บ่อยครั้งที่เรามักพบเห็นรถมอเตอร์ไซค์วิ่งช่องทางหลักทั้งที่มีป้ายห้ามอย่างชัดเจน จนทำให้บางครั้งผู้ใช้รถในช่องทางนั้นมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดถึง 1,000 บาท
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับช่องทางหลัก และชื่อที่ถูกต้องแท้จริงของช่องทางตามที่ภาครัฐกำหนดไว้จะได้เข้าใจตรงกัน
- ช่องทางรถเร็ว ด้านขวา ติดเกาะกลาง เรียกตามราชการว่า ทางหลักหรือ ภาษาอังกฤษระบุชัดเจนว่า MAIN ROAD
- ช่องทางที่ติดกับริมทางด้านซ้ายหรือเลนช้า เรียกตามราชการว่า ทางขนาน หรือภาษาอังกฤษระบุชัดเจนว่า FRONTAGE ROAD สรุปสั้นๆ ว่า ช่องทางด้านริมซ้ายที่ไม่ใช่ช่องทางรถเร็ว เรียกว่า ทางขนาน
สำหรับช่องทางหลักจะมีที่ไหนบ้างเรามาดูกัน
สังเกตง่ายๆ เลยว่าถนนเส้นไหนที่มีช่องทางหลักนั่นก็คือ ถนนที่ถูกแบงโดยชัดเจนมี 2 ช่องทางเดินรถที่มีทั้งด้านนอกและด้านใน ที่เราเรียกว่าช่องทางหลัก ซึ่งเป็นช่องทางด้านขวาติดเกาะกลางรถสามารถทำความเร็วได้ ส่วนด้านนอกเรียกว่าทางขนานเป็นช่องทางด้านริมซ้ายที่ไม่ใช่ช่องทางรถเร็ว ซึ่งเราสามารถเจอได้ตามถนนดังนี้ ถนนพหลโยธิน จากกรุงเทพ จะผ่านรังสิต-คลองหลวง-แยกต่างระดับบางปะอิน-วังน้อย-หนองแค-หินกอง-สระบุรี ถนนบางนา-ตราด ถนนพระราม 2
ทางหลวงสายหลักที่มีช่องทางขนานควบคู่กันไปนั้น ส่วนมากจะถูกติดตั้งป้ายห้ามมอเตอร์ไซค์ใช้ทางหลัก สามารถพบเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะเขตเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อบริหารจัดการประเภทรถให้การจราจรมีความคล่องตัว และลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุของรถมอเตอร์ไซค์ ที่เกิดขึ้นได้ง่ายและอันตรายมากกว่ารถยนต์
ดังนั้น การฝ่าฝืนขับขี่มอเตอร์ไซค์บนทางหลักที่มีป้ายห้าม ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 35 มีโทษปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท ตำรวจมีสิทธิ์จับกุมได้ทันที นอกจากนั้น หากมอเตอร์ไซค์เกิดอุบัติเหตุบนช่องทางหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาความผิดตามลักษณะการเกิดเหตุด้วย
