แค่พกสำเนาใบขับขี่ในรูปแบบดิจิทัล ก็สามารถใช้แทนใบขับขี่ตัวจริงได้ตามกฎหมาย ตามราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12 ) โดยได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ขับขี่ขาดวินัยในการใช้รถใช้ถนน ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร อีกทั้งกฎ-ข้อบังคับต่างๆ นั้นบังคับใช้มาเป็นเวลานานแล้ว จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้สามารถควบคุมและบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ใจความสำคัญของราชกิจจานุเบกษา ใหม่นี้ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องพร้อมแสดง
- ในขณะขับขี่ ผู้ขับต้องมีใบขับขี่อยู่กับตัว พร้อมแสดงให้แก่เจ้าหน้าที่โดยเป็นใบขับขี่ตัวจริง หรือใบขับขี่ดิจิทัล หรือสำเนาภาพถ่ายใบขับขี่ ดังนั้นสำเนาภาพถ่ายใช้ได้ หรือใช้ใบขับขี่ดิจิทัลใช้ได้แล้วนั่นเอง
ซึ่งไม่ว่า จะแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ในรูปแบบของตัวจริง ดิจิทัล หรือ สำเนาภาพถ่าย ก็ถือได้ว่า ผู้ขับขี่มีใบอนุญาตอยู่กับตัวแล้ว
- กรณีทำผิดตามกฎหมายจราจร โดยเป็นความผิดที่มีโทษปรับเพียงอย่างเดียว หรือจำคุกไม่เกิน 2 เดือนและมี โทษปรับ เจ้าหน้าที่สามารถตักเตือน หรือออกในสั่งแทนได้
โดยในการออกใบสั่งนั้น หากพบการกระทำผิด แต่ไม่พบตัวผู้ขับขี่ ให้เจ้าหน้าที่สามารถแปะ-ห้อย-ติดใบสั่งไว้ที่รถได้ โดยถือว่า เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถได้รับใบสั่งแล้ว
- หากผู้ขับขี่ไม่อยู่ในสภาพที่สามารถขับขี่ต่อไปได้ หรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ให้เจ้าหน้าที่สามารถยึดใบขับขี่, ระงับการใช้รถชั่วคราวได้
แต่หากผู้ขับขี่อยู่ในสภาพที่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ให้เจ้าหน้าที่คืนใบขับขี่, อนุญาตให้ขับขี่ต่อไปได้ เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในสภาพพร้อมขับขี่ ไม่เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นแล้ว กรณีเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ขับขี่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการได้รับใบอนุญาตขับขี่ ให้เจ้าหน้าที่สามารถยึดใบขับขี่ โดยแจ้งสั่งยึดพร้อมเหตุผลให้ผู้ขับขี่ทราบ และมอบหลักฐานการยึดไว้กับผู้ขับขี่ไว้เป็นหลักฐานด้วย และแจ้งต่อนายทะเบียนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
- ให้ สตง. จัดทำระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับขี่รถ โดยหากผู้ขับขี่ถูกตัดแต้มจนหมดตามที่กำหนดไว้แล้ว ให้พักใบขับขี่ 90 วัน และเข้าอบรมตามหลักสูตร หากมีค่าใช้จ่ายต้องออกเอง
กรณีผู้ขับขี่ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรง หรือหลบหนี ให้เพิกถอนใบขับขี่ได้ไม่เกิน 90 วัน และถ้าถูกพักใบขับขี่ เกิน 2ครั้งในรอบ 3 ปี และ เจ้าหน้าที่เห็นว่า ควรพักใบขับขี่เดิน 90 วัน ก็สามารถแจ้งขนส่งยึดใบขับขี่เพิ่มเติมได้
กรณีทำผิดซ้ำในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี และ เจ้าหน้าที่มีความเห็นว่า ควรเพิกถอนใบขับขี่ ก็สามารถแจ้งขนส่งเพิกถอนได้ โดยในการแจ้งเพิกถอนใบขับขี่เพิ่มเติมนั้น จะต้องเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ. ตร. เป็นผู้ดำเนินการแจ้งนายทะเบียนดำเนินการ
- กรณีที่เจ้าของรถที่กระทำความผิดเป็นนิติบุคคล หากตัวแทนของนิติบุคคลไม่แจ้งว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำผิด หรือดำเนินการ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ต้องระวังโทษปรับในอัตรา 5 เท่าของค่าปรับสูงสุด