER 2.0i-s
All new Subaru Forester รถยนต์อเนกประสงค์ กับเครื่องยนต์ Boxer ขนาด 1,955 ซีซี เกียร์อัตโนมัติแบบ Lineartronic CVT ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ ALL WHEEL DRIVE ตามแบบฉบับของ Subaru จะขับสนุกและมีความเป็นรถ อเนกประสงค์มากแค่ไหน ? คุ้มค่ากับเงินที่ต้องลงทุนไหม ? มาดูกัน!
ภายนอก Subaru Forester
ภายนอกของ Subaru Forester ในส่วนของภายนอกของ Subaru Forester ในส่วนความรู้สึกของผมการดีไซน์อาจจะดูเหมือนกับโมเดลเดิมไปนิดนึงนะครับถ้าเปรียบเทียบเรื่องของการดีไซน์กับรถในตลาดของเมืองไทยในปัจจุบัน แต่ต้องบอกก่อนว่าเทคโนโลยีของ Subaru Forester ไม่ได้เก่านะครับ ด้านหน้า ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบปรับไฟ สูง-ต่ำ อัตโนมัติ ไฟเดย์ไลท์แบบ LED มีหัวฉีดล้างทำความสะอาดไฟหน้าแบบ POP-UP มีไฟตัดหมอกแบบ LED เพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยที่ดีขึ้น ด้านข้างกระจกมองข้างแบบพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอย 5 ก้าน สีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ไฟท้ายแบบ LED รับกับด้านข้างของตัวรถ พร้อมไฟตัดหมอกด้านหลังแบบ LED กระจกด้านหน้าและหน้าต่างคู่หน้าเป็นกระจกแบบป้องกันรังสี UV ที่ปัดน้ำฝนทำงานอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวกมาลัย อีกด้วย โดยรวมการออกแบบของ Subaru Forester เน้นเรื่องความปลอดภัยของตัวรถและผู้ขับขี่เป็นหลัก และเส้นสายของตัวรถที่ช่วยเพิ่ม ความดุดันและแข็งแกร่ง สื่อออกมาให้เห็นว่ารถคันนี้จะพาคุณไปถึงจุดหมายได้ทุกที่ด้วยความปลอดภัย
ภายใน Subaru Forester
ภายในของ Subaru Forester เน้นการใช้งานที่สะดวกสบายและทัศนวิสัยที่ดี เบาะหนังให้ความรู้สึกโอบกระชับ เวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วรู้สึกมั่นใจตัวผู้ขับขี่ไม่โยนออกจากเบาะนั่ง พวกมาลัยแบบ มัลติฟังชั่น พร้อมแพดเดิ้ลชิป ใช้งานได้สะดวกสบายสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง มาตรวัดแบบ High-grade ระบบแอร์สำหรับผู้โดยสาร หน้า-หลัง พร้อมระบบกรองฝุ่น ระบบความบันเทิงหน้าจอแสดงผลขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง และ กล้องมองภาพด้านหลังลำโพง 6 ตำแหน่ง ใต้คอลโซลหน้า มีช่องเสียบสาย HDMI – AUX – USB คอลโซลกลางมีช่อง USB 2 ช่องสำหรับปล่อยกระแสไฟ ด้านใต้คอนโซลกลางมีช่องปล่อยกระแสไฟขนาด 12 V ด้านการบรรทุกสัมภาระ ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบจดจำความสูงของฝาท้าย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากยื่งขึ้นด้วยการพับเบาะผู้โดยสารตอนหลังเพียงปลายนิ้วสัมผัส พร้อมม่านปิดพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และนี่คือความสะดวกสบายภายในของ Subaru Forester ในเรื่องอของความกว้างขวางก็ถือว่าทำได้ดีครับ ผมตัวสูง 180 เซนติเมตร ไม่ว่าจะตำแหน่งโดยสารหรือขับขี่ก็นั่งได้อย่างสบายๆ
เครื่องยนต์ Boxer ขนาด 1,955 ซีซี ขนาด 4 ลูกสูบ วางนอน ตามแบบฉบับเครื่องยนต์ Boxer ของ Subaru ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ในเรื่องความแรงและอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม เครื่องยนต์ในตัวนี้ให้กำลังแรงม้าสูงถึง 156 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 193 กม/ชม. จากที่ทีมงานได้ทดสอบการขับขี่ ในระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร ต้องบอกว่าเครื่องยนต์ Boxer ของ Subaru Forester ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมาๆ อัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ขับสนุก เร่งแซงได้อย่างมั่นใจมากๆ ไม่รู้สึกถึงการรอรอบเครื่องยนต์เลย ระบบวาล์วแบบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ทั้งฝั่ง ไอดี และ ไอเสีย พร้อมระบบควบคุมการ เปิด-ปิด ของวาล์ว ให้ทำงานผสานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว ทำให้เจ้า Subaru Forester สามารถเค้นพลังออกจากเครื่องยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพ
ระบบเกียร์ เกียร์อัตโนมัติแบบ Lineartronic CVT พร้อม แพดเดิ้ลชิพ ที่ติดตั้งอยู่หลังพวงมาลัย ถือว่าทาง Subaru เซ็ตระบบเกียร์ ให้ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ มาได้เป็นอย่างดีเยี่ยม จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ แบบนุ่มนวล แทบไม่มีช่องว่างระหว่างเกียร์เลย ทำเวลาขับขี่แล้วให้ความรู้สึกที่สนุก เลื่อนไหล ส่งต่อไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อได้เต็มประสิทธิภาพ Subaru Forester สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม/ชม. ในเวลาเพียง 10.9 วินาที ถือว่าทำได้ดีมากๆกับรถที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ พร้อมเกียร์ แพดเดิ้ลชิพ ที่ทำงานได้ไวมากๆ แบบกดปุ๊ปมาปั๊ปเลย และยังสามารถ ชิฟเกียร์ ให้ต่ำลงมาได้ถึงรอบ เรดไลน์ เลยทีเดียว ทำให้เราสามารถขับผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยว หรือ ทางภูเขาที่มีเนิน ขึ้น-ลง ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
ช่วงล่าง Subaru Forester มากับตัวถังที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่ Subaru Global Platform ที่ถูกออกแบบมาให้มี ความแข็งแกร่ง ทนทาน และ มีน้ำหนักเบา มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมสปริงโช๊คอัพและเหล็กกันโครง / ด้านหลังแบบ ดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมโช๊คอัพสปริงและเหล็กกันโคลง ทั้งหมดเป็นช่วงล่างที่ทาง Subaru ได้ปรับแต่ง องศาและตั้งค่าใหม่ทั้งหมด ให้เข้ากับจุดประสงค์ของการใช้งาน Subaru Forester จากการทดสอบในทาง ออนโรด ถนนเรียบ และทางหลวง ก็รู้สึกได้ถึงความสบายที่ทั้ง นิ่มและนิ่ง ในช่วงความเร็วสูง ตัวรถก็ไม่มีอาการโคลงแต่อย่างใด พวกมาลัยที่ทำงานร่วมกับช่วงล่างก็ทำให้ได้เห็นประสิทธิภาพของช่วงล่างที่ดี เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ช่วงเร่งแซงหรือเปลี่ยนเลนส์กระทันหันก็มั่นใจหายห่วง ในทาง ออฟโรด ทุรกันดาร หรือ ภูเขาเนินสูง ก็ทำได้ดีเยี่ยมสามารถลุยผ่านไปได้อย่างง่ายดาย โดยทำงานร่วมกับระบบช่วยเหลือที่เรียกว่า Special X-MODE เงื่อนไขการทำงานของระบบนี้ความเร็วต้องไม่เกิน 40 กม/ชม.
- Snow – Dirt ใช้งานในทางออฟโรด ทางฝุ่น โดยระบบยังมีการทำงานของ Traction Control อยู่ สามารถขับผ่านถนนที่มีอุปสรรค์ เช่น ทางดิน เนินสูง หรือ พื้นถนนที่มีน้ำท้วมขังได้อย่างสบายๆ
- Deep Snow Mud ระบบจะปิด Traction Control ออกทำให้เราใช้งานได้เต็มรูปแบบ ส่วนใหญ่โหมดนี้จะใช้ในทางที่มีความทุรกันดารมากๆ ทางที่เป็นโคลน หรือหลุมลึก ก็สามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดาย
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน Subaru Forester 2.0i-s
- Special X-MODE
- ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ
- ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ SI-DRIVE (ปรับได้ 2 รูปแบบ Intelligent Mode และ Sport Mode)
- ระบบความคุมความเร็วขณะลงเนิน
- ระบบหยุดรถขณะจอดอยู่ยนทางลาดชัน
- ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว ขณะลากจูง
- เบรกมือไฟฟ้า
- ระบบเบรก ABS แบบ 4 sensor พร้อมระบบกระจายแรงเบรก
- ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรก
- ระบบป้องกันคันเร่งค้าง
สรุป Subaru Forester
Subaru Forester 2.0i-s ถือเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีสมรรถนะที่ดีเยี่ยมอีกคันหนึ่งครับ ในเรื่องของอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ใส่มาแบบครบครัน ทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่างที่มีระบบช่วยเหลือแบบดีเยี่ยม จุดเด่นของรถคันนี้เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก ระบบ Special X-MODE ที่ช่วยเสริมเรื่องความปลอดภัย พร้อมจะไปคุณเดินทางได้ทุกสภาพถนน
จุดด้อยคงเป็นเรื่องของการออกแบบภายนอกที่ขัดใจผมไปสักนิดนึง แต่ทั้งนี้แล้วก็ขึ้นอยู่กับความชอบของส่วนบุคคลนะครับ จากบทความข้างต้นคงเป็นส่วนประกอบที่จะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการครอบครอง Subaru Forester
ราคา Subaru Forester
Subaru Forester 2.0 i-L AWD 1,330,000 บาท
Subaru Forester 2.0 i-s AWD 1,380,000 บาท
Subaru Forester 2.0 i-s Eyesight AWD 1,450,000 บาท
Story By: บอล กิตติศักดิ์ ไพศาลธนจิตร
